นอกเหนือจากคุณภาพและดีไซน์ การมี “สินค้าแบรนด์เนม” ไว้ประดับกายนั้น ยังช่วยสร้างความมั่นใจ และภาพลักษณ์ในการเข้าสังคมได้ แต่ในเมื่อไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถจับจ่ายแบรนด์เนมกันเป็นว่าเล่นแบบไม่สะดุ้งสะเทือน การเลือกซื้อ เลือกขายสินค้าแบรนด์เนมอย่างชาญฉลาดนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจยังลุ่มๆ ดอนๆ

ในฐานะผู้ซื้อ การเดินเข้าร้านแบรนด์เนมแล้วรูดบัตรจ่ายกระเป๋าใบเรือนแสน อาจเป็นความจริงที่เจ็บปวดหน่อยๆ และชวนหนาวนิดๆ ดังนั้นการเข้าไปดูสินค้ามือสอง สภาพนางฟ้า หรือบางชิ้นยังไม่เคยได้ใช้เลย นอกจากมีโอกาสคว้าราคาที่ต่ำกว่ามือหนึ่งตั้งแต่ 20% - 50% แล้ว บางทีคุณอาจจะได้ของสภาพนางเอกในราคาเพื่อนนางเอกเลยก็ได้

ในฐานะผู้ขาย เมื่อโลกแฟชั่นหมุนเปลี่ยนเร็ว การห้ามใจไม่ให้ครอบครองคอลเลคชันใหม่นั้นยากยิ่งนัก การระบายของเก่าของเราให้เป็นของใหม่ของคนอื่นถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ เพราะเงินที่ได้จะหมุนกลับมาเป็นต้นทุนให้กับของชิ้นใหม่ๆ

การรู้จักปล่อยของในตลาดมือสองนั้นเป็นเครื่องมือชั้นดี ใครมีของมาปล่อยมากๆ บ่อยๆ ก็สามารถผันตัวเองเป็นร้านฝากขายเก็บค่าคอมมิชชั่น เป็นค่าขนมได้อีกต่างหาก

ปัจจุบันตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองในโซเชียลมีเดียนั้น เกิดขึ้นมากมายราวดอกเห็ด โดยเฉพาะเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม แค่ลองพิมพ์ “แบรนด์เนมมือสอง” เราก็จะเห็นร้านหรือกลุ่มขายสินค้าแบรนด์เนมขึ้นมามากมาย โดยสินค้ามีให้เลือกตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน แต่โปรดจำไว้ให้ขึ้นใจว่า หากเป็นร้านประเภทรับฝากขาย ร้านค้าเหล่านั้นจะเก็บแต่ค่าบริการ ไม่รับผิดชอบการซื้อขาย ดังนั้นผู้ซื้อและผู้ขายต้องทำการตกลงกันเอง

ที่สำคัญต้องระลึกไว้เสมอว่า มิจฉาชีพมีในทุกอาชีพ สำหรับมือใหม่แนะนำให้หาร้านค้าเป็นหลักแหล่งที่ตั้งแน่นอน มีปัญหาเข้าไปปรึกษาหรือดูของได้ จุดนี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในระดับหนึ่ง

ร้านค้าแบรนด์เนมมือสองอีกที่ที่คนไทยนิยมมากๆ และมักจะได้รับความเชื่อถือระดับ 10 เต็ม 10 คือร้านค้าแบรนด์เนมมือสองในประเทศญี่ปุ่น ถึงขนาดว่าหลายๆ คน จัดเป็นโปรแกรมห้ามพลาดหากได้ไปเยือนประเทศนี้ ร้านค้าเหล่านี้มีอยู่มากมายในเมืองท่องเที่ยวและย่านการค้าของญี่ปุ่น หลายๆ ร้านมีจำนวนแบรนด์เนมมากกว่า 1 ล้านชิ้นต่อปี มีให้เลือกตั้งแต่สินค้ามือสองที่ยังไม่ได้ใช้ ยันใช้กันจนชอกช้ำก็มี ราคาก็ลดหลั่นกันตามสภาพ ยกตัวอย่าง กระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นยอดนิยม ราคาประมาณ 2 แสนกว่าบาท เราสามารถหาได้ในราคา 6 หมื่นบาทไปจนถึง - 1 แสนบาท บางคนซื้อมาใช้ด้วยความถนอม มีอุปกรณ์ครบ สามารถนำมาปล่อยในตลาดมือสองเมืองไทยในราคาเท่าทุน หรือทำกำไรได้เล็กน้อยเลยทีเดียว

หลายๆ คนอาจมองว่าการใช้ของแบรนด์เนมเป็นความฟุ่มเฟือย ไร้สาระ แต่หากรู้จักบริหารจัดการให้ดี สินค้าเหล่านี้สามารถนำมาปล่อยขายได้อีกหลายต่อ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมในราคาประมาณ 40,000 บาท แล้วนำมาปล่อยในตลาดมือสองหลังใช้ไปแล้วสักสองสามปีในสภาพนางฟ้า ก็อาจจะได้ราคาถึง 30,000 บาท เลยทีเดียว

ดังนั้น รักจะมีแบรนด์เนมสักชิ้น อย่าลืมประเมินกำลังทรัพย์ที่เพียงพอ และเน้นลงทุนในรุ่นคลาสสิกของแบรนด์ดังๆ รับรองไม่ต้องห่วง จะสะพายไว้ใช้เองก็ไม่ตกยุค หรือจะขายต่อก็ไม่เจ็บปวดแน่นอน ส่วนใครที่ทรัพย์ยังไม่ถึง ก็เอาที่เราพอไหว เพราะการรู้จักประมาณตน ถือเป็นลาภอันประเสริฐ