ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
EV Car เมกกะเทรนด์น่าจับตา
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือเรียกสั้น ๆ ว่ารถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV (Electric Vehicle) เป็นนวัตกรรมที่ใช้เพียงพลังงานไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน โดยปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะว่าเป็นรถที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ช่วยลดการเกิดมลพิษทางอากาศ
ข้อมูลจาก International Energy Agency ประมาณการว่าในปี 2573 ทั่วโลกจะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนถนนมากถึง 145 ล้านคัน เช่นเดียวกับประเทศไทยที่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ออกนโยบายว่าภายในปี 2578 จะเตรียมยกเลิกการขายรถยนต์น้ำมัน พร้อมสนับสนุนด้านต่าง ๆ เช่น ลดอัตราภาษีสรรพสามิต ยกเว้นหรือลดอัตราอากรนำเข้าสำหรับชิ้นส่วนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก
จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน คนเริ่มใส่ใจปัญหามลพิษและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลทั่วโลกที่ส่งเสริมให้คำนึงถึงการจำกัดและลดปริมาณการปล่อยสารพิษที่ส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน
ประเด็นดังกล่าวถือเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกให้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยประเมินว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะมีสัดส่วนประมาณ 30 - 40% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในปี 2573 เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนเพียง 2.5% ในปี 2562 (ที่มา : Robeco)
ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกวางแผนใช้งบประมาณราว 5 แสนล้านดอลลาร์จนถึงปี 2573 สำหรับการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ และวางแผนที่จะใช้เงินประมาณ 3 แสนล้านดอลลาร์เพื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้าและลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง (ที่มา : Reuters)
ด้วยแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า คือ เมกะเทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องความคุ้มค่าในการใช้งาน, การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม, ลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานจากฟอสซิล รวมถึงโอกาสในการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve)
อย่างไรก็ตาม หากสนใจและกำลังมองหาโอกาสการลงทุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ไม่เพียงแค่ลงทุนกับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น ยังสามารถลงทุนกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ เช่น แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ระบบปรับอากาศในรถยนต์ สถานีชาร์จไฟฟ้า เป็นต้น
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
หากเอ่ยถึงผู้ผลิตรถยนต์ฟ้าคงต้องนึกถึงเทสล่า ผู้ผลิตรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารายแรกของโลก ก่อตั้งเมื่อปี 2546 แต่ปัจจุบันค่ายรถยนต์ทั่วโลกให้ความสำคัญกับการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า และอีกกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า คือ ผู้ประกอบรถโดยสาร EV Car
ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน
รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้ภายใน ดังนั้น กลไกสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าจึงอยู่ที่ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรีคุณภาพสูง ซึ่งแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน คือ แบตเตอรี่พลังงานสะอาดที่ถูกคิดค้นเพื่อนำมาทดแทนแบบเดิมที่เป็นตะกั่วกรด เหมาะกับการใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า เพราะน้ำหนักเบา อายุใช้งานนาน และเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานที่ดีที่สุดในเวลานี้
ผู้ให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า
สถานีชาร์จพลังงานยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger ถือเป็นบริการปลายน้ำที่ต่อยอดมาจากการเติบโตของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นทางภาคเอกชนทยอยติดตั้งสถานีชาร์จมากขึ้นแล้วในบางพื้นที่ เช่น สถานีบริการน้ำมัน ที่จอดรถตามห้างสรรพสินค้า
ผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบยานยนต์และแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์มีความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น ชิ้นส่วนพลาสติก เบาะ ยาง โคมไฟ ระบบปรับอากาศ เช่นเดียวกับแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความสำคัญมากกับอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าด้วย (ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
หากรถยนต์ไฟฟ้ายังคงขยายตัวต่อเนื่องบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าก็จะได้รับประโยชน์ตามไปด้วย จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่สนใจเข้าลงทุน
หากสนใจลงทุนก็สามารถลงทุนหุ้นดังกล่าวโดยตรงจากโบรกเกอร์ที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นรวมถึงซื้อหุ้นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในตลาดหุ้นต่างประเทศผ่านเจ้าหน้าที่การลงทุนโดยตรงหรือเปิดบัญชีลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน หรือลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนธุรกิจ รถยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้ด้วย
เนื่องจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเป็นเรื่องใหม่สำหรับการลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุนควรศึกษาและติดตามข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เช่น ศึกษาผ่านดัชนี Bloomberg Electric Vehicles Index ซึ่งออกแบบมาเพื่อวัดผลการดำเนินงานของหุ้นบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือส่วนประกอบ หรือในสิ่งที่ริเริ่มขึ้นใหม่อื่น ๆ ที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงอนาคตของการเดินทางและการขนส่ง รวมถึงบริษัทต่าง ๆ ที่คาดว่าจะมีรายได้ส่วนใหญ่จากยานพาหนะไฟฟ้า เทคโนโลยีการจัดเก็บพลังงาน เทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ การทำเหมืองลิเธียมและหรือทองแดง และเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (ที่มา : หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ กองทุนไทยพาณิชย์ Electric Vehicles and Future Mobility SCB Electric Vehicles and Future Mobility : SCBEV)
ที่สำคัญ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอยู่ในช่วงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและการลงทุน จึงอาจใช้เวลากว่าจะประสบความสำเร็จ ดังนั้น หากสนใจลงทุนควรเน้นการลงทุนระยะยาวเพื่อรับโอกาสผลตอบแทนในระยะยาว