ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
คัดกองทุนเด่นธีม EV เกาะกระแสการลงทุนกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles) หรือที่คุ้นหูกับคำว่า EV มีการพัฒนาต่อเนื่องมาตลอด โดยคาดการณ์ว่าปี 2040 ยอดขายรถยนต์ EV จะคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 55% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมด และมากกว่า 33% ของจำนวนรถยนต์ที่ใช้ทั่วโลกคือรถยนต์ไฟฟ้า
โดยหากพูดถึง EV จะหมายถึงรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไปในการขับเคลื่อน รวมไปถึง
ในปี 2025 ประเทศจีนจะมีสัดส่วนของยอดขาย EV เกือบ 50% จากทั่วโลก เนื่องจากระยะทางเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นต่อรถยนต์ EV 1 คัน ประกอบกับการใช้แพลตฟอร์ม Ride Sharing อาจส่งผลให้การใช้รถยนต์ EV มีต้นทุนต่ำลงและสามารถแข่งขันได้หากเทียบรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิง (Fossil) โดยจีนนับว่าเป็นตลาดรถยนต์ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศประมาณ 1.4 ล้านคันในปี 2563 คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของ EV ขายทั่วโลก โดยสิ้นปี 2020 จีนมีสถานีชาร์จ 807,000 แห่ง เทียบกับสหรัฐฯ ที่มีเพียง 97,000 แห่ง นอกจากนี้การพัฒนาเมืองของจีนยังออกแบบให้รองรับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์อัตโนมัติแบบครบวงจร รวมถึงรัฐบาลจีนยังได้ขยายโครงการเงินอุดหนุนสำหรับยานยนต์พลังงานสะอาดต่อเนื่องจนถึงปี 2022
นอกจากนี้การใช้รถยนต์ EV ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับต่ำ ทำให้หลายประเทศได้เสนอมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ EV โดยผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 18 ราย จาก 20 ราย ต่างมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับระบบการขนส่งสินค้าของบริษัทมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทน นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็มีโอกาสที่จะเติบโตควบคู่กันไปด้วย เช่น แบตเตอรี่ลิเธียม เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก เช่น ลิเธียม ทองแดง เป็นต้น โดยจากปี 2015-2030 ความต้องการแบตเตอรี่ลิเธียมทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1,829% จากปี 2017-2025 รายได้จากลิเธียมซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 450% และจากปี 2017-2027 ความต้องการทองแดงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอาจเพิ่มขึ้น 9 เท่า
สำหรับการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับขุมทรัพย์พลังยานยนต์แห่งอนาคต หลักๆ ประกอบด้วย
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในธีมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ที่คาดว่าจะเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจโลกในระยะยาว วันนี้ขอนำเสนอตัวอย่างกองทุนที่ลงทุนภายใต้ธีมที่กำหนด เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Electric Vehicles and Future Mobility (SCBEV) เริ่มเสนอขายครั้งแรก 21-25 กุมภาพันธ์นี้ เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ กองทุน KraneShares Electric Vehicles & Future Mobility ETF (กองทุนหลัก) เป็นกองทุนประเภท Exchange Traded Fund (ETF) โดยมุ่งหวังให้ผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายสอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนีอ้างอิง ซึ่งปัจจุบันคือ Bloomberg Electric Vehicles Index เป็นดัชนีที่เป็นตัวแทนของกลุ่ม EV Ecosystem ได้ดี โดยกระจายการลงทุนครอบคลุมประเทศหลักๆ ที่มีแนวโน้มการเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ เช่น จีน สหรัฐฯ และเยอรมนี เป็นต้น
สำหรับกองทุนหลักจะลงทุนในบริษัทผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่, เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน, เซ็นเซอร์, ลิเธียม และทองแดง เป็นต้น โดยเบื้องต้นได้ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มยานยนต์แห่งอนาคต เช่น Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด สัญชาติอเมริกัน, Nidec ผู้ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น และ Analog Devices บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ สัญชาติอเมริกัน นอกจากนี้ผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนหลักยังมี Track Record ที่ดีนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน โดยกองทุนนี้ได้เปิดให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนถึง 3 ชนิด ได้แก่ 1. SCBEV(A) ชนิดสะสมมูลค่า สามารถซื้อได้ทุกช่องทาง 2. SCBEV(E) ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ในรูปแบบ e-class ฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและการจัดการ โดยต้องลงทุนผ่าน SCBAM Fund Click เท่านั้น และ 3. SCBEV(SSF) ชนิดกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี
อ้างอิง:
ข้อมูล ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565
บทความโดย คุณณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด
ที่มา : The Standard Wealth