1. ช่วยสรุปข่าวสำคัญได้รวดเร็ว
2. ช่วยค้นหาหาข่าวจากภายนอก
3. ช่วยค้นหาข่าวที่กำลังเป็นประเด็นหรือเป็นกระแสสนใจของสังคมตามขอบเขตที่กำหนด
4. ช่วยทำตารางที่มาของข่าว หัวข้อ เนื้อหา วัน และลิงก์ของข่าวอย่างเป็นระบบ
5. ช่วยหาข่าวแบบเฉพาะเจาะจงจากแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ เช่น Bloomberg หรือ Reuter เป็นต้น
6. ช่วยสรุปข่าวให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย และเป็นภาษาที่ EIC ใช้
7. ช่วยแปลภาษาจากอังกฤษเป็นไทย

ดร.ปุณยวัจน์ กล่าวสรุปว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการใช้ Copilot คือ การใช้ AI เพียงตัวเดียว อาจจะไม่ตอบโจทย์ในทุกเรื่องหรือทำให้งานเสร็จสมบูรณ์ เพราะจากการใช้ Copilot พบว่าจะต้องป้อนคำสั่งบอก AI ใหม่ทุกครั้ง เพื่อให้ AI เรียนรู้ จึงทำให้สไตล์การเขียนไม่คงเส้นคงวา ทาง EIC จึงได้แก้ปัญหาด้วยการนำ AI ตัวที่ 2 เข้ามาช่วยเพื่อปรับวิธีการเขียนให้ตรงกับสไตล์หรือ Format ที่ต้องการมากที่สุด

คุณภูมิศักดิ์ คำประเสริฐ Management Information System Officer EIC ได้แชร์ประสบการณ์การนำ Chat GPT มาช่วย Support งานเขียนของ EIC ว่า โดยเริ่มต้นจากการกำหนดบทบาทให้ AI เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีความเข้าใจในบริบทเศรษฐกิจ แล้วมีการเทรนการเขียน โดยใช้ตัวอย่างสรุปข่าวที่เผยแพร่แล้วของ EIC ว่ามีสไตล์การเขียนอย่างไร มีการเทรนคำศัพท์เฉพาะให้กับ AI มีการให้คำสั่ง Instruction รูปแบบในการเขียนข่าว รวมถึงช่วยแปลภาษาและปรับแต่งให้เป็นรูปแบบการเขียนสไตล์ EIC และเมื่อนำ Chat GPT มาผนึกกำลังกับ Copilot พบว่าช่วยให้งานมีความครบถ้วนสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ EIC ยังใช้ Copilot Power Automate มาช่วยในการทำงาน โดยมีข้อดี คือ สามารถสั่งการด้วยภาษาพูด เช่น สั่งให้ช่วยคัดกรองข่าวในช่องทางอีเมลที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ และจัดเก็บข้อความในรูปแบบ Excel ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์สามารถพิจารณานำไปใช้ต่อได้ทันทีในอนาคต

ในช่วง Exclusive Talk Co-piloting the Future of Work : Unleashing the Arts of the Possible with AI & Gen AI คุณณัฏฐนนท์ โปรณานันท์ Account Director FSI, Microsoft Thailand กล่าวถึง Copilot ว่าคือการนำความสามารถของ LLM (Language Learning Model) เข้ามาอยู่ในโปรดักส์ของไมโครซอฟต์ทุกตัว โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่ม Copilot ที่นำไปใช้ได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ Copilot ที่ลูกค้าองค์กรของ Microsoft สามารถใช้ได้เลยอย่างเช่น Copilot ที่อยู่ใน Microsoft Edge Web Browser รวมถึง Copilot ใน Team Meeting ซึ่งแม้จะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ Microsoft ได้มีการ Protect ข้อมูลต่างๆจะไม่ถูกนำไป re-train Model กลุ่มที่สองคือ Copilot ที่อยู่ใน Application ต่างๆ เป็น add-on feature เช่น Microsoft 365 Copilot ซึ่ง SCBX ก็เป็นองค์กรแรกๆ ในประเทศไทยที่ได้เข้าถึงการใช้งานกลุ่มนี้ สามารถใช้เขียนสรุปความ (summarization) ใน MS Word, การทำ presentation และยังรวมไปถึง Copilot ใน PowerBI ให้เราสามารถเขียนDashboard, สรุปกราฟใน Dashboard ฯลฯ กลุ่มที่สาม เป็นการพัฒนาโปรแกรม AI solution ต่างๆ customize สำหรับ SCBX ที่ SCBX สร้าง unique capability ขึ้นมาใช้ในองค์กรเอง ซึ่งก็เป็นบริการของ Microsoft เหมือนกัน ในเบื้องต้นคุณณัฏฐนนท์ แนะนำให้เริ่มใช้งาน Copilot ในกลุ่มที่หนึ่งซึ่งจะทำให้เราเป็นกลุ่มคนแรกๆที่ Upskill ให้สามารถนำ AI ไปใช้ประโยชย์ในองค์กรได้อย่างเต็มที่

จะเห็นได้ว่า Copilot เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้การทำงานในยุคนี้สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยจัดเก็บและรวบรวม Data แบบอัตโนมัติ การสร้างเอกสารที่สะดวกและรวดเร็ว ที่ช่วยให้คนทำงานสามารถค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ บนโลกออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์ มีความแม่นยำ และเพิ่ม Productivity ได้ดีขึ้นมากกว่าเดิม

ที่มา: งานสัมมนา SCBX AI EXPO 2024 หัวข้อ “Copilot for Macro Monitor” โดย ดร.ปุณยวัจน์ ศรีสิงห์ Senior Economist EIC คุณภูมิศักดิ์ คำประเสริฐ Management Information System Officer EIC และ Exclusive Talk Co-piloting the Future of Work : Unleashing the Arts of the Possible with AI & Gen AI โดย คุณณัฏฐนนท์ โปรณานันท์ Account Director FSI, Microsoft Thailand