เจาะลึก Insight เข้าใจอสังหาฯ ด้วยเทรนด์โซเชียล

นักการตลาดออนไลน์ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะต้องทำอย่างไรที่จะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ต้องใช้กลยุทธ์หรือช่องทางอะไร เพื่อเข้าไปอยู่ในทุกโมเม้นท์ของผู้บริโภค คุณภูมิ มณีศรีวงศ์ Business Intelligence Director บริษัท Real Smart ได้แชร์ข้อมูลให้กับผู้ร่วมสัมมนา Digital Solutions for Real Estate ดังนี้

phum

รู้ Insight เข้าใจ ผู้บริโภคบนโลกออนไลน์

จากสถิติประชากรคนไทยในปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น  70 ล้านคน เมื่อเจาะลึกลงไปพบว่า 50 ล้านคนเป็นผู้ใช้งาน Internet นั่นหมายความว่า ผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่อยู่บนโลกออนไลน์  การตลาดออนไลน์จึงกลายเป็นการตลาดแบบ Mass โดยค่าเฉลี่ยที่คนไทยอยู่บนโลกออนไลน์เฉลี่ยสูงถึงวันละ  9 ชั่วโมง หรือกว่า  1 ใน 3 ของวัน และมือถือคือช่องทางหลักที่ใช้ท่องโลก Internet  คุณภูมิยังกล่าวอีกว่า สำหรับการเสิร์ชข้อมูล ผู้บริโภคกว่า 50% ต้องการข้อมูลอะไรบางอย่างจากการเสิร์ช ดังนั้น หากจะขายสินค้าต้องอยู่บนออนไลน์และสามารถดูผ่านมือถือได้ง่าย 


เมื่อเจาะลึกลงไปที่โซเซียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์ม พบว่า Facebook ยังคงเป็นขวัญใจอันดับ 1 ของคนไทย มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 50 ล้าน users ตามด้วย YouTube 42 ล้าน users TikTok น้องใหม่ที่กำลังมาแรง 36 ล้าน users Instagram 18 ล้าน users และปิดท้ายด้วย Twitter 16 ล้าน users ทั้งนี้ กลุ่มประชากรแต่ละแพลตฟอร์มมีความแตกต่างกันออกไป เช่น  Facebook ประชากรหลัก คือ คนวัย 25-34 ปี ขณะที่ TikTok คือ คนวัย 18-34 ปี นอกจากนี้ ยังมีเทรนด์ที่น่าจับตา คือ พฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ไม่ได้ใช้ Google เสิร์ชในการหาข้อมูล แต่พวกเค้ายังเสิร์ชบน TikTok และ Instagram อีกด้วย ดังนั้น การทำ SEO บนเว็บไซต์จึงไม่เพียงพออีกต่อไป


ขณะที่ VDO Content ยังคงเป็นเทรนด์มาแรงแซงทุกโค้ง โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่าใน 1 สัปดาห์คนไทยใช้เวลาดู VDO บน  YouTube ถึง 23 ชั่วโมง ขณะที่บน TikTok และ Instagram 10 ชั่วโมง  เมื่อมีข้อสงสัยว่า Facebook จะได้ไปต่อหรือไม่? คุณภูมิกล่าวว่า อย่าลืมว่าคนไทย 50 ล้าน users อยู่บน Facebook นอกจากนี้ Facebook ยังมีขุมทรัพย์ Data มหาศาลที่เก็บข้อมูลของ users กว่า 80% ขณะที่แพลตฟอร์มน้องใหม่มี Data ไม่มากเท่า Facebook เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมาย PDPA ทำให้การเข้าถึงผู้บริโภคบน Facebook มีความละเอียดและเจาะลึกได้มากกว่าแพลตฟอร์มอื่น Facebook จึงเหมาะกับการทำการตลาดแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่แพลตฟอร์มอื่นเหมาะทำการตลาดแบบ Mass

การตลาดอสังหาฯ บนโลกโซเซียล

โซเซียลแฟลตฟอร์มอะไรที่ครองใจลูกค้ากลุ่มตลาดอสังหาฯ คุณภูมิเล่าว่า จาก Data เดือนมกราคม -มิถุนายน 65 พบว่า อันดับ 1 Twitter 43% รองลงมาคือ Facebook 31% และอื่น ๆ 17% แล้ววิธีการอะไรทำให้เกิด Brand Engagement บน Twitter 1. Developer ใช้ Influencer มาร่วมเปิดโครงการทำให้เกิดการ Retweet จำนวนมาก 2. สร้าง Creative Content เพื่อให้เกิดการ Retweet  Like หรือ Ment  ขณะที่บน Facebook Engagement จะอยู่บนเพจ Brand Official Account เป็นหลัก แล้วคอนเท้นท์ประเภทไหนที่สร้าง Brand Engagement บน Facebook พบว่า Pattern การสื่อสารที่ทำให้เกิด Engagement จะไม่เน้นการขายของ แต่จะเน้น Emotional บวกกับการขับเคลื่อนทางสังคม เช่น การสนับสนุนสินเชื่อบ้านกลุ่ม LGBTQ


เทรนด์การเสิร์ชของคนไทยในตลาดอสังหาฯ

เมื่อได้วิเคราะห์ Data จากการเสิร์ชกลุ่มคำของคนไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 65 พบว่า

  • กลุ่มบ้าน – ทาวน์โฮม มีจำนวนการเสิร์ช 9 แสนครั้ง มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 26%  โดย 5 อันดับทำเลยอดฮิต ได้แก่ 1.ราชพฤกษ์ 2.บางนา 3.พระราม 2 4.รามอินทรา และ 5.สาทร  สำหรับ Keyword คำว่า บ้าน-ทาวน์โฮม ใกล้ฉัน มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 113% และเมื่อค้นหาบ้าน-ทาวน์โฮม คนจะเสิร์ชด้วยคำว่า 1.บ้านจัดสรร 2.ทาวน์โฮม 3.บ้านเดี่ยว 4.บ้านแฝด  ช่วงราคาบ้าน-ทาวน์โฮมที่คนมักระบุในการค้นหาคือ ราคาบ้านไม่เกิน 1.5 – 2 ล้านบาท  นอกจากคำว่าบ้าน ยังมีคำที่คนใช้เสิร์ชหาอีก คือ 1.ดอกเบี้ยบ้าน 2.รีไฟแนนซ์บ้าน 3.บ้านถูกโฉลก

  • กลุ่มคอนโดมิเนียม  มีจำนวนการเสิร์ช 7.8 แสนครั้ง มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 31%  โดย 5 อันดับทำเลยอดฮิต ได้แก่ 1.สุขุมวิท 2.พหลโยธิน 3.ลาดพร้าว 4.แจ้งวัฒนะ และ 5.พระราม 9  สำหรับ Keyword คำว่า คอนโดใกล้ฉัน เพิ่มขึ้นถึง 174%  และคำว่า คอนโดใกล้มหาวิทยาลัย เพิ่มขึ้น 50%  เมื่อเจาะลึกลงไปในด้านสถานที่พบว่า 1.เกษตรศาสตร์ 2.ศรีปทุม 3.มศว. 4.ABAC และเมื่อค้นหาคอนโด คนจะเสิร์ชต่อด้วยคำว่า 1.คอนโดติดรถไฟฟ้า 2.คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้


Key Finding & Recommendation

  1. แม้ว่าจะมีแพลตฟอร์มอื่นที่มาแรงแต่ Facebook ยังคงเป็นตัวหลักที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด เพราะมี Data มหาศาลทำให้ยิงโฆษณาได้ตรงจุดและมีความยืดหยุ่นสูง
  2. ในการนำเสนอคอนเท้นท์ บ้านสไตล์ Modern บ้านสไตล์มูจิ กำลังได้รับความนิยม ควรนำเสนอในรูปแบบ Storytelling ที่มีตัวละครแสดง
  3. การนำเสนอรูปภาพโครงการ ควรมีพื้นที่สีเขียวจะทำให้ได้ Engagement ที่ดี
  4. การนำเสนอโครงการด้วย Immersive Technology (เทคโนโลยีเสมือนจริง) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
  5. การทำ Live Commerce ด้วยการนำเสนอโครงการพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ในวันพุธและพฤหัสบดีจะทำให้ได้รับ Engagement ที่ดี
  6. การใช้ Influencer นำเสนอโครงการไม่จำเป็นจะต้องใช้ Influencer เฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว สามารถใช้ Influencer นอกกลุ่มอสังหาฯ ได้ เพียงแต่ให้เลือกนำเสนอในมุมมองที่เหมาะสมกับความเชี่ยวชาญของ Influencer ซึ่งจะช่วยทำให้เกิด Engagement ที่ดีได้เช่นกัน
  7. การค้นหาบ้านและคอนโดบนโลกออนไลน์มีจำนวนที่สูงมากขึ้น โดยคนจะเสิร์ชจากมือถือเป็นหลัก
  8. คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโต
  9. การทำการตลาดกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บนโลกออนไลน์ ด้วยวิธีการรีวิวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น คลิปวิดีโอหรือ Photo Album  ย่อมส่งผลให้เกิดการสร้าง Brand Awareness ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้อีกทางหนึ่ง  ดังนั้นก่อนที่จะทำการตลาดออนไลน์ Developer ควรหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์คอนเท้นท์ และเลือกใช้โซเซียลแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น เพื่อที่จะไม่พลาดโอกาสในการสร้างการจดจำและเป็นที่รู้จักในสายตาของว่าที่ลูกค้าในอนาคต

 

ที่มา : งานสัมมนา Digital Solutions for Real Estate  โดยคุณภูมิ  มณีศรีวงศ์ Business Intelligence Director บริษัท Real Smart วันที่ 7กันยายน 2565 ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่