ดูแลใจตัวเองและคนรอบข้างอย่างไร?

1. อย่าปัดความรู้สึกตัวเองทิ้ง
   กลัว = ไม่ผิด เศร้า = ไม่แปลก หวั่นไหว = ไม่อ่อนแอ
   การยอมรับความรู้สึกคือก้าวแรกของการรักษา
2. พักจากข้อมูลข่าวสารบ้าง
   การเสพข่าวซ้ำ ๆ โดยไม่มีข้อมูลเชิงบวกอาจทำให้เราอยู่ใน "โหมดเตือนภัย" ตลอดเวลา ลองปิดหน้าจอ พักใจ และใช้เวลากับสิ่งที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย
3. พูดคุยกับคนที่เข้าใจ หรือผู้เชี่ยวชาญ
   ไม่จำเป็นต้องรอให้แย่ก่อนแล้วค่อยขอความช่วยเหลือ
4. เช็กบ้าน และเช็กใจพร้อม ๆ กัน
   เมื่อเราเดินสำรวจรอยร้าวของบ้าน อย่าลืมถามใจตัวเองด้วยว่า"ยังโอเคอยู่ไหม" และถ้าไม่... ก็ไม่เป็นไรเลยที่จะขอความช่วยเหลือ

เมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ 

ในช่วงเวลายากลำบากนี้ หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ออกมาตรการเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 

ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทประกันพันธมิตร ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยร่วมกันเปิดช่องทางให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถแจ้งเคลมบ้านหรือทรัพย์สินที่เสียหาย รวมถึงมีแนวทางการให้คำปรึกษาเรื่องสินเชื่อและผลกระทบทางการเงินอย่างเหมาะสม

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://www.scb.co.th/th/about-us/news/mar-2568/earthquake

 ความเสียหายที่มองไม่เห็น… สำคัญไม่แพ้บ้านที่ร้าว ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวรู้สึกไม่ปกติ อย่ารอให้ “ใจล้ม” ก่อน ขอความช่วยเหลือได้เสมอ ไม่ว่าจะกับมืออาชีพ หรือกับคนที่พร้อมฟัง

สายด่วนสำคัญ

• สายด่วนแผ่นดินไหว 1182 กด0 กด4 หรือ 02-366-9410 / 02-399-0969
• กรมป้องกันและบรรเทาฯ สายด่วน 1784
• สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน เจ็บป่วยฉุกเฉิน 1669
• สายด่วนสุขภาพจิต 1323
• อาคารเสียหาย มีรอยร้าวแจ้ง Traffy Fondue หรือโทร 1555
• 191 เหตุด่วนเหตุร้าย
• 1554 หน่วยแพทย์กู้ชีวิต วชิรพยาบาล
• 1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
• 1137 จส.100 แจ้งเหตุด่วนเพื่อประสานงานต่อ
• 1667 วิทยุร่วมด้วยช่วยกันเครือข่ายอาสาสมัคร
• ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ 02-399-4114

นอกจากนี้ยังมีคอร์สให้ความรู้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: www.medumore.org

และอย่าลืม… เราอยู่ตรงนี้พร้อมส่งพลังใจให้คุณเสมอ