ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
9 เทคนิคขายออนไลน์ยังไงให้ปัง
ทุกวันนี้คนขายออนไลน์มีตั้งแต่นักเรียน นิสิตนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ ข้าราชการ คนเกษียณอายุ ธุรกิจ SMEs และธุรกิจขนาดใหญ่ แน่นอนว่าเมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่เส้นทางออนไลน์ แล้วจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปเพราะมีคู่แข่งจำนวนมหาศาล สินค้าส่วนใหญ่ก็มักจะนำเข้าจากจีนเหมือนๆ กัน ทำอย่างไรที่จะสร้างความแตกต่าง ทำอย่างไรให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าจากร้านของเรา วันนี้มีเทคนิคช่วยเพิ่มยอดขายสร้างรายได้ให้กับคนขายออนไลน์ให้ปังทะลุเพดานมาฝากกัน
เทคนิคที่ 1 ตอกย้ำความสนใจ
Remarketing หรือ Retargeting คือการทำการตลาดเพื่อเป็นการตอกย้ำความสนใจไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เคยคลิกเข้ามาดูในเว็บไซต์หรือหยุดดูโฆษณา ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่าคนๆ นี้มีความสนใจในสินค้า และถ้าหากได้ยิงโฆษณาไปตอกย้ำอีกรอบก็มีโอกาสที่จะมาเป็นลูกค้าได้ แล้วต้องทำอย่างไร ปัจจุบันมีเครื่องมือดิจิทัลสามารถช่วยในการทำ Remarketing ก็คือ Google Analytics ที่ช่วยเจ้าของเว็บไซต์ในการเก็บข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมเพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ในการทำการตลาด ซื้อโฆษณา ปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ และการหาสิ่งที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์สนใจ เช่น สินค้า บริการ รวมถึงเนื้อหาในเว็บไซต์ เครื่องมือตัวที่สองคือ Facebook Pixel เป็น ระบบ Tracking ของ Facebook ที่ใช้ติดตั้งบนเว็บไซต์ของเรา เพื่อติดตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้เยี่ยมชม โดยข้อมูลที่ได้สามารถนำไปใช้กำหนดกลุ่มเป้าหมายในการโฆษณาแบบละเอียดมากขึ้น ซึ่งในระบบของ Facebook เรียกว่า Custom Audience ทำให้ยิงโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
เทคนิคที่ 2 ดึงลูกค้าเก่าให้มาซื้อซ้ำ
เป็นกลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วยการส่งอีเมล หรือ Email Direct Marketing (EDM) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าบริการไปยังอีเมลของลูกค้าเดิมทำให้ส่งตรงถึงลูกค้าเป้าหมายได้ 100% ดังนั้น EDM จึงมีโอกาสที่ผู้รับอีเมลจะสนใจและกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการนั้นซ้ำอีกหากมีการเปิดอ่าน แม้ว่าตามปกติคนไทยจะไม่ค่อยอ่านอีเมลแต่ถ้าทำ EDM ให้น่าสนใจ อัตราการเปิดอ่านมีมากถึง 20% นอกจากนี้การเก็บอีเมลลูกค้าไว้ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาข้อมูลจากภายนอก เช่น Facebook, Google หรือ Line เพียงอย่างเดียว เพราะถ้าหากผู้ให้บริการเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงระบบหรือเกิดขึ้นค่าโฆษณา ร้านของเราก็ยังมีฐานข้อมูลอีเมลลูกค้าเดิมอยู่ในมือ
เทคนิคที่ 3 รีวิวอย่างเทพสร้างความมั่นใจในการซื้อสินค้า
ทุกวันนี้เวลาคนจะซื้อสินค้าอะไรต้องอ่านรีวิวก่อนว่าคนอื่นมีความคิดเห็นอย่างไร ถ้าเสียงส่วนใหญ่เป็นบวกโอกาสที่สินค้าของเราจะขายดีมีแน่นอน แล้วต้องทำอย่างไรให้ลูกค้าช่วยรีวิวสินค้าให้เรา วิธีการง่ายๆ คือ ขอลูกค้าตรงๆ ว่าถ้าใช้สินค้าแล้วดีช่วยรีวิวให้หน่อย แต่ถ้าอยากให้การรีวิวตรงประเด็นช่วยชูจุดเด่นของสินค้า ควรที่จะมีการส่งคำถามสั้นๆ ไปให้ลูกค้าช่วยตอบคำถาม เช่น สินค้าตัวนี้ใช้แล้วเป็นอย่างไร จะแนะนำคนอื่นให้ใช้อย่างไร ซื้อของกับร้านนี้เป็นอย่างไร เพียงแค่นี้คุณภาพของการรีวิวสินค้าของคุณก็จะดีมากขึ้น แล้วยังสามารถขออนุญาตลูกค้าเอารีวิวไปเผยแพร่ใน Facebook , Instagram หรือเว็บไซต์ของเราได้อีกด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนที่สนใจจะซื้อสินค้าจากเราว่าเป็นของดีมีคุณภาพไม่โดนหลอกลวงอย่างแน่นอน
เทคนิคที่ 4 เพื่อนบอกเพื่อน
เทคนิคการตลาดที่ใช้กันมานานก็คือการบอกต่อหรือ Referral Program แต่จะทำอย่างไรให้คนอยากบอกต่อ วิธีการคือ ต้องได้รับประโยชน์ทั้ง “คนบอก” และ “คนถูกบอก” ตัวอย่าง คนบอกหรือลูกค้าเก่าจะได้รับของสมนาคุณกลับไปส่วนคนถูกบอกหรือลูกค้าใหม่นั้นจะได้ทดลองใช้สินค้าหรือของแถมหรือการลดราคาสินค้า แต่สิ่งที่ให้ควรเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับลูกค้าทั้ง 2 ฝ่ายก็จะดีที่สุด
เทคนิคที่ 5 ขายพ่วงวิธีช่วยดันยอดขาย
หากต้องการขายของให้ลูกค้าเพิ่มควรใช้เทคนิคขายพ่วงหรือการ Upsell วิธีการคือหาสินค้าที่สามารถขายพ่วงไปกับสินค้าหลักได้ เช่น ขายเคสมือถือพ่วงฟิล์มติดมือถือหรือขายหน้ากากผ้าจัดโปรซื้อ 4 ชิ้นพ่วงสายคล้องคอในราคาพิเศษก็สามารถทำให้เกิดการซื้อของจำนวนมากขึ้น โดยที่ลูกค้าก็ได้สินค้าที่เกี่ยวเนื่องไปด้วย
เทคนิคที่ 6 เกาะกระแสแคมเปญใหญ่เจ้าดัง
แคมเปญชอปปิ้งระดับชาติอย่าง 10.10 /11.11 /12.12 เป็นแคมเปญใหญ่ที่มาร์เก็ตเพลสชื่อดังอย่าง Lazada, Shopee จัดโปรโมชั่นลดกระหน่ำเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เกิดความอยากซื้อของกับคนทั่วประเทศ ดังนั้นเมื่อเจ้าใหญ่ทุ่มงบประมาณการตลาดขนาดนี้มีหรือที่เจ้าเล็กเจ้าน้อยจะไม่เกาะติดกระแสตาม ควรทำแคมเปญให้ตรงกับเจ้าใหญ่เพราะจะได้อานิสงค์ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างดี โดยที่ไม่ต้องเสียเงินค่าการตลาดแม้แต่บาทเดียว
เทคนิคที่ 7 จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน
เศรษฐกิจในตอนนี้การทำธุรกิจเพียงลำพังดูจะโดดเดี่ยวขาดกำลังในการต่อสู้ ลองหาพันธมิตรธุรกิจหรือ Partner Marketing เพื่อแบ่งปันฐานลูกค้าระหว่างกันจึงเป็นอีกเทคนิคที่ร้านค้าออนไลน์ควรนำมาใช้ แล้วต้องทำอย่างไร ตัวอย่างเช่นหากขายของใน Facebook อาจลองหาร้านค้าที่มีกลุ่มลูกค้าและจำนวนลูกค้าที่ใกล้เคียงกันกับร้านของเรา แล้วลองมาตกลงทำเคมเปญร่วมกัน โดยแชร์งบการตลาดเท่ากันและจัดโปรโมชั่นการขายสินค้าร่วมกันระหว่างร้าน ซึ่งในช่วงแรกอาจทดลองสินค้าบางตัวดูก่อน แล้วดูผลลัพธ์ว่าเป็นอย่างไร หากได้ผลดีค่อยต่อยอดลองหาวิธีการร่วมงานกันให้มากขึ้นกว่าเดิม
เทคนิคที่ 8 Infographic ตัวช่วยดันยอดแชร์
ทุกวันนี้ Facebook ถ้าไม่จ่ายเงินยิงแอดโฆษณาโอกาสที่ลูกค้าจะมองเห็นโพสต์ก็เหลือแค่นิดเดียว แล้วถ้างบไม่เยอะต้องทำยังไง แน่นอนว่า Infographic ที่ให้ข้อมูลเชิงสถิติตัวเลข ความรู้ คนก็ยังชอบแชร์กันอยู่ ดังนั้นร้านค้าออนไลน์ควรมีการทำ Infographic ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสินค้าที่ขาย โดยอาจเริ่มทำจากคำถามที่ลูกค้าถามเข้ามาบ่อยแล้วลองลิสต์ดูว่ามีหัวข้ออะไรบ้างหรือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้สินค้าก็ได้หรือจะเป็นสถิติที่น่าสนใจจากการใช้สินค้าของเรา คอนเทนต์เหล่านี้สามารถทำ infographic ได้ ส่วนวิธีทำ Infographic อาจลองหาจากฟรีแลนซ์ในราคาที่ไม่แพงหรือฝึกทำเองก็ได้ที่ canva.com ไม่มีค่าใช้จ่ายแถมใช้งานง่ายมาก และหาก Infographic ที่ทำมีคนกดไลค์กดแชร์เยอะอาจจะบูทโพสต์ยิงแอดให้คนเห็นมากขึ้นก็จะเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง
เทคนิคที่ 9 รับประกันสินค้า
สิ่งที่จะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าจากร้านออนไลน์ก็คือการรับประกันสินค้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนตัดสินใจซื้อสินค้า ยิ่งเป็นของที่มีมูลค่าสูงด้วยแล้ว ถ้ามีการรับประกันสินค้าก็ยิ่งทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพและกล้าที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าจากร้านของเรา ดังนั้นถ้าหากมั่นใจในคุณภาพสินค้าว่าดีแน่นอนก็ควรให้การรับประกันสินค้าไปเลยว่าถ้าสินค้าเสียหาย ยินดีคืนเงินให้ใน 30 วันหรืออาจรับประกันเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้ภายใน 7 วัน โดยวิธีนี้จะเป็นการเลี่ยงสงครามราคากับคู่แข่งจากร้านอื่นและไม่ต้องกลัวว่าลูกค้าจะคืนสินค้าจนคุณเจ๋งถ้าหากสินค้าคุณภาพดีลูกค้าส่วนใหญ่ไม่มีทางขอคืนเงินอย่างแน่นอนเพราะว่าลูกค้าก็อยากได้สินค้าเอาไปใช้ด้วยเช่นกัน
เทคนิคที่แนะนำมานี้ร้านออนไลน์ไม่จำเป็นต้องนำเอาไปใช้ทั้งหมด ขอให้ลองเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับสินค้าและร้านของเราเพื่อเป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขายสร้างรายได้ให้กับธุรกิจต่อไป ขายสินค้าออนไลน์แต่ไม่มีเงินหมุนลองสมัครสินเชื่อ Speedy Loan วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท* ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน รับเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร พร้อมวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
หรือ
สมัครออนไลน์ทันที
หรือหากคุณกำลังมองหาเงินทุนเพิ่มง่ายๆ ลองมาดูสินเชื่อธุรกิจมณีทันใจ จาก SCB ที่ให้วงเงินสูงถึง 5 แสนบาท โดยไม่ต้องส่งเอกสารใดๆ รู้ผลภายใน 5 นาที โดยกดดูใน SCB Easy App ได้เลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่