ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
รวมครบ 18 คำถามเด็ด ‘ช้อปดีมีคืน 2565’
ปลายปีที่แล้วนักช้อปคนไทยได้รับข่าวดีเกี่ยวกับโครงการ ‘ช้อปดีมีคืน’ ที่รัฐจัดมาให้อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคเศรษฐกิจ ในปีนี้โครงการนี้ได้กลับมาอีกครั้ง โดยช่วงเวลาการช้อปที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จะอยู่ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2565
ช่วงนี้ใกล้ถึงกำหนดเวลาจบโครงการแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัยมากมายว่า สรุปแล้วโครงการนี้มีข้อกำหนดอะไรบ้าง และเราสามารถช้อปอะไรได้บ้าง วันนี้เรารวบรวมคำถามและคำตอบยอดฮิตมาไขข้อข้องใจ เผื่อใครยังช้อปไม่เต็มสิทธิ จะได้ไปช้อปกันให้เต็มสิทธิค่ะ
1. เราต้องใช้สิทธิไหม ลงทะเบียนอย่างไร เราใช้ ‘คนละครึ่ง’ หรือเราใช้ ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’ แล้ว เรายังใช้สิทธิ ‘ช้อปดีมีคืน’ ได้อีกไหม และใช้สิทธิได้เท่าไร
2. เมื่อซื้อของครบ 30,000 บาท สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เท่าไร ทุกคนลดหย่อนภาษีได้เท่ากันไหม
3. การใช้สิทธินี้เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีของปีไหน
4. ซื้ออะไรจึงจะใช้สิทธิช้อปดีมีคืนได้
สำหรับสินค้าและบริการที่ไม่เข้าข่ายใช้สิทธิโครงการช้อปดีมีคืน ได้แก่
5. ซื้อสินค้าอุปโภค เช่น สบู่ แชมพู ยาสระผม น้ำยาล้างจาน ถุงขยะ ฯลฯ ได้หรือไม่
6. ค่าซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ แก็ดเจ็ต โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้หรือไม่
7. ซื้อสินค้าประเภทอาหารสดหรือเนื้อสัตว์นำไปประกอบอาหาร ผัก ผลไม้ นม ได้หรือไม่
8. ซื้อหน้ากากอนามัย ชุดตรวจ ATK ได้หรือไม่
9. ซื้อผ้าอ้อมเด็ก ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ได้หรือไม่
10. ซื้อคอร์สนวด สปา เพื่อความงามจากสถานบริการความงามได้หรือไม่
11.ชำระค่าบริการทางการแพทย์เกี่ยวกับการเสริมความงาม ทำหัตถการต่างๆ เช่น ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ทำจมูก ทำศัลยกรรมตา ยกหน้า ได้หรือไม่
12. ค่าอาหารและเครื่องดื่มจากการรับประทานอาหารในร้านอาหารและร้านอาหารในโรงแรมได้หรือไม่
13. ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตเข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืนหรือไม่
14. ชำระค่าเทอมให้กับโรงเรียนนำมาลดหย่อนได้หรือไม่
15. ซื้อทองคำสามารถเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่
16. ซื้อบัตรของขวัญ (Gift Voucher) นำมาลดหย่อนได้หรือไม่
17. ซื้อกองทุนจากสถาบันการเงินนำมาลดหย่อนได้หรือไม่
18. ซื้อของจากแอปพลิเคชันช้อปปิ้งออนไลน์ต่างๆ ได้หรือไม่
สรุปได้สั้นๆ จากมาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2565 ก่อนจะตัดสินใจช้อปอะไร และช้อปเท่าไร ควรต้องพิจารณา 3 อย่าง คือ
1. รายได้สุทธิต่อปีของเราเข้าข่ายที่ต้องเสียภาษีหรือไม่
2. การใช้จ่ายอะไรบ้างที่เราจำเป็นต้องซื้ออยู่แล้ว ไม่ควรใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพียงเพื่อต้องการใช้สิทธิ
3. ก่อนซื้ออะไรก็ตามให้ถามสถานบริการหรือผู้ขายก่อน เพื่อความมั่นใจว่าเป็นสถานบริการหรือร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบได้หรือไม่ และสินค้าหรือบริการของเราเป็นสินค้าที่เข้าข่ายสามารถเข้าร่วมโครงการหรือไม่
ข้อมูล ณ วันที่ 20 มกราคม 2565
บทความโดย คุณกมลชนก รามโกมุท ผู้อำนวยการ Estate Planning and Family Office ธนาคารไทยพาณิชย์
ที่มาข้อมูล :
The Standard Wealth
ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด