ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
รวม 3 วิธีการขับรถประหยัดน้ำมันได้ง่าย ๆ แค่ปลายเท้าของเราเอง
รถยนต์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์มาก แต่ขณะเดียวกันก็มีความสิ้นเปลืองในการใช้งานตามมา ดังที่พูดกันว่า ใครมีรถก็มีรายจ่ายทุกวัน เพียงแต่ไม่ได้ควักกระเป๋าทุกวันเท่านั้นเอง ทั้งค่าเสื่อมราคาที่เกิดขึ้นทุกวัน ค่าบำรุงรักษา ค่าซ่อม ค่าประกันภัย ภาษีประจำปี ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ และแน่นอนค่าเชื้อเพลิง ทำให้เจ้าของรถแต่ละคนมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยในแต่ละปี ซึ่งบางอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่บางอย่างก็สามารถลดค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองได้ เช่น การขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ จะทำให้เบี้ยประกันภัยในปีต่อไปลดลงชนิดเห็นเป็นน้ำเป็นเนื้อทีเดียว รวมถึงการขับขี่ที่ถูกต้อง การใช้งานที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ ลงทำให้ค่าซ่อมบำรุงลดลงได้อีกไม่น้อยเลย
สิ่งหนึ่งที่เป็นค่าใช้จ่ายหลักและเกิดขึ้นเกือบทุกวันนั่นคือ “เชื้อเพลิง” ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซ หรือแม้แต่พลังงานไฟฟ้าก็ตาม แต่การที่ทุกคนต้องใช้รถทุกวันทำให้เกิดความเคยชินและมองข้ามหรือยอมรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากส่วนนี้อย่างเต็มใจ จริง ๆ แล้วแม้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องยอมจ่ายแต่มีวิธีการที่ผู้ใช้รถทุกคนสามารถช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นได้ด้วยตนเอง เมื่อพร้อมแล้วก็มาดูวิธีประหยัดน้ำมันกันเลย
1. วางแผนเดินทาง
การวางแผนการเดินทางเป็นวิธีประหยัดน้ำมันที่ควรปฏิบัติเพราะมีผลต่อการสิ้นเปลืองน้ำมันไม่น้อย ผู้ขับควรศึกษาข้อมูลเส้นทางต่าง ๆ ที่คล่องตัวที่สุดเพราะการจราจรที่หนาแน่นติดขัดเป็นการเผาเชื้อเพลิงทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์และหากจะต้องเดินทางไปทำธุระหลายที่ควรเริ่มจากเป้าหมายที่ไกลที่สุดก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมา เพราะหากเริ่มจากระยะทางใกล้ ๆ เครื่องยนต์ที่ยังใช้งานไม่นานอุณหภูมิจะยังไม่ถึงระดับที่จะทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ทำให้สิ้นเปลืองมากกว่าปกติและเมื่อดับเครื่องยนต์และสตาร์ทใหม่ก็เท่ากับเริ่มต้นอุ่นเครื่องกันใหม่อีกครั้ง
แต่ถ้าเลือกเป้าหมายที่อยู่ไกลก่อน เมื่อถึงที่หมาย เครื่องยนต์ที่ทำงานมาพอสมควร จะมีอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการทำงาน ดังนั้นแม้จะดับเครื่องยนต์เพื่อทำธุระ แล้วสตาร์ทใหม่ ความร้อนก็ยังมีอยู่ ทำให้การเผาไหม้ดีกว่า เรื่องนี้ถ้ารถใครมีระบบแจ้งอัตราสิ้นเปลืองที่หน้าปัด ลองสังเกตดูจะพบว่าตอนใช้งานใหม่ๆ ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองนั้นขึ้นไปสูงจนน่าตกใจทีเดียว
2. ความเร็วและการใช้คันเร่ง
ความเร็วในการขับขี่มีผลต่อการสิ้นเปลืองโดยตรงจึงไม่ควรใช้ความเร็วสูงเกินไป การขับขี่ในย่าน 80-100 กม. /ชม. จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าหรือหากเร่งรีบจะเพิ่มไปสัก 110 ก็ยังพอไหว
แต่สิ่งที่มีผลมากและหลายคนอาจมองข้ามไปคือการใช้คันเร่ง แม้จะขับขี่ด้วยความเร็วที่ไม่สูงนักแต่ถ้าเป็นการขับแบบกระชาก เช่น ออกตัวแรง ๆ หรือเร่งเครื่องอย่างรวดเร็วนั่นเป็นช่วงเวลาที่สิ้นเปลืองมาก ดังนั้นการจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันจึงอยู่ที่เท้าของเรา เช่น การรักษาระยะห่างจากคันหน้าที่เหมาะสม เลี่ยงการจี้ท้ายเพราะจะทำให้การใช้เบรกลดลง และเมื่อจะเพิ่มความเร็วก็จะไม่ต้องกดคันเร่งหนักเกินไป แต่ค่อย ๆ เติมน้ำหนักเท้าให้นุ่มนวลที่สุดก็เป็นอีกวิธีการประหยัดน้ำมันที่ดี
3. แอร์ ยาง และการบำรุงรักษา
นอกจากเรื่องของการขับแล้วการใส่ใจในรายละเอียดอื่น ๆ ก็ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้เช่นกัน เช่น แอร์ ควรเปิดแค่ให้รู้สึกเย็นเท่านั้นไม่ต้องถึงขั้นฉ่ำ ยางก็หมั่นตรวจเช็กแรงดันหากอ่อนเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก นอกจากนี้การบำรุงรักษารถตามระยะที่กำหนดก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ทำให้เครื่องยนต์ หรือระบบขับเคลื่อนทำงานได้ลื่นไหล การทำความสะอาดหัวเทียนหรือเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาก็ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้นและควรหลีกเลี่ยงการแต่งรถที่มีผลต่อน้ำหนัก การทำงานของเครื่องยนต์หรือหลักแอโร่ไดนามิคเพราะการแต่งรถก็ได้แค่ความสวยงามเท่านั้นและไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อการช่วยประหยัดน้ำมัน
วิธีประหยัดน้ำมันต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากหลายคนรู้และเข้าใจอยู่แล้วแต่อาจจะหลงลืมไปเท่านั้นเอง กลับมาปฏิบัติกันใหม่เพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้มากขึ้นอย่างแน่นอน