3 จุดร่วมความสำเร็จของ 3 ผู้นำเทคที่เปลี่ยนโลก

ตลอด 4 ทศวรรษแห่งการพัฒนาเทคโนโลยี โลกต้องยกเครดิตให้ชายทั้ง 3 คนที่สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกให้ก้าวไกลมาถึงวันนี้   Bill Gates กับระบบปฏิบัติการ Windows และโปรแกรมไมโครซอฟฟ์ของเขาในยุค 90 ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าไปอยู่ในทุกบ้านทุกองค์กรและเปลี่ยนวิธีการทำงานของผู้คน  เมื่อ Steve Jobs เปิดตัว iPhone รุ่นแรกในปี 2007 โลกก็รู้จักกับสมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนวิธีการสื่อสารของคนไปตลอดกาล มาในวันนี้ ไม่มีใครที่จะโด่งดังเกิน Elon Musk แห่ง Tesla ผู้นำการเปลี่ยนโลกมาขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และ SpaceX ยานอวกาศที่จะพามนุษย์ไปท่องเที่ยวบนดวงจันทร์


อะไรคือสิ่งที่ Bill Gates, Stave Jobs และ Elon Musk มีเหมือนกันและทำให้พวกเขาเป็นผู้นำในการสร้างเทคโนโลยีพลิกโฉมโลกในแต่ละยุค


1)  ให้ความสำคัญกับรายละเอียด


ความสำเร็จของ Bill Gates ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน ต้องใช้เวลากว่าทศวรรษที่ระบบปฏิบัติการ Windows จะกลายเป็นที่ยอมรับแพร่หลายไปทั่วโลกกับ Windows 95 นับตั้งแต่เปิดตัว Windows เวอร์ชั่นแรกในปี 1985 เรื่องเล่าเบื้องหลังความสำเร็จของไมโครซอฟท์คือตัวของ Bill Gates เข้าถึงทุกรายละเอียดของไมโครซอฟท์ในทุกแง่มุม ในช่วง 5 ปีแรก Bill Gates ตรวจสอบโค้ดทุกบรรทัดด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับ Steve Jobs ที่ผู้คนที่ทำงานกับเขาบอกเล่าถึงหลายๆ เหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า Jobs หมกมุ่นกับสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นรายเอียดเล็กๆ ซึ่งสิ่งนี้เองที่ส่งให้แอปเปิ้ลก้าวสู่จุดสูงสุดของธุรกิจ Elon Musk ก็ไม่ต่างกับสองรุ่นพี่ ในการสร้างธุรกิจ Tesla และ SpaceX เขาทุ่มเท 80% ของเวลาทั้งหมดแก้ปัญหาเรื่องการออกแบบและวิศวกรรม


การให้ความสำคัญกับรายละเอียดเป็นลักษณะร่วมของผู้นำที่พาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ ไม่เพียงแค่สามคนนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคคลสำคัญอื่นๆ ในประวัติศาสตร์อย่าง Thomas Edison, Alfred Sloan และ Henry Ford เป็นต้น การจะทำโปรเจ็กต์ชิ้นสำคัญ ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อที่จะไม่พลาดและมองข้ามจุดผิดพลาดเล็กน้อยที่จะส่งผลกระทบเสียหายต่องานทั้งหมด

key-success-3-tech-leaders-change-the-world-01

2) วิสัยทัศน์สู่โลกอนาคต


เมื่อกล่าวถึงบริษัทชั้นนำอย่าง Microsoft, Apple และ Tesla เราจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากที่อื่นๆ นั่นก็คือการที่ผู้นำมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่าโลกอนาคตจะเป็นอย่างไร และเขาก็มุ่งมั่นที่จะนำพาองค์กรไปสู่โลกที่เขาเห็น ด้วยจินตนาการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Imagination) และสิ่งนี้ก็คือเหตุผลที่นวัตกรรมของพวกเขาเป็นสิ่งที่เปลี่ยนโลกใบนี้ ในช่วงยุคทศวรรษที่ 80 Bill Gates มองเห็นอนาคต 20 ปีข้างหน้า ที่ระบบปฏิบัติการ Windows ของเขาก็ทำให้คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและการทำงานของผู้คน ในวันที่ Steve Jobs เปิดตัวไอโฟนเครื่องแรก เขามองเห็นโลกที่ผู้คนสื่อสารรับข้อมูลผ่านเครื่องไอโฟนของเขา และจากบทสัมภาษณ์ที่ Elon Musk พูดถึงผลงานของ Tesla และ SpaceX ก็จะเห็นถึงความคิดที่ต้องการสร้างโลกของพลังงานสะอาดและการนำมนุษยชาติขึ้นไปเหยียบดาวอังคาร ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ส่งผลถึงผู้คนทั้งโลก


3)  มีความเป็นนักปั้น (Shaper)

จากหนังสือ Principle เขียนโดย Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขาทำการวิเคราะห์ว่าอะไรทำให้ผู้นำองค์กรใหญ่บางคนสามารถสร้างสิ่งที่ส่งผลกระทบในวงกว้างได้มากกว่าคนอื่น โดยเขาและบริษัทวิจัยชั้นนำได้พัฒนาบททดสอบเพื่อทำความเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของบุคลากรและนักบริหาร โดยที่ Bill Gates, Elon Musk รวมถึงคนที่ประสบความสำเร็จอื่นๆ ร่วมในการทดสอบนี้บางส่วนด้วย ผลทดสอบพบว่าสิ่งที่กลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จมีเหมือนกันคือมีความเป็นนักปั้น (Shaper) ที่สามารถเปลี่ยนจากการสร้างภาพในใจ ไปสู่การกระทำให้เป็นจริงได้ กล่าวคือพวกเขาจะมีกรอบภาพใหญ่ในความคิดของตัวเอง และเอาสิ่งที่มีอยู่ในหัวสมองมาถอดความคิดมาใส่ในทุกมิติโดยไม่หลุดแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ ที่นำไปสู่การสร้างประสิทธิผลในภาพรวม


เมื่อเราถอดบทเรียนที่ได้จาก Bill Gates, Steve Jobs และ Elon Musk การให้ความสำคัญกับรายละเอียดของงานจะช่วยให้เก็บทุกรายละเอียดในเนื้องานและลดความผิดพลาด การมีวิสัยทัศน์ทำให้เราสามารถคาดการณ์ของความเป็นไปที่น่าจะเกิดขึ้น สุดท้าย เซนส์การเป็นนักปั้น จะช่วยขยายการมองโลกของเราผ่านเลนส์ที่กว้างขึ้น นำไปสู่ผลของการประสบความสำเร็จในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยแม้แต่จะฝันถึง


สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นต่างประเทศ แอปพลิเคชั่น EASY INVEST ให้คุณสามารถซื้อขายกองทุนรวมได้มากถึง 17 บลจ.ทั่วประเทศ อยากลงทุนแบบไหน ทำได้ทันที แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน EASY INVEST แล้ว