หากพูดถึงแพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการไทย PayZave คือแพลตฟอร์มหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ด้านสภาพคล่องและสร้างผลตอบแทนให้ผู้ประกอบการได้ โดยคอนเซ็ปต์ของ PayZave จะง่ายๆ ตามชื่อคือ จ่ายก่อน ประหยัดกว่า ซึ่งข้อดีของแพลตฟอร์มนี้จะเป็นอย่างไร คุณปัณณิกา ปาละนันทน์ (คุณแพง) Team Lead จากบริษัท Digital Ventures ได้มาอธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้นใน งานสัมมนาออนไลน์ “ปรับกลยุทธ์ SMEs เสริมสภาพคล่องให้ Supply Chain ด้วย Digital Platform” เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

ทำความรู้จักกับ PayZave

แพลตฟอร์ม PayZave ได้ถูกศึกษาและพัฒนาขึ้นจากการพยายามทำความเข้าใจปัญหาของลูกค้า ซึ่งคุณแพงเล่าว่า ทีมพัฒนาได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ประกอบการเมื่อปลายปี 2563 พบว่าสิ่งที่ SME กำลังประสบอยู่คือปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง เข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก กลุ่มที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ก็ต้องพบเจอกับปัญหาต้นทุนทางการเงินหรือดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นบริษัทขนาดเล็ก สถานะการเงินอาจจะยังไม่แข็งแรง ส่วนบางรายที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนก็ต้องพึ่งพาการกู้ยืมเงินนอกระบบซึ่งมีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก

หาก SME อยู่ไม่ได้ จะส่งผลกระทบต่อทั้งระบบ Supply Chain รวมถึงภาคการจ้างงานและ GPD ของประเทศด้วย ซึ่งมองอีกมุมจะพบว่า บริษัทที่ค่อนไปทางใหญ่ มีความมั่นคงและสภาพคล่องเพียงพอ มีอยู่ไม่น้อย ซึ่งหากบริษัทดังกล่าวนำเงินไปลงทุน ในสถานการณ์นี้จะได้ผลตอบแทนค่อนข้างน้อย เพราะไม่สามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงสูงเกินไปได้ ในขณะที่ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากจะได้อยู่ที่ไม่ถึง 1 %

เมื่อทาง Digital Ventures พบช่องว่างระหว่างบริษัทที่สภาพคล่องเหลือ และบริษัทที่ต้องการสภาพคล่อง ทำให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาปิดช่องว่างนี้ให้แคบลง เหมือนการเปิดทางให้รายใหญ่ช่วยรายเล็ก โดยที่แต่ละฝ่ายต่างก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน และสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ จึงเป็นที่มาของการพัฒนา PayZave ขึ้นมาตอบโจทย์

PayZave ช่วย SME ได้อย่างไร?

PayZave เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มตรงกลางที่เชื่อมระหว่างผู้ซื้อ (Buyer) และผู้ขาย (Supplier) ให้มาเจอกันง่ายขึ้น หากผู้ซื้อมีใบแจ้งหนี้ที่อาจจะมีเครดิตเทอมอยู่ที่ 30 วัน - 120 วัน หรือผู้ขายบางรายอาจให้เครดิตเทอมสูงถึง 180 วัน ซึ่งตามปกติแล้ว ผู้ซื้อมักจะรอจนครบเครดิตเทอมแล้วค่อยจ่าย แต่หากผู้ขายจำเป็นต้องใช้เงิน หรือไม่อยากรอ ก็สามารถเข้ามาบนแพลตฟอร์ม PayZave เพื่อกดปุ่มขอรับเงินได้ทันที โดยแลกกับการที่ผู้ขายต้องให้ส่วนลดเงินสดกับผู้ซื้อ ซึ่งส่วนลดนี้ ผู้ซื้อสามารถกำหนดได้เองโดยดูจากกระแสเงินสดของบริษัทว่าสามารถจ่ายก่อนครบกำหนดได้หรือไม่ แต่หากผู้ซื้อมีกระแสเงินสดไม่เพียงพอ ก็สามารถขอวงเงินจากธนาคารเพื่อจ่ายเงินล่วงหน้าให้กับผู้ขายได้ ซึ่งทำให้ผู้ซื้อได้สินค้าที่มีต้นทุนถูกลง ส่วนผู้ขายก็ได้เงินค่าสินค้ามาเสริมสภาพคล่องได้ทันท่วงที ถือเป็นการได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างลงตัว

สำหรับผู้ขายถ้าต้องการขอรับเงินก่อนครบกำหนด ก็เพียงเข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน PayZave มาจาก App Store หรือ Google Play จากนั้นลงทะเบียนผ่านแอป ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก็สามารถใช้งานได้เลย พอเข้ามาที่แอปจะเห็นว่าตนเองมีใบแจ้งหนี้กี่ใบ อยากขอรับเงินล่วงหน้าจากบิลไหนก็สามารถเลือกได้เลย โดยจะขอรับเงินล่วงหน้าทั้งหมด หรือบางบิลก็ได้ กรณีจะขอรับเงินเลย ให้ดูว่าผู้ซื้อขอส่วนลดไว้ที่เท่าไหร่ ถ้าผู้ขายยินยอมที่จะให้ส่วนลดนั้นแก่ผู้ซื้อ ให้กดปุ่มรับเงินล่วงหน้าได้เลย เงินก็จะถูกโอนเข้าบัญชีผู้ขายให้แบบอัตโนมัติ

ส่วนฝั่งผู้ซื้อเองก็สะดวกขึ้น เพราะไม่ต้องเจรจาต่อรองกับผู้ขายทีละราย ไม่ต้องทำเอกสารอนุมัติจ่ายเงิน ไม่ต้องคาดเดาว่าผู้ขายต้องการรับเงินล่วงหน้าหรือไม่ เพราะผู้ซื้อสามารถนำผู้ขายทุกรายเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์ม PayZave แล้วตั้งค่าส่วนลดบนระบบได้เองตามต้องการ

ขั้นตอนการใช้งาน PayZave

PayZave เหมาะกับทุกกลุ่มธุรกิจและทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่มีค่าธรรมเนียมโอนระหว่างธนาคาร และข้ามเขต การใช้งานจะเริ่มจากฝั่งผู้ซื้อเป็นฝ่ายชวนผู้ขายเข้ามาใช้งานระบบ โดยผู้ซื้อจะต้องมีบัญชีเงินฝากกับธนาคารไทยพาณิชย์ ส่วนผู้ขายจะมีบัญชีกับธนาคารใดก็ได้ จากนั้นเข้าสู่ระบบ PayZave เพื่อใช้งานตามขั้นตอนดังนี้

1. ผู้ซื้ออัปโหลดใบแจ้งหนี้ที่ได้รับการอนุมัติพร้อมจ่ายแล้วเข้าไปที่เว็บไซต์ของ PayZave โดยอัปโหลดเป็นไฟล์ Excel ได้เลย ไม่ต้องสแกนเอกสารให้ยุ่งยาก
2. ผู้ซื้อกำหนดส่วนลดที่ต้องการจากผู้ขาย โดยระบบจะคำนวณส่วนลดให้ตามวันที่ผู้ขายมาขอรับเงินจริงจากหน้าบิลนั้นๆ
3. เมื่อผู้ซื้ออัปโหลดเสร็จ ระบบจะส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังผู้ขายให้ทราบว่ามีใบแจ้งหนี้พร้อมจ่ายเข้ามา ทางผู้ขายจะเข้าไปเลือกได้ว่าต้องการรับเงินทันทีหรือไม่ ถ้าผู้ขายจำเป็นต้องใช้เงิน และยอมแลกกับการให้ส่วนลดผู้ซื้อ ก็กดรับเงินได้เลย
4. เมื่อผู้ขายกดรับ ระบบจะส่งคำสั่งไปตัดเงินจากบัญชีของผู้ซื้อ เพื่อเข้าบัญชีของผู้ขายให้แบบอัตโนมัติ
   
   

สำหรับรายการที่ทำบนระบบ PayZave จะมีรายงานแจ้งให้ทราบว่ารายการไหนจ่ายเงินแล้ว ส่วนลดเป็นเท่าไหร่ ผู้ซื้อสามารถนำไปประกอบในการบันทึกบัญชีได้เลย ส่วนใบแจ้งหนี้ที่ไม่มีผู้ขายกดรับเงินล่วงหน้า ก็สามารถดาวน์โหลดมาจ่ายเงินในรอบบิลปกติได้เช่นกัน

ข้อดีของ PayZave

ประโยชน์ของ PayZave นอกจากช่วยทั้ง ECO System ให้อยู่รอดไปด้วยกันแล้ว ผู้ซื้อและผู้ขายในแต่ละฝั่งยังได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย โดยผู้ชื้อไม่มีความเสี่ยง เพราะรู้จักผู้ขายดีอยู่แล้ว และรู้ว่าต้องจ่ายเงินเมื่อไหร่ ถ้าจ่ายเร็วขึ้นก็จะได้ส่วนลด ที่สำคัญผู้ซื้อยังสามารถกำหนดส่วนลดได้เอง เช่น กำหนดส่วนลดหน้าบิลอยู่ที่ 1-2 % ทุกเดือน ก็จะเทียบเท่า 12 – 24% ต่อปี ซึ่งมากว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และอาจจะมากกว่าการนำเงินไปลงทุนระยะสั้นอีกด้วย

ฝ่ายผู้ขายโดยเฉพาะบริษัทขนาดกลาง หรือขนาดเล็ก สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง แค่ดาวน์โหลด PayZave ติดตัวไว้ อยากใช้เงินตอนไหนก็กดขอรับเงินได้ทันที นอกจากนี้ยังเข้ามาดูสถานะใบแจ้งหนี้ของตนเองได้ตลอดเวลา ไม่ต้องคอยสอบถามกับผู้ซื้อบ่อยๆ

ด้วยการที่ PayZave เกิดจากการอยากช่วยเหลือผู้ประกอบการในการส่งต่อสภาพคล่องให้ธุรกิจไปต่อได้อย่างราบรื่นโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้ปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการสามารถใช้งาน PayZave ได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์มจนถึง 31 ธันวาคม 2564 และสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.payzave.com หรือสอบถามทางอีเมล contact@payzave.com