ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
พาสายลุย ตะลุยปราจีนบุรี
ปั่น ปั่น ปั่น ทริปนี้เปลี่ยนบรรยากาศหันมาปั่นจักรยานเพื่อความฟิตแอนด์เฟิร์มของร่างกายดูบ้าง ไม่ได้ตระเวณไปปั่นไกลที่ไหน แค่เขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรีใกล้กรุงเทพมหานครนี่เอง เขาว่าเป็นสนามปั่นที่ต้องลอง ทางดี อากาศดี สุขภาพดีแน่นอน ปั่นเสร็จตักตวงความสุขด้วยการเที่ยวต่อ ทำให้ค้นพบว่า มีความมหัศจรรย์มากมายรออยู่ที่จังหวัดนี้ เที่ยวได้ไม่เบื่อจริงๆ วันเดียวก็เที่ยวได้ หลายวันยิ่งมันเข้าไปใหญ่ แถมสบายกระเป๋า (ตังค์) ด้วย
เดี๋ยวนี้คนนิยมไปปั่นจักรยานกันที่เขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ชุมชนคนรักการปั่นมารวมตัวกันที่นี่ไม่น้อยทีเดียว เพราะเส้นทางน่าปั่นมาก มีครบทุกรูปแบบ ตั้งแต่ปั่นแบบธรรมดาจนถึงดาวน์ฮิลล์ ทั้งทางลาดยางเรียบ เส้นทางธรรมชาติที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น และทางจะไต่ระดับไปเรื่อยๆ จากชันน้อยไปถึงชันมาก
จุดสตาร์ทอยู่ที่อ่างเก็บน้ำเขาอีโต้หรืออีกชื่อหนึ่งว่า อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ปั่นไปเรื่อยๆ ยิ่งถ้าใครปั่นไปได้ถึงจุดแลนด์มาร์คคือศาลาเขียวด้านบนยอดเขา ซึ่งเป็นทั้งความท้าทายและความสนุกสนานนั้น นับว่าอึดสุดยอดมากจริงๆ แต่ถ้าใครไม่ไหว เหนื่อยนักก็พักก่อนได้ที่จุดแวะพักจุดชมวิวก่อน ไปแบบชิลๆ ก็ได้อารมณ์อีกแบบ
ถ้าไม่ปั่นจักรยานก็ไปเที่ยวเขาอีโต้ได้ การเดินทางภายในเขาอีโต้นั้นเส้นทางสะดวกสบายเส้นทางลาดยางไปจนสุดยอดเขา หรือหากอยากสัมผัสบรรยากาศท่ามกลางป่าใหญ่สามารถขึ้นไปได้ตามเส้นทางจักรยานของเขาอีโต้ บนเขาอีโต้มีจุดชมวิวเขาหินซ้อน ซึ่งตรงจุดนี้จะมองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองปราจีนบุรีได้สวยงามมาก ไม่ไกลกันนักก็จะถึงน้ำตกเขาอีโต้ น้ำตกชั้น 1 ชั้น 2 ค่อนข้างปลอดภัย สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ จึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจอีกหนึ่งจุดของคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว พร้อมร้านอาหาร ห้องอาบน้ำ และลานกางเต๊นท์
ที่ตั้ง ตำบลบ้านพระ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
ภาพจาก - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศรมีรูปลักษณะเป็นอาคารสีเหลืองสไตล์บาโรคตั้งตะหง่านอยู่ริมแม่น้ำปราจีนบุรี ซึ่งเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ได้ใช้ทรัพย์สินส่วนตัวสร้างอาคารหลังนี้ขึ้นมาเพื่อรับเสด็จล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ แต่พระองค์เสด็จสวรรคตไปก่อนหน้านั้น ต่อมาภายหลังสถานที่แห่งนี้ได้เป็นที่รับเสด็จล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ และพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ โดยที่ท่านเจ้าของอาคารไม่เคยใช้ตึกหลังนี้เป็นที่พำนักส่วนตัวเลยตราบจนสิ้นอายุขัย ต่อมาอาคารหลังนี้ถูกมอบให้ทางราชการและถูกโอนมาเป็นของกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลปราจีนบุรี และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร หลังจากนั้นก็ได้รับการบูรณะเรื่อยมาแต่ลักษณะภายในยังคงแบบเดิมไว้ครบถ้วน ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้แล้ว อีกทั้งที่นี่ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นประเภทอาคารด้วย
ปัจจุบันอาคารนี้ได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศรหรือพิพิธภัณฑ์แพทย์แผนไทยเพื่อให้เป็นแหล่งการศึกษา ค้นคว้า อ้างอิง รวบรวมการอนุรักษ์ตำรายาไทย การแพทย์ไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี และจัดนิทรรศการแสดงภาพพระฉายาลักษณ์พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดาสิริโสภาพรรณวดีซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงเป็นหลานปู่และหลานทวดของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และมีนิทรรศการภาพถ่ายรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. แวะไปเที่ยวชมกันได้เลย
ที่ตั้ง ตำบลท่างาม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ หรือ พิพิธภัณฑ์ตะเกียง ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ของเอกชนซึ่งสร้างขึ้นมาจากความรักและสนใจในวัตถุโบราณต่างๆ ของผู้เป็นเจ้าของ จึงได้รวบรวมสะสมของโบราณทีละเล็กละน้อยทั้งได้รับตกทอดจากบรรพบุรุษและซื้อหาเพิ่มเติมด้วยตนเองจนมีปริมาณมากมาย จนภายหลังได้สร้างพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ขึ้นมาเพื่อแบ่งปันให้ผู้อื่นได้เชยชมด้วย ทุกวันนี้ที่นี่เลยเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดปราจีนบุรีไปแล้ว
บริเวณภายนอกของพิพิธภัณฑ์ถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติทั้งต้นไม้นานาชนิด สัตว์ต่างๆ เช่น ปลา เต่า และนกสวยงาม ส่วนภายในเป็นแหล่งรวบรวมข้าวของเครื่องใช้โบราณ โดยเฉพาะตะเกียงหลากหลายรูปแบบจำนวนมหาศาลกว่า 10,000 ดวงซึ่งได้รับการผลิตจากทั่วทุกมุมโลก อย่างเช่นของ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา สวีเดน ฮ่องกง จีน ออสเตรเลีย ไทย เป็นต้น โดยแบ่งการแสดงข้าวของโบราณเป็น 4 อาคารหลักๆ ได้แก่ อาคารราชาวดี อาคารลีลาวดี อาคารชวนชม และอาคารเจ้าพายุ แต่ละอาคารนอกจากจัดแสดงตะเกียงเจ้าพายุแล้ว ยังจัดแสดงพระเครื่อง รูปเก่าๆ ของเมืองปราจีนบุรี ข้าวของเครื่องใช้โบราณต่างๆ ทั้งเครื่องเงิน เครื่องทอง เตารีดโบราณ เครื่องปั้นดินเผา ตู้เย็นใช้น้ำมันก๊าด ถ้วยชามโบราณ ขวดน้ำอัดลม เครื่องคิดเลข พัดลม ของเล่นเด็ก ฯลฯ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดบริการวันอังคารถึงวันอาทิตย์ 09.00-17.00 น. สามารถมาเที่ยวชมได้เสมอ
ที่ตั้ง ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
ภาพจาก - Facebook พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์
ถ้ามาปราจีนบุรีก็สามารถชมดอกไม้สวยๆ ได้เหมือนกัน คนรักดอกไม้มารวมกันตรงนี้ได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง ภายในพื้นที่ 750 ไร่ของดาษดาแกลเลอรี ได้จัดแสดงสวนดอกไม้ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนธีมไปเรื่อยๆ ทั้งดอกไม้เมืองไทยและเมืองหนาวตระการตา ทำให้เราเพลิดเพลินได้แบบไม่ซ้ำจำเจ แถมอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีด้วย นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสดอกไม้อย่างใกล้ชิด ถ่ายรูปกันรัวๆ อย่างประทับใจ แถมได้สนุกสนานกับกิจกรรมหลากหลายที่ทางดาษดาแกเลอรีจัดเอาไว้ให้ด้วย ภายในจะแบ่งเป็น 3 โซนหลักๆ คือ โซนแรกจะเป็นอุโมงค์ดอกไม้ โซนที่สองสวนสัตว์เล็กๆ ที่มีสัตว์น่ารักๆ ให้ชมมากมาย กิจกรรมกลางแจ้ง ตลาดน้ำ (สองอย่างหลังจะเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์) และโซนที่สามเป็นไนท์การ์เด้นท์ การแสดงแสงสีจากดวงไฟจากดวงไฟระยิบระยับ น้ำพุเต้นระบำ นอกจากนั้น ยังมีร้านจำหน่ายดอกไม้ต้นไม้ ของที่ระลึก และร้านอาหารที่สร้างสรรค์เมนูพิเศษจากดอกไม้ ร้านกาแฟ ไอศกรีมดอกไม้ เบเกอรี่ไว้เอาใจนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย หากใครสนใจพักค้างท่ามกลางบรรยากาศป่าเขา ที่นี่มีที่พักไว้บริการด้วยเช่นกัน
ที่ตั้ง ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
อุทยานแห่งชาติทับลานมีเนื้อที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ สภาพโดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยภูเขาใหญ่น้อยสลับซับซ้อนต่อเนื่องกันเป็นบริเวณกว้างของเทือกเขาพนมดงรัก ภายในอุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น เขามะค่าเป็นเส้นทางเดินป่าขึ้นเขาสามารถชมทัศนียภาพได้ตลอดเส้นทาง เขื่อนลำปลายมาศจุดนี้จะมีกิจกรรมล่องเรือ ล่องแพ บริเวณหาดทรายสามารถลงเล่นน้ำได้ น้ำตกบ่อทองเป็นน้ำตกหนึ่งในหลายๆ น้ำตกของอุทยานฯ ที่มีความสวยงามเมื่อได้ชื่นชมแล้วเย็นกายเย็นใจไม่น้อย ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ผาเก็บตะวัน
ท่องป่าลานซึ่งเป็นป่าลานผืนใหญ่แห่งสุดท้ายของประเทศไทย มีต้นลานซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์หาดูได้ยากมีเฉพาะบางท้องที่เท่านั้นอยู่เต็มไปหมด โดยชื่ออุทยานแห่งชาติทับลานก็นำมาจากต้นลานที่พบจำนวนมากในที่นี่นั่นเอง ถ้าไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติทับลานช่วงฤดูฝนตอนนี้ยิ่งชุ่มชื่นเขียวขจีสดชื่นจริงๆ และทางอุทยานฯ มีบ้านพักรับรองและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการด้วย
ที่ตั้ง ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
ฤดูฝนนี้เหมาะกับการเที่ยวผจญภัยแบบล่องแก่งเพราะเป็นช่วงเวลาที่สายน้ำสวยงาม แก่งหินเพิงได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ล่องแก่งยอดนิยมอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เป็นเส้นทางล่องแก่งที่มีระดับความยากง่ายอยู่ที่ 3-5 บนระยะทางรวมกว่า 4.5 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลาผจญภัยนั่งอยู่ในเรือยาง 8-10 คนล่องในแม่น้ำใสใหญ่ลัดเลาะไปตามโขดหินน้อยใหญ่ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยจะผ่านแก่งต่างๆ ถึง 6 แก่งด้วยกัน ได้แก่ แก่งหินเพิง แก่งวังหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังไทร แก่งงูเห่า ซึ่งปีนี้มีน้ำมากถึงระดับ 5 ทำให้การเล่นล่องแก่งเร้าใจเป็นพิเศษ
ในแต่ละปีทางจังหวัดปราจีนบุรีจะจัดให้มีฤดูกาลล่องแก่งหินเพิงตลอดช่วงฤดูฝนเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมซึ่งถือได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงพีคสุด ใครชอบความตื่นเต้นโลดโผนมาเที่ยวช่วงนี้จะยิ่งติดใจ หากพ้นฤดูฝนไปแล้วแก่งกินเพิงจะกลายเป็นลานโขดหินกว้างใหญ่ก็มีสเน่ห์ไปอีกแบบ นอกจากนั้น บริเวณแก่งหินเพิงยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งที่จอดรถ ร้านอาหาร ที่พัก ห้องน้ำ เรือยาง อุปกรณ์ป้องกันภัย เจ้าหน้าที่นำเที่ยว นักท่องเที่ยวหายห่วงได้เลย
ที่ตั้ง ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
ภาพจาก - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ที่นี่เราจะได้ชมและศึกษาประวัติศาสตร์อารยธรรมโบราณอันเก่าแก่ เมืองศรีมโหสถเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดปราจีนบุรี เป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่สมัยทราวดีมีอายุกว่า 1,200 ปี ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าชายทะเลที่สำคัญ และเป็นศูนย์กลางความเจริญทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และศาสนาพุทธ ปัจจุบันมีร่องรองของเมืองศรีมโหสถให้เห็นหลายอย่าง ทั้งนอกตัวเมืองและในตัวเมือง โบราณสถานที่สำคัญในเมืองศรีมโหสถประกอบไปด้วย กลุ่มโบราณสถานกลางเมืองอายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นหมู่เทวาลัยก่อด้วยศิลาแลง ด้านบนก่อด้วยอิฐภูเขาทองเป็นพระเจดีย์รูปกลม ลักษณะเหมือนโถคว่ำ เทวาลัยรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่อด้วยศิลาแลง และสระแก้วซึ่งเป็นสระน้ำโบราณ ขอบสระแกะสลักเป็นลวดลายรูปสัตว์ต่างๆจำนวนถึง 45 ภาพ ส่วนสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ก็มีไม่น้อย อาทิ พระนิรันตราย พระนาคปรก พระสังกัจจายน์ ศิวลึงค์ นาคปรกหินศิลาแลง สิงโตหินศิลาแลง วัดต้นโพธิ์ซึ่งด้านในมีต้นศรีมหาโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่สุดของประเทศ หลวงพ่อทวารวดีที่ประดิษฐานอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปกราบสักการะ
ที่ตั้ง ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
ภาพจาก - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สระมรกตเป็นบึงน้ำสมัยโบราณขนาดใหญ่ อยู่ท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้า ผิวน้ำของสระมรกตถูกปกคลุมไปด้วยดอกบัวจำนวนมาก ซึ่งหากมาเที่ยวชมตอนเช้าจะเห็นดอกบัวบานสะพรั่งงดงาม นอกจากนั้นยังมีโบราณสถานที่สำคัญคือ พระปรางค์จำลอง รอยพระบาทคู่ที่ขุดพบบริเวณโบราณสถานสระมรกตเมื่อปี พ.ศ.2529 ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นรอยพระพุทธบาทคู่ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองไทยมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-13 โดยสลักลงไปในพื้นศิลาแลงธรรมชาติลักษณะเหมือนจริง และกลุ่มอาคารพุทธศาสนามหายานมีแผนผังแบบเดียวกับอโรคยศาลาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สร้างทับของเดิมราวพุทธศตวรรษที่ 17-18 กล่าวคือมีสระน้ำใหญ่อยู่ทางทิศตะวันออก ก่อนเข้าสู่กลุ่มอาคารจะมีสระน้ำเล็กอยู่ ขวามือมีโคปุระหรือซุ้มประตูอยู่ทางทิศตะวันออก ชักปีกกาออกสองข้างเป็นกำแพงแก้ว ภายในทางซ้ายมือเป็นที่เก็บตำราหรือคัมภีร์ ภายในส่วนกลางจะเป็นปรางค์ประธาน ซึ่งมักเป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์ไภสัชคุรุไวฑูรยประภา ผู้รักษาโรค แต่เดิมโบราณสถานมรกตมีสภาพสมบูรณ์กว่าปัจจุบัน แต่เนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนศิลาแลงไปทุบย่อยเพื่องสร้างอุโบสถต่างๆ ในพื้นที่แถบนี้
ที่ตั้ง ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
ภาพจาก - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
วัดแก้วพิจิตรตั้งอยู่ด้านขวาของแม่น้ำบางปะกง นับเป็นวัดเก่าแก่ประจำจังหวัด สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2422 โดยเศรษฐีนีใจบุญชาวปราจีนบุรีชื่อนางประมูล โภคา ภรรยาขุนประมูลภักดี ต่อมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้นมาเพิ่มเติม ภายในประดิษฐานพระประธานปางอภัย จึงมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมและลวดลายประดับอาคารผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน ยุโรป และเขมร สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่ ฝาผนังด้านนอกพระอุโบสถมีภาพปูนปั้นเรื่องรามเกียรติ์ ส่วนภายในพระอุโบสถมีภาพวาดแผ่นผ้าเกี่ยวกับเรื่องราวในพระพุทธศาสนา เช่น ทศชาติชาดก มารผจญ ซึ่งวาดโดยช่างหลวงในรัชกาลที่ 6 ด้านในวัดพระแก้วจะมีหอพระไตรปิฎก ด้านหน้าพระอุโบสถจะเป็นอาคารเรียนหนังสือไทยนักธรรมบาลี และพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของเก่าประเภทเครื่องใช้ไม้สอยในชีวิตประจำวันเมื่อครั้งอดีต
ที่ตั้ง ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
ภาพจาก - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก (ดูแลพื้นที่จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว) โทรศัพท์ 037 312-282 และ 037 315-664