ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
รับมือรถหาย พร้อมทำความเข้าใจสิทธิประกัน เพื่อการคุ้มครองสูงสุด
“รถยนต์หาย” คำ ๆ นี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วก็ต้องรีบจัดการเพื่อตามรถกลับคืนมาให้เร็วที่สุด และถ้าไม่ได้รถที่หายคืนก็ต้องดำเนินการเพื่อลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด
หลายคนเมื่อรถหาย อาจจะพยายามตามเอารถคืนด้วยตัวเองผ่านระบบ GPS ที่ติดเอาไว้กับรถ บางคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว โทรศัพท์ไปบอกญาติพี่น้อง กว่าจะเรียกสติกลับมาได้อาจไม่ได้รถคืน
เมื่อรถหาย สิ่งแรก คือ ตั้งสติ รวบรวมเอกสาร แล้วรีบไปที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็บอกข้อมูล รายละเอียดเกี่ยวกับรถ วันเวลา สถานที่รถหาย เพื่อสะดวกในการติดตามรถ
จากนั้น เตรียมเอกสารความเป็นเจ้าของรถ หลักฐานการผ่อนรถ (กรณียังผ่อนไม่หมด) รวมถึงใบแจ้งความ เพื่อไปยื่นแจ้งเคลมกับบริษัทประกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ประกันจะทำการพิสูจน์ว่ารถหายจริงๆ หรือไม่และช่วยติดตามรถที่หายให้ด้วย
มาถึงตรงนี้ เจ้าของรถต้องทราบก่อนว่าตัวเองทำประกันรถประเภทไหนเอาไว้ ซึ่งประกันภัยรถยนต์มีทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่ ประกันภัยชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น 4 ชั้น 2+ และชั้น 3+ โดยแต่ละประเภทจะมีความคุ้มครองแตกต่างกัน
หากทำประกันภัยรถชั้น 1 เมื่อรถหายและไม่สามารถตามกลับคืนมาได้ จะเคลมได้สูงสุดประมาณ 80% ของราคารถยนต์ พูดง่ายๆ เคลมไม่ได้เต็ม 100% เนื่องจากค่าเสื่อมรถ จำนวนปีที่ซื้อมา โดยทุนประกันจะถูกกำหนดจากราคารถในวันที่ทำประกันเช่น รถยนต์ราคา 650,000 บาท และสามารถเคลมประกันได้ 80% เมื่อรถหายและตามกลับคืนมาไม่ได้จะได้ทุนประกัน 520,000 บาท (650,000 x 80%)
แน่นอน ทุนประกันที่จะได้รับจะลดหลั่นลงไปตามประเภทประกัน แต่กรณีรถหายก็สามารถเคลมประกันคืนได้เฉพาะผู้ที่ทำประกันชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 2+ ส่วนประกันที่เหลือจะไม่คุ้มครองกรณีรถหาย และอย่าลืมว่าประกันจะจ่ายก็ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปและลงสำนวนว่า “รถหาย” จริงเท่านั้น
แต่ถ้ารถยนต์คันที่หายไปนั้นยังผ่อนกับไฟแนนซ์อยู่ เจ้าของรถต้องไปแจ้งกับไฟแนนซ์ ตามกฎหมายการเช่าซื้อ การผ่อนรถยนต์กับไฟแนนซ์ถือเป็นการเช่าซื้อทรัพย์สิน ดังนั้น เมื่อทรัพย์สินสูญหายสัญญาจะถูกระงับทันที นั่นหมายถึงไม่ต้องส่งค่างวดที่เหลืออีกต่อไป
กรณีรถหายแต่ยังผ่อนอยู่ เงินทุนประกันที่จะได้รับจากบริษัทประกันจะถูกส่งมอบให้กับไฟแนนซ์ เพราะผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์ยังเป็นไฟแนนซ์อยู่ บริษัทประกันจะคิดคำนวณจากค่างวดคงค้าง หากเงินทุนประกันมากกว่าค่างวดที่เหลือ ประกันจะมอบเงินจำนวนเท่ากับค่างวดคงค้าง และมอบส่วนต่างให้กับเจ้าของรถ แต่หากค่างวดคงค้างมากเกินกว่าทุนประกัน เจ้าของรถก็ต้องคุยกับไฟแนนซ์ว่าจะต้องจ่ายค่างวดรถที่เหลือเท่าไหร่ ซึ่งจะจ่ายมากหรือน้อยขึ้นกับการเจรจาต่อรอง อย่างไรก็ตาม หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเจรจากันได้ ก็ให้ศาลพิจารณาตัดสิน
ตารางความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ประเภทต่างๆ
ประเภทประกันภัยรถยนต์ |
ความคุ้มครอง |
|||||||
ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก |
รถยนต์ที่เอาประกัน |
บุคคลภายในรถคันที่เอาประกัน |
||||||
ทรัพย์สิน |
ชีวิต/ร่างกาย |
รถยนต์หาย/ไฟใหม้ |
ชน |
อุบัติเหตุส่วนบุคคล |
ค่ารักษาพยาบาล |
ประกันผู้ขับขี่ |
ก่อการร้าย |
|
ชั้น 1 |
✓ |
✓ |
✓ |
✓ |
✓ |
✓ |
✓ |
✓ |
ชั้น 2 |
✓ |
✓ |
✓ |
- |
✓ |
✓ |
✓ |
✓ |
ชั้น 3 |
✓ |
✓ |
- |
- |
✓ |
✓ |
✓ |
- |
ชั้น 4 |
✓ |
- |
- |
- |
- |
- |
- |
- |
ชั้น 2+ |
✓ |
✓ |
✓ |
✓* |
✓ |
✓ |
✓ |
✓ |
ชั้น 3+ |
✓ |
✓ |
- |
✓* |
✓ |
✓ |
✓ |
- |
หมายเหตุ : * กรณีที่รถของผู้เอาประกันชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
เมื่อเกิดกรณีรถหาย นอกจากต้องตั้งสติและรีบดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว สิ่งสำคัญ คือ ต้องทำความเข้าใจสิทธิเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ว่าได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง เพื่อให้ได้รับประโยชน์เต็มที่