5 ความเสี่ยงที่สวัสดิการสุขภาพอาจไม่พอจ่าย


มนุษย์เงินเดือนในปัจจุบันต้องเผชิญกับการทำงานที่เคร่งเครียด และกดดันตลอดเวลา ไลฟ์สไตล์ที่เต็มไปด้วยความหนักหน่วงจากการทำงาน พักผ่อนน้อย ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สุขภาพร่างกายค่อย ๆ ถดถอย และเริ่มสะสมโรคต่าง ๆ ไว้ในร่างกายอย่างไม่รู้ตัว ในระยะแรกร่างกายอาจแสดงอาการป่วยในรูปแบบของโรคที่ไม่ร้ายแรง เช่น โรคออฟฟิศซินโดรม โรคเครียด โรคไมเกรน โรคกระเพาะ โรคอ้วน หรือโรคกรดไหลย้อน ซึ่งมนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจมองข้าม และคิดว่าโรคเหล่านั้นสามารถรักษาให้หายได้ไม่ยาก ค่าใช้จ่ายไม่สูง และสามารถใช้สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่บริษัทมอบให้ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้   ทำให้เกิดการมองข้ามทั้งในเรื่องการหันมาใส่ใจสุขภาพตนเอง และการทำประกันสุขภาพเพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมกรณีเจ็บป่วยเรื้อรังในอนาคต   ดังนั้น เราจึงควรหันมาใส่ใจ และมองเห็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในระหว่างอายุการทำงาน และภายหลังการเกษียณ เพราะมีโรคมากมายที่สามารถเกิดขึ้นกับเราได้อย่างไม่คาดฝัน 


ยิ่งนั่งทำงานนาน ยิ่งเสี่ยงโรคร้าย  

มนุษย์เงินเดือนทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดตลอดทั้งวัน หลายคนไม่ลุกขึ้นผ่อนคลาย หรือเปลี่ยนท่าทางในระหว่างการทำงาน และมักนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความเร่งรีบจนทำให้ลืมเปลี่ยนอิริยาบถ หรือลืมจัดท่าทางการนั่งให้ถูกต้อง   ทำให้มีโอกาสเกิดโรคและมีความเสี่ยงต่าง ๆ มากมายได้ ดังนี้

  • นั่งนานสะสม  2 ชั่วโมงติดต่อกันต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งเยื่อบุมดลูก 10% มะเร็งลำไส้ 8% และมะเร็งปอด 6%
  • นั่งนานสะสม 7 ชั่วโมงติดต่อกันต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า 47% 
  • นั่งนานมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน มีโอกาสก่อให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคมะเร็งบางชนิด และนำไปสู่อัตราการตายที่เพิ่มขึ้น
  • นั่งนานสะสม 10 ชั่วโมงติดต่อกันต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด 147%

การนั่งทำงานนานเกินไป เป็นอีกหนึ่งในสาเหตุการเจ็บป่วยของมนุษย์เงินเดือนที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันตั้งตัว และนำมาสู่โรคร้าย ส่งผลให้เราต้องเสียค่ารักษาพยาบาลมากมายบานปลายอย่างต่อเนื่องได้

 




โรคร้ายแรงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดคิด

จากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในลักษณะนี้ ทำให้หลายคนเริ่มป่วยด้วยโรคร้ายแรงตั้งแต่อายุยังไม่มาก เช่น ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยมะเร็งที่อายุต่ำกว่า 50 ปี เพิ่มขึ้นถึง 79%** และมีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 140,000 คน/ปี   หรือคิดเป็นประมาณ 400 คน/วัน (ข้อมูลสถิติจากทะเบียนมะเร็งประเทศไทย โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ)*** ดังนั้น การดูแลสุขภาพและวางแผนทำประกันสุขภาพไว้ในช่วงที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนจึงมีความสำคัญมาก เพราะสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่บริษัทมอบให้เรา อาจไม่เพียงพอต่อการรักษา โดยเฉพาะโรคร้ายแรงเช่นโรคมะเร็งที่มีค่าใช้จ่ายมากมาย เริ่มตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย ไปจนถึงค่ารักษาพยาบาล โดยเฉลี่ยค่ารักษามะเร็งนั้นมีราคาประมาณ 300,000–8,500,000 บาท**** ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่เรามีอยู่คงไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้อย่างแน่นอน     


 ค่ารักษาแพงขึ้นทุกปี

ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง ของกิน ของใช้ขึ้นราคา ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้นเช่นเดียวกันก็คือ ค่ารักษาพยาบาล แถมเรื่องเจ็บป่วยมักจะเกิดขึ้นกับเราโดยไม่คาดคิด และหากเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้  โดยปัจจุบันอัตราค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น 6-8% ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น 2 เท่าในอนาคต การเตรียมตัววางแผนสำรองค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ถึงแม้ว่าเราจะมีประกันสุขภาพจากบริษัทแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถชะล่าใจได้ เพราะในวันที่เราเจ็บป่วยร้ายแรง หรือเรื้อรัง เราอาจต้องเผชิญหน้ากับอัตราค่ารักษาที่แพงขึ้นในอนาคตจนไม่สามารถรับมือได้ เป็นต้น




เกษียณแล้วสุขภาพพัง 

หลายคนคงเคยได้ยินปัญหาสุขภาพของคนใกล้ตัว ที่เริ่มแสดงออกมาอย่างชัดเจนในช่วงวัยเกษียณ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักหน่วง และความเครียดสะสมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายปี รวมไปถึงอายุที่มากขึ้น ทำให้สุขภาพเสื่อมลงอย่างชัดเจน และมักจะป่วยด้วยโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน โดยในวัยเกษียณหากสุขภาพไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว ก็อาจทำให้ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเองสูงถึง 50% ของเงินในแต่ละเดือน และมีโอกาสจะเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะเมื่อเรามีอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนอกจากจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแล้ว ก็ยังมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงพยาบาล ค่าจ้างคนดูแลกรณีเจ็บป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ดังนั้น ในช่วงวัยทำงานเราจึงควรเตรียมวางแผนทำประกันสุขภาพไว้ก่อน เพราะในช่วงที่เราอายุยังน้อย และไม่มีปัญหาสุขภาพ ค่าเบี้ยในการทำประกันสุขภาพยังมีอัตราไม่สูงมาก ประกันสุขภาพยังสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วยลงไปได้   แต่ในทางตรงข้ามหากเราไม่เตรียมวางแผนในส่วนนี้ไว้ ในวันที่เราไม่มีสวัสดิการดูแลสุขภาพจากบริษัท โอกาสที่เราจะต้องนำเงินออมออกมาใช้เป็นค่ารักษาอาจมีสูง จนทำให้เกิดปัญหาหนี้สินและการใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายได้


เจ็บป่วย เงินออมหาย รายได้หด

ความเจ็บป่วยไม่ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงวัยทำงาน หรือในวัยเกษียณ นอกจากจะทำลายสุขภาพของเราแล้ว ยังทำให้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นด้วย แม้ว่าเราจะมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลในช่วงที่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ แต่ด้วยอัตราเงินเดือนที่อาจไม่ได้สูงมาก แถมยังมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวมากมายในแต่ละเดือน หากเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง ความคุ้มครองที่เราได้รับจากสวัสดิการก็อาจไม่เพียงพอ ซ้ำร้ายหากไม่สามารถทำงานต่อไปได้ รายได้ประจำที่มีทุกเดือนก็อาจหดหาย อาจต้องลาออกและไม่สามารถใช้สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลได้อีก  นอกจากนี้ ยังต้องนำเงินออมที่เก็บไว้ออกมาใช้ในการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินที่เก็บหอมรอมริบเอาไว้ค่อย ๆ หมดไปอีกด้วย


ความเจ็บป่วยเป็นเรื่องไม่คาดคิด และมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ก็ได้ ถึงแม้เราจะเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ได้รับสวัสดิการความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากบริษัท สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ แต่การเตรียมแผนสำรองโดยการทำประกันสุขภาพไว้ตั้งแต่ช่วงที่มีสุขภาพแข็งแรง และอายุยังน้อย จะทำให้จ่ายค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นในราคาเบา ๆ ได้ เพราะมีความเสี่ยงเรื่องปัญหาสุขภาพน้อยกว่าวัยใกล้เกษียณ ช่วยให้เราหมดกังวล หากเกิดการเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงเรื้อรัง การมีประกันสุขภาพของตนเองเพิ่มไว้ จะช่วยเพิ่มและเติมเต็มความคุ้มครองจากสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่ได้รับจากทางบริษัท โอกาสที่จะต้องนำเงินออมมาใช้รักษาพยาบาลก็จะลดลง หรือแม้จะอยู่ในช่วงวัยเกษียณและไม่มีสวัสดิการความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทแล้ว ก็ยังอุ่นใจได้เพราะเรามีแผนสำรองในการดูแลค่ารักษาพยาบาลของตัวเองไว้อย่างครอบคลุม เช่นเดียวกับแผนประกันคุ้มตลอดชีพ ซีไอ พลัส แผนความคุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรง ที่ให้ความคุ้มครองนานจนถึงอายุ 90 ปี และเลือกจ่ายเบี้ยประกันสั้นๆ ได้ 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี เท่านั้น เบี้ยประกันคงที่ตามอายุแรกเข้า ไม่ปรับเพิ่มตามอายุในแต่ละปี  ช่วยให้คุณหมดกังวลกับค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่คาดไม่ถึง  เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อวางแผนอนาคตได้อย่างอุ่นใจ  อีกทั้งหากเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงระดับเริ่มต้น ก็ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยต่อ แต่ยังได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องตลอดอายุสัญญา


หากสนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการความช่วยเหลือด้านบริการ ติดต่อได้ที่ SCB Protect Call Center โทร. 1314 ได้ทุกวัน เวลา 9:00 - 19:00 น. หรือแอดไลน์มาที่ @SCBPROTECT เจ้าหน้าที่พร้อมที่จะให้บริการลูกค้าเสมอ


เรื่องสุขภาพละเลยไม่ได้ วางแผนก่อนสาย ให้ประกันสุขภาพช่วยดูแลทุกค่าใช้จ่ายอย่างอุ่นใจ

หมายเหตุ          

*ข้อมูลจาก https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1116510

**ข้อมูลจาก https://www.thaipbs.or.th/now/content/308

*** ข้อมูลจาก https://www.tnnthailand.com/news/health/139439/?fbclid=IwAR2w6zWnqHV87Yjgb7SOH_H_wOxr6NAwd5aidn0qV9IRDkX9DKpm0U8pliI

****ข้อมูลจาก https://online.scbprotect.co.th/content/10-cancer-treatment-in-public-and-private-hospitals