หมอนักร้อง ผู้ต่อลมหายใจไร้พรมแดน

“คุณค่าของการเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน รูปร่างหน้าตา ฐานะ หรือเชื้อชาติ? มนุษย์ทุกคนมีคุณค่าในการใช้ชีวิตอย่เท่าเทียมกันเราทุกคนวันนึงก็ต้องตายเหมือนกันหมด”   เรื่องนั้นมันไม่สาคัญว่าตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่เราได้ทำคุณประโยชน์อะไรไว้ บ้างหรือเปล่า”


ความมุ่งมั่นที่จะต่อลมหายใจของเด็กๆโดยไม่เลือกเชื้อชาติหรือภาษาใด เพราะเด็กคนหนึ่งหมายถึงหัวใจอีกหลายดวงของคนทั้งครอบครัวเป็นพลังในการพัฒนาประเทศและขับเคลื่อนโลกนี้ ต่อไปในวันข้างหน้าเรื่องราวของหมอตจว. คนหนึ่งที่ยืนหยัด ต่อสู้กับอุปสรรคเพื่อให้เด็กที่ขาดแคลนได้มีลมหายใจและมีโอกาสใช้ชีวิตที่งดงามต่อไป

นพ. เพียรศักดิ์  แซ่หว่อง  กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ รพ. สรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าของฉายา“หมอนักร้อง หว่อง วิริยะ”   ผู้ก่อตั้งหน่วยโรคระบบทางเดินหายใจเด็กและกองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคระบบหายใจเรื้อรัง  โดยจัด กิจกรรมหาทุนด้วยการแต่งเพลง ขับร้องบันทึกเพลง  และจัดแสดงคอนเสิร์ตการกุศลโครงการ “ลมหายใจ” เพื่อหาเงินซื้อ เครื่องช่วยหายใจให้ผู้ป่วยเด็กไปใช้ที่บ้านจนได้รับยกย่องให้เป็นโครงการต้นแบบและคุณหมอยังทำโครงการพิเศษเพื่อนำผู้ป่วยต่างชาติกลับบ้าน ในชื่อโครงการ“ลมหายใจไร้พรมแดน”

คุณหมอเพียรศักดิ์จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขตหาดใหญ่)ศึกษาต่อสาขากุมาร เวชศาสตร์และเฉพาะทาง โรคระบบทางเดินหายใจเด็ก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเคยได้รับการยกย่องให้เป็น แพทย์จริยธรรมดีเด่น โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานีและได้รับรางวัลชนะเลิศR2R (Routine to Research) จากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และสถาบันรับรองคุณภาพโรงพยาบาล (สรพ.) เรื่อง  “การดำเนินงานดูแลผู้ป่วยเด็ก โรคระบบหายใจเรื้อรังแบบครบวงจร”   นอกจากจะเป็นแพทย์ที่เก่งและเมตตาแล้ว คุณหมอเพียรศักดิ์ยังมีพรสวรรค์ในการร้อง เพลง แต่งเพลงและเป็นทั้งนักพูดและนักเขียนอีกด้วย   เรียกว่าเป็นคุณหมอที่เก่งและดีครบทั้งศาสตร์และศิลปจริงๆ


แล้วโจทย์ยากเพื่อทดสอบความมุ่งมั่นในการ  “ต่อลมหายใจให้ผู้ป่วย”  ก็มาถึงเมื่อเด็กหญิงลินลี่ คูณทวีไช ผู้ป่วยเด็กชาว สปป.ลาว ได้เข้ามารับการรักษาด้วยโรคสมองอักเสบ น้องลิลี่้ไม่ต่างจากผู้ป่วยเด็กส่วนใหญ่ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด  ทำให้เธอต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมานานถึง 2 ปีโดยมีคุณแม่ของเธอที่ต้องทิ้งบ้าน  ทิ้งงาน  ทิ้งครอบครัวที่ลาวมาดูแลเธอ ที่โรงพยาบาลและในวันหนึ่งเมื่อแม่น้องลินลี่ถามคุณหมอว่าลินลี่จะสามารถได้รับเครื่องช่วยหายใจไปใช้ที่บ้านเหมือนผู้ป่วยเด็กไทยคนอื่นๆ ได้หรือไม่ เพราะคุณแม่อยากพาน้องลินลี่กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านเกิด

และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการลม หายใจไร้พรมแดนต่อให้แม่น้ำอีก 10  สายหรือภูเขาอีกสิบลูกมาขวางกั้นประเทศของเรา  แต่ลมหายใจของคนเรา  มันไม่มีอะไรมาขวางกั้นได้ ด้วยความมุ่งมั่นของคุณหมอเพียรศักดิ์  รวมทั้งความช่วยเหลือจากบุคลากรของโรงพบาบาลและผู้มีจิตเมตตา สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้   ไม่ใช่ด้วยปาฏิหาริย์   แต่เกิดจากหัวใจของแพทย์ที่ผู้พร้อมจะให้และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้  “การที่เราทำอะไร  แล้วเจออุปสรรคผมถือว่ามันเป็นบททดสอบของชีวิตว่าเราจะอดทนต่อสู้กับมันได้แค่ไหน”


ปี
2561 เด็กหญิงลินลี่  คูณทวีไช”  เป็นผู้ป่วยรายแรกของ สปป.ลาว ที่ได้กลับบ้านพร้อมเครื่องช่วยหายใจไปใช้ที่เมืองสุขุมา แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ประเทศไทย  กำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยบุคคลากรของชาติที่มีทั้งความรู้ และคุณธรรมผู้ป่วยไทยไม่เคยหมดหวัง เพราะบ้านเรามีบุคลากรทางการแพทย์ที่เก่ง มีความรู้  ความเชี่ยวชาญไม่แพ้ที่ไหนในโลกคือหัวใจแห่งความทุ่มเทและที่สาคัญเสียสละในการรักษาผู้ป่วยอย่างสุดกำลัง เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ป่วยปลอดภัยและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็วที่สุด  และคุณหมอเพียรศักดิ์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของหมอดีให้พึ่งพาดูเรื่องราวความทุ่มเทของ  หมอนักร้อง ผู้ต่อลมหายใจ” หัวใจคุณจะอิ่มเอมกับการให้ที่ไร้พรมแดน