“เพื่อนเที่ยว” อาชีพเปลี่ยนชีวิต

ใครจะเชื่อว่าอาชีพเปลี่ยนชีวิต “แจ๊ค หม่า” มหาเศรษฐีชาวจีนเจ้าของอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่นาม Alibaba แท้จริงแล้วคืออาชีพ “เพื่อนเที่ยว”


คุณอ่านไม่ผิดหรอก เรากำลังหมายถึงอาชีพเพื่อนเที่ยว หรือเรียกให้เป็นทางการขึ้นอีกระดับ คือ “ผู้นำเที่ยว” นั่นเอง


แจ๊ค หม่าเริ่มอาชีพเมื่ออายุได้เพียง 12 ปีเท่านั้น เมื่อเริ่มสนใจภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก ถึงขั้นลงทุนขี่จักรยานจากบ้านเข้าเมืองครั้งละ 40 นาทีทุกเช้า ไม่ว่าฝนจะตกหรือหิมะโปรยปราย เป็นเวลานานถึง 9 ปีเพื่อไปโรงแรมใกล้เมืองหางโจว ห่างจากนครเซี่ยงไฮ้ไปทางตะวันตกเฉียงใต้กว่า 160 กิโลเมตร ช่วงนั้นเป็นช่วงที่จีนกำลังเปิดประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก เด็กชายตัวน้อยจึงพกพาความกล้า อาสาเป็นไกด์ให้ชาวต่างชาติแบบฟรีๆ เพื่อฝึกฝนภาษาอังกฤษ


แล้วเราคนไทยทั่วไปล่ะ? มีโอกาสดีที่จะได้ฝึกฝนลับคมตัวเองเหมือนอย่างมหาเศรษฐีชาวจีนรายนี้หรือไม่

คำตอบคือ “ได้” เพราะตอนนี้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 35 ล้านคนแล้ว จากสถิติในปี พ.ศ. 2560 หรือคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 50% ของประชากรในประเทศเราด้วยซ้ำ แถมพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมุ่งสู่การท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่ง้อกรุ๊ปทัวร์มากขึ้น หลายๆ คนเดินทางมาเที่ยวไทยแบบฉายเดี่ยว บ้างจับคู่หรือจับกลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 5 คน

จึงเป็นโอกาสทองของเรา ในการเสนอตัวเป็นเพื่อนเที่ยวแก่ชาวต่างชาติ ยิ่งสามารถแนะนำร้านอาหารดีๆ แหล่งท่องเที่ยวเด็ดๆ ที่หลบซ่อนอยู่ หาไม่ได้จากหนังสือไกด์บุ๊กทั่วไป ยิ่งขับเสน่ห์การท่องเที่ยวในดินแดนแห่งรอยยิ้มได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น


ปัจจุบันแอปพลิเคชันเจ้าตำรับเศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน หรือ Sharing Economy รายใหญ่ของโลกอย่าง Airbnb ได้เปิดฟีเจอร์ชื่อ Experience (ประสบการณ์) เปิดช่องทางใหม่ให้คนทั่วไปเสนอขายประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบชาวบ้านๆ หรือตามความถนัดแก่นักท่องเที่ยวโดยตรง เช่น สอนประสบการณ์เกี่ยวกับอาหาร ที่ได้รับความนิยมสูงสุดถึง 32% ของการจองประสบการณ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการสอนทำผัดไท ต้มยำกุ้ง อาหารชาววัง อาหารไทยแท้รสดั้งเดิม ไปจนถึงสอนแกะสลักผลไม้


ขณะที่แอปพลิเคชันของคนไทยนาม TakeMeTour ผู้สวมบทบาทเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวต่างชาติกับผู้นำเที่ยวในพื้นที่ มีให้เลือกทั้งแบบส่วนตัวและไปเช้าเย็นกลับ เน้นพาไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบเข้าถึงท้องถิ่น โดยปัจจุบันมี “เพื่อนเที่ยว” สมัครเพื่อเสนอบริการนำเที่ยวในไทยบนแพลตฟอร์ม TakeMeTour กว่า 2 หมื่นคนแล้ว


หากคุณสนใจ เราเชื่อว่าไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน ขอแค่ตีโจทย์ให้แตก คิดถึงตอนคุณออกไปเที่ยวไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ ว่าสิ่งใดที่คุณอยากรู้อยากเห็นมากที่สุด

อาจไม่ใช่แค่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในสถานที่ต่างๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถหาอ่านบนเว็บไซต์ได้ แต่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและมุมมองน่าสนใจเกี่ยวกับสังคมและวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นต่างหาก ที่ทำให้ชาวต่างชาติต้องร้อง “ว้าว” และเก็บเกี่ยวเป็นความประทับใจกลับไป


ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น “การดมยาดม” ของคนไทย ชาวต่างชาติสงสัยมากว่าดมอะไร เสียบเข้าไปในจมูกทำไม เสียบรูเดียวไม่พอ แม่ค้าบางคนใช้แบบแพ็คคู่ถึงสองรู เกร็ดเล็กน้อยที่คนไทยคาดไม่ถึงแบบนี้ แต่รู้หรือไม่ทำไมสินค้าใกล้มือเราอย่าง “ยาดม” กลายเป็นของฝากที่ต่างชาติต้องขวนขวายซื้อกลับบ้านมาแล้ว


นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง “อาหารตามสั่ง” ซึ่งมีหลากหลายเมนูให้เลือก สามารถสะท้อนถึงนิสัยใจคอของคนไทยได้เป็นอย่างดีว่าเป็นคนยืดหยุ่นมากแค่ไหน เพราะหากไปเที่ยวในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น การสั่งอาหารแบบตามใจฉันอาจเป็นการสร้างความลำบากแก่พ่อครัวซึ่งวางระบบการปรุงอาหารไว้อย่างเคร่งครัด


หรือแม้แต่ “วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง” ก็เป็นอีกหนึ่งในไอเดียแก้ปัญหาจราจรสุดเจ๋งของคนไทย ถือเป็นกิมมิคที่ชาวต่างชาติชอบและอยากรู้มากๆ เช่นกัน


ส่วนโปรแกรมนำเที่ยว การออกแบบกิจกรรมบนความสนใจพื้นฐานและงานอดิเรกของคุณคือสิ่งที่ดีที่สุด หากชอบชิมและมีความรู้เรื่องอาหาร ลองขายทัวร์พาไปชิมอาหารตามแหล่งดังๆ ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวเป็นคนทำอาหารเก่ง ลองขายทัวร์ให้นักท่องเที่ยวมาหัดทำและชิมฝีมือคุณถึงบ้าน หรือจะพาไปชิมกาแฟฝีมือคุณ ชอปปิ้งตลาดสด สอนมวยไทย ปั่นจักรยาน พาชมแหล่งท่องเที่ยวสุด “อันซีน” เข้าถึงยากก็จัดไป


ขอแค่คุณเปิดใจลองสมัครเป็นเพื่อนเที่ยวเท่านั้น เพราะนอกจากจะได้รู้จักเพื่อนต่างประเทศใหม่ๆ โอกาสฝึกภาษา ทักษะการเล่าเรื่องให้น่าสนใจ รวมถึงสร้างสายสัมพันธ์แล้ว ยังสามารถเมคมันนี่ได้อีกด้วย