สรุปภาษีควรรู้ เมื่อเทรด Cryptocurrency


ในปีนี้ที่ตลาด Cryptocurrency ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างมากในรอบหลายปีที่ผ่านมา หลายๆ ท่านอาจจะมีการลงทุน/เทรด Cryptocurrency ไม่ว่าจะผ่าน platform ในประเทศไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือ platform ต่างประเทศกันอยู่บ้าง SCB Wealth Planning and Family Office จึงได้สรุปสิ่งที่ท่านควรทราบเกี่ยวกับภาษีสำหรับการลงทุนใน Cryptocurrency สำหรับนักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา และเทรดผ่าน platform ในประเทศไทยไว้ ดังนี้


 

Platform ในประเทศ 

อัตราภาษี 

  • ในกรณีมีเงินได้ที่เกินกว่าการลงทุน (Capital Gain) จากการลงทุนใน Cryptocurrency เงินได้ส่วนที่เป็น Capital Gain จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% สำหรับ Capital Gain ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ดีการหัก ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% นั้นจะไม่ถือว่าเป็น Final Tax ทำให้ผู้ขายซึ่งเป็นผู้เสียภาษีจะต้องนำเงินได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราภาษีก้าวหน้าตามแบบ ภ.ง.ด. 90/91 ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดไป

 

  • ปัจจุบัน Platform ในประเทศไทยซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% สำหรับ Capital Gain ดังกล่าวยังไม่สามารถทำการหัก ณ ที่จ่ายได้ จึงเป็นหน้าที่ของผู้ขายซึ่งเป็นผู้เสียภาษีที่จะต้องนำเงินได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น

ผลขาดทุนนำมา offset กับกำไรสำหรับปีภาษีเดียวกัน  

 

          สำหรับการเทรด Cryptocurrency ผ่าน Platform ในต่างประเทศ แต่เดิมก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การเสียภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาที่มีเงินได้จากต่างประเทศตามหลัก Resident Rule* นักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาหากมีเงินได้เกิดขึ้นและได้นำเงินได้นั้นเข้ามาในประเทศไทยข้ามปีภาษีกับปีที่เกิดเงินได้ก็จะมีผลให้นักลงทุนท่านนั้นไม่มีภาระภาษีเมื่อนำเงินได้ดังกล่าวกลับมาในประเทศไทยตามหลักเกณฑ์เดิม


 

          แต่เมื่อหลักเกณฑ์ได้เปลี่ยนแปลงไปทำให้เงินได้ที่เกิดขึ้นจากการเทรด Cryptocurrency ผ่าน Platform ในต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป เมื่อนักลงทุนนำเงินได้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไปเข้ามาในประเทศไทยจะมีผลให้นักลงทุนท่านนั้นต้องนำเงินได้ที่ได้นำเข้ามาดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทยตามอัตราภาษีก้าวหน้า (5% - 35%) ทั้งนี้ในส่วนของการเทรด Cryptocurrency ผ่าน Platform ในต่างประเทศ นักลงทุนมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาทำความเข้าใจภาษีในประเทศนั้นๆ ว่ามีการจัดเก็บภาษีอย่างไรจากเงินได้ที่เกิดขึ้นเพื่อที่จะได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ รวมทั้งจากการประชุมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ผ่านมาได้มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการปิดกั้นช่องทางการเข้าถึง platform ต่างประเทศ เช่น Binance และ Bybit  ในกรณีที่ท่านได้มีการลงทุนใน Cryptocurrency ผ่าน platform ต่างประเทศ ท่านอาจจะต้องติดตามข่าวจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้


          ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความ “อัปเดตภาษีเงินได้ต่างประเทศล่าสุด ก่อนวางแผนนำเงินกลับประเทศไทย


          ลูกค้า SCB PRIVATE BANKING ที่สนใจในเรื่องบริหารสินทรัพย์ครอบครัวเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่น สามารถติดต่อ Wealth Planning and Family Office Division ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้ที่ที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุน (RM) ของท่าน 


บทความโดย: ที่ปรึกษา Wealth Planning and Family Office ณัชภัค อนันต์อาชญาสิทธิ์ และ สุริศา ทองใบ