สนุก สร้างสรรค์ ร่วมพัฒนานวัตกรรมไปด้วยกัน

กว่าที่เทคโนโลยีใดๆ จะประสบความสำเร็จ ได้รับการศึกษา พัฒนา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน และขับเคลื่อนจนนำมาส่งเสริมธุรกิจได้ ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ ค้นคว้า ทดลอง ด้วยสรรพกำลัง มันสมอง และเม็ดเงินไม่น้อย แต่การทำกระบวนการเหล่านี้ ในองค์กรใหญ่ ที่ทุกฝ่ายต่างมีภารกิจเต็มมือ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางการเงิน ที่ใช่ว่าทุกแผนก ทุกบริษัทจะมีสำรองไว้เพื่อการค้นคว้าและทดลองเหล่านั้น แต่ทั้งหมดนี้ SCBX Group R&D มีทางออกให้

ในงาน SCBX Expo 2024 คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Head of R&D and Innovation Lab ของ SCBX ได้มาเปิดประตู Sandbox พาชมความเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้นของบรรดาเพื่อนๆ นักพัฒนาในกลุ่ม SCBX พร้อมทั้งเชิญชวนว่า ประตูบานนี้ พร้อมรอรับทุกคนจากทุกบริษัทในกลุ่มที่สนใจ มาร่วมสนุกอย่างสร้างสรรค์ พัฒนานวัตกรรมไปด้วยกัน มีกระบวนการขั้นตอน ที่จะช่วยเชื่อมโยงผลักดัน ที่สำคัญ มีเงินสนับสนุนให้ด้วย



ในมุมมองของคุณกวีวุฒิ งาน R&D ที่จะทำอะไรใหม่ๆ มีปัจจัยด้วยกัน 3 ส่วน คือ Human Desirability การสร้างอะไรขึ้นมา แล้วต้องมีคนอยากใช้, Business Viability ทำแล้วต้องมีผลต่อธุรกิจ เช่นเพิ่มรายได้, ลดรายจ่าย และส่วนสุดท้าย คือ Technical Feasibility ต้องทำให้เกิดขึ้นได้ ด้วยเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบัน ซึ่ง 3 ส่วนนี้ มักเกิดไม่พร้อมกัน เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนาให้เกิดขึ้น จะทำอย่างไรให้มีประโยชน์ มีคนหน้างานอยากใช้ ไปสู่จุดที่ตอบสนองธุรกิจได้



SCBX R&D and Innovation Lab แบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วน

  1. Identify: ศึกษางานวิจัยที่เป็นเทรนด์เทคโนโลยีจากทั่วโลก เพื่อให้รู้ว่ามีใครทำอะไรอยู่ ตัวไหนที่น่าสนใจ และความน่าสนใจนั้นมีในแง่มุมไหนบ้าง
  2. Explore & Validate: ทดสอบความเป็นไปได้ โดยทดลองใช้กับบริษัทในเครือหลายๆ แห่ง ที่มีฐานลูกค้า และประสบการณ์หน้างานจริง
  3. Scale-up: นำเทคโนโลยีที่ทดลองแล้วได้ผลดี มีความเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ มาพัฒนา ขยายการใช้งานไปยังบริษัทต่างๆ ในกลุ่มต่อไป

งาน R&D ที่คุณกวีวุฒิ หยิบยกมาเป็นตัวอย่าง ได้แก่ ไต้ฝุ่น (Typhoon) โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ (Thai Large Language Model) ที่เป็นการร่วมมือพัฒนาของบริษัท SCBX และ SCB 10X ซึ่งปัจจุบันเปิดเป็น Open Source ให้ใช้งานได้ฟรีทั้งในระดับนักพัฒนา และผู้ใช้งานทั่วไป, โครงการ Customer Service Co-pilot ของบริษัท InnovestX นำ AI เข้ามาช่วยงานด้าน Contact Center ช่วยลดระยะเวลาในการค้นหาข้อมูล และทำให้การแนะนำข้อมูลหลักทรัพย์รวดเร็ว ทันใจขึ้น, บริษัท SCBX นำร่องทดลองใช้งาน AI Chat Bot ที่ฉลาดในการใช้ภาษา เข้ามาช่วยงานตอบคำถามในแผนกทรัพยากรบุคคล นอกจากนี้ยังมีเคสที่น่าสนใจของบริษัท AutoX ที่ทดลองใช้ Automated Speech Recognition (ASR) และ Large Language Model (LLM) เข้ามาเพื่อปรับปรุงพัฒนาการให้บริการของ Agent ภาคสนาม ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับใครที่ชอบความท้าทาย อยากทำโครงการที่มีดีกรีความยากแบบถึงพริกถึงขิง ทาง SCBX ก็มีโครงการลักษณะที่เป็น Frontier Research เช่นกัน โดยร่วมกับ Stanford Institute for Human-Centered AI (HAI) เข้าไปเจาะลึกสิ่งที่บริษัทในกลุ่มให้ความสนใจเป็นพิเศษ เช่น โครงการ Holistic Investigation of General Hallucinations ร่วมกับบริษัท DataX, โครงการ Explaining Machine Learning Model of Financial Risk ร่วมกับบริษัท Monix, โครงการ Holistic Evaluation of Foundation Models in Thai ร่วมกับบริษัท SCB 10X เป็นต้น




ทั้งหมดนี้ ทางคุณกวีวุฒิ เน้นย้ำว่า SCBX R&D and Innovation Lab มีทั้งทรัพยากร ทีมงาน และ AI Ecosystem ที่พร้อมสนับสนุนทุกคน ใครมีโครงการเจ๋ง ๆ อยากทดลองอะไรใหม่ที่เป็นประโยชน์กับองค์กร ทาง SCBX พร้อมเปิด Sandbox ต้อนรับทุกไอเดียเพื่อสานฝันไปด้วยกัน เริ่มต้นง่าย ๆ แค่อีเมลมาที่ SCBX R&D : rd@scbx.com ทีมงานของยานแม่ก็พร้อมร่วมทะยานไปกับคุณ้

ที่มา: งานสัมมนา SCBX AI EXPO 2024 หัวข้อ “Group R&D Ecosystem: AI Collaboration, Innovation and Vision” โดยคุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Head of R&D and Innovation Lab จากบริษัท SCBX