ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
28-11-2567
สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย การขอสินเชื่อถือเป็นหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มทุนให้ธุรกิจเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการขยายกิจการ เพิ่มกำลังการผลิต ปรับปรุงระบบการทำงาน หรือแม้แต่ทำให้ธุรกิจในฝันกลายเป็นจริง ซึ่งการขอสินเชื่อไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การได้เงินทุนเพิ่มเท่านั้น แต่คือการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ส่งผลต่อธุรกิจในระยะยาว
การกู้เงินที่ดีต้องเริ่มต้นจากการคิดอย่างรอบคอบและวางแผนให้ละเอียด การตั้งเป้าหมายธุรกิจที่ชัดเจน สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ในระยะยาว นอกจากจะช่วยต่อยอด Passion แล้ว ยังทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจ เพราะหากขาดการวางแผนที่มองไปข้างหน้า หรือประเมินผิดพลาด จนเกิดการกู้ยืมที่ไม่เหมาะสมอาจกลายเป็นภาระที่หนักหน่วงจนฉุดรั้งธุรกิจของคุณให้พลาดโอกาสที่ดีไป
บทความนี้ได้รวบรวมเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้การกู้เงินของคุณเป็นไปอย่างคุ้มค่า ตั้งแต่การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การเลือกวงเงินที่เหมาะสม การเตรียมเอกสารให้พร้อม ไปจนถึงการวางแผนรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน ทุกขั้นตอนถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณมีสินเชื่อที่ใช่สำหรับธุรกิจที่ต้องการการเติบโตอย่างมั่นคง
เริ่มต้นวางแผนอย่างรอบคอบ ใช้โอกาสนี้ให้เต็มที่ วางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง แล้วธุรกิจของคุณจะก้าวไปได้ไกลกว่าเดิม!
ก่อนจะขอสินเชื่อ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ คิดให้ชัดเจน ว่าเป้าหมายของการกู้เงินคืออะไร เพราะเป้าหมายที่ชัดจะช่วยให้คุณเลือกวงเงินและประเภทสินเชื่อที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้ เช่น ต้องการขยายสาขา เพิ่มสต็อกสินค้า หรือจ้างพนักงานใหม่
การวางแผนเป้าหมายช่วยลดความเสี่ยงได้ เพราะการคิดอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณไม่ต้องกู้มากเกินไปจนกลายเป็นภาระดอกเบี้ยระยะยาว และไม่น้อยเกินไปจนไม่สามารถคิดทำอะไรใหม่ๆ ได้ ซึ่งอาจทำให้เสียโอกาสในการเติบโต
ยกตัวอย่างถ้าต้องการเงินเพิ่มสต็อกในช่วงขายดี การเลือกสินเชื่อแบบวงเงิน (วงเงินหมุนเวียน)ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะสินเชื่อประเภทนี้ ได้รับการอนุมัติไว้ล่วงหน้าแล้ว สามารถกดเงินมาใช้ได้ทันทีในช่วงเวลาที่ต้องการ ไม่ต้องรอขั้นตอนอนุมัติใหม่ แต่หากเป้าหมายคือการขยายสาขา ซึ่งต้องลงทุนจำนวนมากและใช้เวลาคืนทุนนาน การเลือกสินเชื่อแบบเงินก้อน พร้อมระยะเวลาผ่อนชำระที่ชัดเจนจะช่วยบริหารเงินสดได้ง่ายกว่า
หลังจากตั้งเป้าหมายแล้ว ลองถามตัวเองต่อว่าเงินที่กู้มาจะถูกใช้ในส่วนใดบ้าง และแต่ละส่วนจะช่วยสร้างผลกำไรอย่างไร เช่น เงินสำหรับสต็อกสินค้า จะช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงที่ความต้องการสูง หรือเงินสำหรับขยายสาขา จะช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ในระยะยาว
การวางแผนล่วงหน้าเช่นนี้ จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมได้ชัดเจนขึ้น รู้ว่าเงินที่กู้ยืมมา เป็น"หนี้ดี"ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจในแง่มุมไหนได้บ้าง ตรงกันข้าม การกู้ยืมที่ขาดการวางแผนและไม่มีเป้าหมายเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว อาจจะกลายเป็น "หนี้เสีย" ที่นอกจากจะไม่สร้างผลกำไรแล้ว ยังอาจทำให้ธุรกิจสะดุด หรือหยุดชะงักได้
ลองตั้งเป้าหมายของคุณตอนนี้ แล้วมองภาพอนาคตที่คุณอยากให้เป็น คุณจะเห็นว่าสินเชื่อที่เหมาะสม ช่วยทำให้ฝันธุรกิจเป็นจริงได้อย่างไร!
ก่อนจะขอสินเชื่อ สิ่งสำคัญที่สุดคือการคิดอย่างรอบคอบ ว่าเราต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะพอดี ไม่มากไปจนเป็นภาระผ่อนคืน และไม่น้อยไปจนไม่พอใช้ หลักง่ายๆ คือ กู้เท่าที่จำเป็นและจ่ายคืนไหว
เพราะการกู้มากเกินไป อาจทำให้ธุรกิจต้องแบกรับภาระค่างวดรายเดือนที่สูงเกินความจำเป็น จนทำให้ขาดสภาพคล่องได้ ในขณะเดียวกัน หากกู้น้อยไปจนไม่พอใช้จริง อาจทำให้เสียโอกาสในช่วงเวลาที่สำคัญ
สิ่งที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ ก่อนต้ดสินใจขอสินเชื่อคือ
การเลือกระยะเวลาผ่อนชำระไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลขบนสัญญาเงินกู้ แต่เป็นการตัดสินใจที่ต้องคิดอย่างรอบคอบ เพราะส่งผลโดยตรงต่อทั้งต้นทุนของธุรกิจและความสามารถในการบริหารเงินสดถ้าผ่อนนาน: ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ค่างวดต่อเดือนจะเบาลง แต่สุดท้ายคุณจะต้องเสียเงินกับดอกเบี้ยจำนวนมาก กลายเป็นภาระระยะยาว และต้นทุนที่ไม่จำเป็น
ถ้าผ่อนสั้น: ค่างวดรายเดือนจะสูงขึ้นมาก จนอาจทำให้ธุรกิจขาดสภาพคล่องจนไม่สามารถจ่ายค่าเช่า ค่าวัตถุดิบ หรือการตลาด ได้เต็มที่ เพราะหมดไปกับค่าผ่อนต่อเดือนที่สูงเกินไป
สิ่งที่ควรคิดก่อนตัดสินใจเลือกระยะเวลาผ่อน:
การกำหนดค่างวดที่เหมาะสมไม่ใช่แค่การเลือกตัวเลขสวยๆ บนกระดาษ แต่ต้อง คิดให้รอบคอบ เพราะสิ่งนี้จะส่งผลโดยตรงต่อสภาพคล่องของธุรกิจและการดำเนินงานในระยะยาว
สิ่งที่ต้องพิจารณาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ
การขอสินเชื่อสำหรับธุรกิจไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำให้สถาบันการเงินเห็นว่าคุณมีความน่าเชื่อถือทางการเงินด้วย การเตรียมความพร้อมในส่วนนี้ต้องอาศัยการคิดวางแผน และประเมินตัวเองอย่างละเอียด
สิ่งที่ต้องคิดและวางแผน:
การเตรียมเอกสารให้พร้อมเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการขอสินเชื่อ เพราะธนาคารมักต้องการข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วน เช่น งบการเงิน รายได้ เอกสารแสดงทรัพย์สิน ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยสะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงินและการบริหารจัดการที่ดีของธุรกิจ ในกรณีที่ไม่มีบัญชีธนาคารกับสถาบันการเงินที่ต้องการขอสินเชื่อ การใช้ D-Statement เป็นทางเลือกที่สะดวกและปลอดภัย โดย D-Statementคือระบบรับส่งข้อมูลการเคลื่อนไหวของบัญชีเงินฝาก (Bank Statement) ในรูปแบบดิจิทัลระหว่างสถาบันการเงิน ช่วยลดความยุ่งยากในการเตรียมเอกสารและทำให้กระบวนการตรวจสอบข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องตั้งแต่แรกจะช่วยให้ขั้นตอนการขอสินเชื่อเป็นไปอย่างราบรื่น แสดงถึงความน่าเชื่อถือและการจัดการที่ดีของธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่สถาบันการเงินให้ความสำคัญ นอกจากนี้ การเตรียมเอกสารให้พร้อมยังช่วยลดเวลาในการอนุมัติสินเชื่อ ทำให้ธุรกิจมีโอกาสได้รับเงินทุนเร็วขึ้น พร้อมนำไปต่อยอดธุรกิจได้ทันที
เมื่อธุรกิจได้สินเชื่อมาแล้ว สิ่งสำคัญคือการใช้เงินให้ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้จริง อย่างคุ้มค่า ทุกบาทที่ใช้ไปควรเป็นการลงทุนที่ช่วยสร้างรายได้และผลักดันให้ธุรกิจเติบโต ไม่ใช่เพียงแค่การใช้เงินเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
คิดให้ชัดก่อนใช้เงิน
เริ่มจากย้อนกลับไปดูว่า เป้าหมายของเงินก้อนนี้คืออะไร?
การกู้เงินอาจดูเหมือนเป็นการเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโต แต่การวางแผนรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันคือสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้อง คิดล่วงหน้า เพราะในความเป็นจริง สถานการณ์อาจไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เช่น ยอดขายตก เศรษฐกิจชะลอตัว หรือเกิดค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง การไม่เตรียมตัวอาจทำให้ธุรกิจขาดสภาพคล่องและไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ
คิดและวางแผนล่วงหน้าเพื่อรับมือ:
นอกจากนี้ หากต้องการเพิ่มความมั่นใจในการบริหารเงินสำรอง การขอวงเงินสำรองล่วงหน้า เช่น วงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจ UP เงินทันใจ ก็เป็นอีกตัวช่วยที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถขออนุมัติวงเงินไว้ก่อนได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทันที เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น รายได้ลดลงหรือมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด คุณสามารถกดโอนเงินจากวงเงินที่อนุมัติไว้เข้าบัญชีได้ทันที วงเงินลักษณะนี้จึงเป็นเหมือน เงินสำรองฉุกเฉินที่ช่วยให้อุ่นใจ และพร้อมใช้ในยามจำเป็น ไม่ต้องรออนุมัติใหม่ ช่วยลดความกังวลเรื่องการขาดสภาพคล่อง และทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทาย
การรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันไม่ใช่แค่เรื่องของการเตรียมตัว แต่เป็นเรื่องของ การคิดรอบคอบและวางแผนล่วงหน้า เพื่อให้ธุรกิจสามารถเผชิญกับความไม่แน่นอนได้อย่างมั่นคง การคิดอย่างรอบคอบตั้งแต่ต้น จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีภูมิคุ้มกันต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และยังสามารถเดินหน้าต่อได้อย่างมั่นใจ แม้ในวันที่สถานการณ์ไม่เป็นไปตามแผน
การขอสินเชื่อเป็นมากกว่าการได้รับเงินทุนเพิ่ม เพราะทุกการตัดสินใจมีผลต่อธุรกิจในระยะยาว การคิดอย่างรอบคอบและการวางแผนที่ดีจึงเป็นหัวใจสำคัญของการขอสินเชื่อที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเป้าหมาย การเลือกวงเงินที่พอดี การเตรียมเอกสาร การวางแผนการชำระคืน หรือแม้แต่การเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน ทุกขั้นตอนล้วนต้องอาศัยการวิเคราะห์และพิจารณาอย่างละเอียด
เพราะเมื่อคิดให้รอบคอบและวางแผนดีแล้ว การใช้สินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพจะไม่ใช่แค่การลดภาระ แต่ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
และเมื่อคุณพร้อมตัดสินใจแล้ว สินเชื่อเพื่อธุรกิจ UPเงินทันใจ และ สินเชื่อมณีทันใจ ก็พร้อมเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด ด้วยกระบวนการอนุมัติที่รวดเร็วและระบบ AI ที่ช่วยวิเคราะห์วงเงินและแผนการชำระคืนอย่างเหมาะสม ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลารอคอย
คิดมาครบ วางแผนให้รอบคอบ แล้วกดเลย! เราพร้อมสนับสนุนให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างมั่นใจ
****************************
รู้จักสินเชื่อเพื่อธุรกิจจาก SCB
#สินเชื่อมณีทันใจ สินเชื่อเงินก้อนเพื่อธุรกิจ เพิ่มเติมhttps://link.scb/3SRlAHF
กดสมัครเลย ที่แอป SCB EASY (เฉพาะบนมือถือเท่านั้น) https://link.scb/2G5PRAr
สินเชื่อ #UPเงินทันใจ สินเชื่อวงเงินเพื่อธุรกิจโตทันใจ เพิ่มเติมhttps://link.scb/3HSfouj
กดสมัครเลย ที่แอป SCB EASY (เฉพาะบนมือถือเท่านั้น)https://link.scb/41GP6lW
#กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
*อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อธุรกิจมณีทันใจ MRR+10% - MRR+16% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อธุรกิจ UPเงินทันใจ MRR+6.825% - MRR+18.825% ต่อปี (MRR ตามประกาศ ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 = 7.175% ต่อปี) ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลง ได้ตามประกาศบนเว็บไซต์ของธนาคาร ลูกค้าต้องสมัครขอและได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร เงื่อนไขการอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด