ทริปนี้ขอชวนไปดำผุดดำว่ายที่จังหวัดสตูล จังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย นับเป็นสวรรค์ของคนรักทะเลอันโด่งดังไปทั่วโลก ไม่เพียงแค่ทะเลเท่านั้น ยังมีความสวยงามทางธรรมชาติอันหลากหลายมากมาย สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล จึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวของไทยที่มาแล้วต้องเทใจให้แบบประทับใจขีดสุด

เกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะเล็กๆ หนึ่งที่สวยบาดใจในหมู่เกาะตะรุเตา ที่นี่ถือเป็นเกาะยอดฮิตซึ่งมีชื่อเสียงขจรไกลไปทั่วโลก ทำให้กลายเป็นเกาะในฝันที่นักท่องเที่ยวและนักดำน้ำทั้งหลายอยากจะไปเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่ง ด้วยมีความสวยงามขนาดที่มีคนเปรียบเปรยว่าเป็น มัลดีฟท์เมืองไทย หรือสวรรค์แห่งท้องทะเลอันดามันอย่างนั้นเลยทีเดียว น้ำทะเลสีฟ้า หาดทรายขาวละเอียดแค่เดินละเลียดอยู่ชายหาดก็สุขใดเหมือนแล้ว สำหรับคนที่ดื่มด่ำการดำน้ำโลกใต้น้ำตระการตายิ่งนักสมบูรณ์ไปด้วยปะการัง สัตว์น้ำนานาชนิด และมีทะเลแหวกปรากฏให้เห็นอีกด้วย (บางช่วงเวลา) เกาะหลีเป๊ะถือเป็นจุดศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนเกาะตะรุเตา โดยจะแบ่งเป็น 2 หาด หาดชายเลหรือหาดทรายขาวซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดบนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งบางเดือนจะได้ชมพระอาทิตย์ตกพร้อมทะเลแหวก อีกหาดคือหาดบันหยาหรือหาดพัทยาเหมาะสำหรับคนชอบแสงสียามราตรี จะมีผับ บาร์ ร้านอาหารมากมาย การเดินทางจากท่าเรือปากบารา-เกาะหลีเป๊ะ ถ้าใช้บริการเรือสปีดโบ้ทรวมเวลาเดินทางถึงเกาะประมาณ 1.30 ชั่วโมง และเรือเฟอร์รี่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

ที่ตั้ง ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล

เกาะไข่เป็นเกาะเล็กๆ แต่ความงามไม่เล็กเลย ตั้งอยู่ระหว่างเกาะอาดังกับเกาะราวี ชื่อนี้มาจากการที่มีเต่าทะเลมาวางไข่อยู่เสมอในช่วงเดือนพฤศจิกายน นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่ที่มีตำนานรักอันสุดโรแมนติก จุดไฮไลท์ของเกาะไข่อยู่ตรงซุ้มประตูหินซึ่งเรียกกันว่า ซุ้มรักนิรันดร หรือซุ้มประตูแห่งคู่รัก ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะไข่ ลักษณะจะเป็นประตูหินโค้งขนาดใหญ่ 1 ประตู และประตูเล็กอีก 1 ประตูซึ่งเกิดจากธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาล้วนๆ มีความเชื่อกันว่า หากใครพาคู่รักไปลอดประตูช่องหนึ่งและลอดกลับอีกช่องหนึ่งจะทำให้พบกับความรักที่มั่นคงยืนยาว และได้แต่งงานกัน ซึ่งในช่วงวันวาเลนไทน์ทางจังหวัดสตูลได้จัดกิจกรรมงานวิวาห์ขึ้นที่เกาะไข่ โดยจะมีพิธีจดทะเบียนสมรสและลอดซุ้มประตูนี้ด้วย แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปก็ชอบถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับซุ้มประตูนี้ เสมือนเป็นสัญญลักษณ์ว่ามาถึงเกาะไข่แล้ว แต่จะว่าไปแล้วเกาะไข่ไม่ได้มีแค่ซุ้มประตูที่เป็นจุดขายเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังมีหาดทรายที่สวยงามสีขาวอมน้ำตาลอ่อนเนื้อเนียนละเอียดนุ่มเท้าเป็นอย่างยิ่ง มีน้ำทะเลสีมรกตใสสะอาดกระจ่างตา รวมไปถึงมีความอุดมสมบูรณ์ของปะการังที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หากขึ้นไปยืนบนเนินหินด้านทิศใต้จะสามารถมองเห็นเวิ้งอ่าวทั้งสองด้านของเกาะไข่อย่างงดงาม เหมาะกับการมาเล่นน้ำ และชมวิวทิศทัศน์อันงดงามของเกาะ

ที่ตั้ง ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล

เกาะแห่งนี้มีชื่อมาจากภาษามลายูว่า อุดัง ที่แปลว่ากุ้ง เพราะในอดีตบริเวณนี้จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้งทะเล โดยตั้งอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กิโลเมตร มีเกาะราวีที่สวยงามเป็นคู่แฝดตั้งอยู่ติดกันบริเวณโดยรอบเกาะเป็นเทือกเขาสูงครอบคลุมเนื้อที่เกือบทั้งหมดของเกาะ หาดทรายขาว น้ำทะเลใส บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การดำน้ำ มีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่รอบเกาะ ชมดอกไม้ทะเล ปลาการ์ตูน ปลาดาวสีฟ้า ปลาสิงโต และเป็นแหล่งปะการังหลากหลายชนิด เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ปะการังดาวใหญ่ ประการังถ้วยสีส้ม บนเกาะอาดังจะมีที่ท่องเที่ยวอีกสองจุดคือ น้ำตกโจรสลัดเป็นน้ำตกขนาดเล็กมีแอ่งน้ำไว้เก็บน้ำใช้ตลอดทั้งปี และด้านบนของเกาะจะมีจุดชมวิวผาชะโด ซึ่งในอดีตเคยเป็นจุดสังเกตการณ์ของโจรสลัด เพื่อเข้าโจมตีเรือสินค้า แต่ปัจจุบันกลายมาเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์สวยงาม มองวิวได้แบบ 360 องศา เห็นทั้งเกาะอาดัง เกาะหลีเป๊ะและสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกอย่างสวยงามจากจุดนี้ได้ด้วย บนเกาะอาดังจะมีที่พักเหมาะสำหรับคนชอบความสงบส่วนตัวไม่ชอบแสงสี และมีร้านอาหารของอุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตาไว้บริการด้วย

ที่ตั้ง ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล

เกาะหินงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดเล็กอยู่ใกล้ๆ กับเกาะหลีเป๊ะ เกาะแห่งนี้จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นคือ บนตัวเกาะบริเวณชายหาดแม้จะไม่มีทรายเนียนละเอียดให้เหยียบย่ำ หากแต่มีหินเล็กหินน้อยที่มีลักษณะทั้งโค้ง มน กลม และแบน ส่วนใหญ่เป็นสีเทาไปจนถึงสีเทาเข้ม เมื่อถูกน้ำซัดเข้าทุกวันๆ หินก็จะเกิดความมันวาวชวนมองซึ่งเกิดจากธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมาไว้อย่างยาวนานนับพันนับหมื่นปีให้เหยียบย่ำแทน ในสมัยก่อนคนชอบมาเรียงหินเพราะมีความเชื่อว่าหากใครมาเรียงหินซ้อนเป็นเจดีย์หินหรือคอนโดได้ 13 ก้อนหรือ 13 ชั้นจะโชคดีและสมหวังเรื่องความรัก แต่ปัจจุบันมีกฎห้ามแล้วเพราะต้องการอนุรักษ์หินไว้ให้สวยงาม ไม่แตกหักไปนานๆ และห้ามขโมยหินกลับโดยเด็ดขาดมีป้ายคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตาติดเอาไว้ให้เห็นด้วย นอกจากนั้นเกาะหินงามยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับเป็นที่ดำน้ำตื้นด้วยเช่นกัน

ที่ตั้ง ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล

หาดสันหลังมังกรอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของจังหวัดสตูลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์กลางทะเลอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองสตูลแค่ 20 กิโลเมตร โดยมีลักษณะเป็นสันหาดทรายคล้ายทะเลแหวกกลางทะเล แต่มีความแตกต่างจากที่อื่นตรงที่แนวหาดที่เห็นนั้นไม่ใช่ทราย แต่เป็นเปลือกหอยนับล้านๆ ตัวที่ถูกคลื่นซัดมาทับถมกันเป็นระยะเป็นทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อมระหว่างเกาะหัวมันกับเกาะสามเข้าไว้ด้วยกัน ในช่วงน้ำลดจะเห็นน้ำแยกออกจากกันทั้งสองฝั่ง เมื่อแสงแดดสาดมากระทบตรงบริเวณนี้จะมองเห็นเป็นเกล็ดแวววาวเหมือนมังกรกำลังแหวกว่ายเล่นน้ำทะเลอยู่ จึงมีชื่อว่า หาดสันหลังมังกร เนื่องจากน้ำขึ้นและลงในแต่ละวันแตกต่างกัน หากใครอยากไปเที่ยวชมหาดสันหลังมังกร ควรเช็คข้อมูลก่อนออกเดินทางจะได้เห็นความงามแปลกตาจากธรรมชาติสร้างสรรค์ให้ได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือหางยาวนำเที่ยวได้ที่ท่าเรือบ้านบากันเคย สามารถชมได้ทั้งหาดสันหลังมังกร เกาะกวาง และสัมผัสวิถีชีวิตชาวเล ปุเลาอูบี ได้อีกด้วย

ที่ตั้ง ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

อุโมงค์แสงมรกตจะอยู่ในบริเวณถ้ำภูผาเพชรซึ่งเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยและอันดับ 4 ของโลก ซึ่งข้างในถ้ำเพดานจะสูงโปร่งเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยเปล่งประกายระยิบระยับคล้ายเกล็ดเพชร และหินอีกสารพัดรูปร่างตามแต่จินตนาการของแต่ละคน แต่ทางเข้าถ้ำเล็กมากมีขนาดแค่พอดีตัวซึ่งต้องผ่านด่านนี้ไปให้ได้เสียก่อน เมื่อเข้าไปข้างในจะพบกับความโอ่โถงกว้างขวางพร้อมทางเดินสะพานไม้อย่างดีตลอดเส้นทาง แถมด้วยอากาศเย็นสบาย ภายในถ้ำจะมีไฟให้ความสว่างเป็นระยะๆ บริเวณทางเดินสุดสะพานไม้จะเป็นจุดไฮไลท์ของถ้ำภูผาเพชรคือ อุโมงค์แสงมรกต เพราะตรงจุดนี้เป็นจุดเดียวที่แสงสามารถสาดส่องเข้ามาถึงได้ตรงกับเวลาประมาณบ่ายสามโมง แสงจากดวงอาทิตย์จะทำมุมกับหินรูปพญาครุฑพอดีเป๊ะ จึงเกิดแสงสีเขียวหรือแสงมรกตขึ้นที่ตัวหินนั้น นักท่องเที่ยวจึงยอมเหนื่อยเดินเข้ามาชมกันเพราะสวยงามจริงๆ

ที่ตั้ง ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล

คฤหาสถ์กูเด็นสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2441 โดยพระยาภูมินารถภักดี หรือ ตวนกู บาฮรุดดิน บินตำมะหงง เจ้าเมืองสตูลเพื่อรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อคราวเสด็จปักษ์ใต้ แต่พระองค์ไม่ได้ประทับแรมที่อาคารหลังนี้ ต่อมาจึงใช้เป็นสถานที่ว่าราชการและรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนจังหวัดสตูล และต่อมาได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำเมืองสตูล เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล และจัดแสดงประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี และวิถีชีวิตของชาวสตูลในด้านต่างๆ สามารถเข้าชมได้ทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. ค่าเข้าชมเพียง 10 บาทเท่านั้น

ที่ตั้ง ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

ภาพ- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

อ่าวตะโละวาวแหล่งท่องเที่ยวที่เลอค่าอีกแห่ง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ทางด้านตะวันออกของเกาะตะรุเตา สมัยก่อนเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์มาก่อนโดยในช่วงปี พ.ศ.2480-2490 เคยใช้เป็นสถานที่ตั้งนิคมฝึกอาชีพ และทัณฑสถานของนักโทษชั้นเด็ดขาด ปัจจุบันยังหลงเหลือร่องรอยของสิ่งก่อสร้าง และสุสาน 700 ศพให้ชม และทางอุทยานแห่งชาติได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติและประวัติศาสตร์ไว้บริการนักท่องเที่ยว เป็นอ่าวและจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามแห่งหนึ่ง เอกลักษณ์ของอ่าวคือแท่งหินซีกก้อนใหญ่ตั้งตระหง่านในทะเลมองเห็นเด่นแต่ไกลๆ มีสะพานท่าเรือทอดเคียงคู่กันไปจนถึงปลายอ่าว และบรรยากาศรอบข้างก็สวยงามเย็นตาเย็นใจทุกเวลาเช่นกัน กิจกรรมก็ไม่ต้องทำอะไรแค่เดินชิลๆ โพสท่าถ่ายรูปไปมาก็มีความสุขแล้ว มาแล้วปลื้มปริ่มจริงๆ

ที่ตั้ง ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล


ภาพ - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

เกาะเขาใหญ่เป็นเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากฝั่งที่ทำการของอุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตาประมาณ 10 กิโลเมตร และห่างจากท่าเรือปากบาราแค่ 4-5 กิโลเมตร แวะไปเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับได้สบายๆ เลย โดยไปขึ้นเรือได้ที่บ้านบ่อเจ็ด เกาะขาใหญ่มีรูปลักษณะเป็นเกาะหินปูนกระจายอยู่กลางทะเล มีชายหาดบางส่วน นอกจากนี้เวลาน้ำลดสามารถลอดช่องหินที่มีลักษณะคล้ายถ้ำไปชมความงดงามของปราสาทหินพันยอดกลางทะเลอันดามัน สถานที่ท่องเที่ยวอันซีนแห่งใหม่ของสตูล ซึ่งเป็นสิ่งอัศจรรย์อันเกิดจากการกัดเซาะหินของน้ำฝนและน้ำทะเล จนกลายเป็นแท่งหินแหลม รูปร่างแปลกตาคล้ายกับปราสาทในเทพนิยายได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น รอบๆ เกาะยังมีแนวปะการังดอกไม้ทะเล สัตว์ทะเลให้ได้ชื่นชมแบบชื่นใจอีก

ที่ตั้ง ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล

อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตาเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน บริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวน 51 เกาะ โดยแบ่งเป็นหมู่เกาะใหญ่ๆ ได้ 2 หมู่เกาะ คือหมู่เกาะตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง-ราวี อุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกแห่งอาเซียน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติภูมิทัศน์ที่งดงาม นอกจากนั้นหมู่เกาะต่างๆ ที่อยู่อยู่ในเขตอุทยานยังเป็นมนต์สเน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนกันแล้วกันเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ หรือใครไม่เคยมาก็อยากมาให้ได้โดยเริ่มจากอ่าวพันเตมะละกาอันเป็นที่ทำการของอุทยานฯ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว นับเป็นพื้นที่ราบมากที่สุดบนเกาะตะรุเตา บริเวณนี้หาดทรายขาวละเอียดทอดยาวสลับกับแนวทิวสนทะเล มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม จากอ่าวพันเตมะละกา สามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวผาโต๊ะบู และสามารถมองเห็นเกาะบุโหลน เกาะกลาง เกาะไข่ เกาะอาดัง เกาะราวี หมู่เกาะเภตรา นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีบ้านพักหลากหลายรูปแบบให้เลือก และยังมีลางกางเต้นท์อีกหลายจุดด้วยกัน ฤดูกาลที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวมากที่สุดคือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน

ที่ตั้ง ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล

• ร้านติ่มซำโกอ้วน ร้านนี้ถูกปากทั้งคนท้องถิ่นและคนต่างถิ่น นอกจากติ่มซำแล้วยังมีโจ๊กอร่อยๆ ด้วย
• ร้านอาซิปโรตี ร้านกาแฟดั้งเดิมของสตูล เมนูยอดนิยมคือ โรตีแกงไก่ มะตะบะ ชาปากี ชานมแพะ
• ร้านบาราโรตี โรตีน้ำแกงต่างๆ จะขึ้นชื่อเป็นที่สุด
• ร้านเนอร์ฆารา เป็นร้านอาหารตามสั่งรสชาติจัดจ้านสไตล์คนใต้แท้ๆ เปิดมานานกว่า 15 ปี
• ร้านสามพี่น้อง ขายข้าวแกงหลากหลายเมนูรสชาติดี และมีข้าวหมกไก่ ข้าวเหนียวเหลืองแกงไก่เสริมทัพด้วย
• ร้านครัวริมเล เมนูแนะนำ ปลาทอดน้ำปลา ต้มยำทะเล เอ็นหอยผัดฉ่า กั้งทอดกระเทียม
• ร้านฟ้าใส ซีฟู้ด เป็นร้านอาหารทะเลขึ้นชื่อของสตูล วิวทะเล เมนูปลาทอดน้ำปลาเด็ดทุกปลา
• ร้านธาม เป็นอีกร้านที่ขึ้นชื่อของสตูล มีเมนูอร่อยให้เลือกหลากหลาย
• ร้านน้องณี ร้านอาหารในตำนานของจังหวัด เมนูที่คนชอบสั่ง แกงส้มปลา ผัดฉ่าปลากระพง หอยเจดีย์ผัดเผ็ด ฯลฯ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล โทรศัพท์ 075 211-058