ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ชาละวัน...หลั่นล้า ไหว้พระดังเมืองพิจิตร
เมื่ออดีตจังหวัดพิจิตรเป็นเมืองที่หลายคนแค่ผ่านไปผ่านมาเพื่อเดินทางไปจังหวัดอื่นๆ ในแถบภาคเหนือ แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะเมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ทำให้มีโบราณสถานสำคัญๆ ให้เที่ยวชมมากมาย รวมถึงประเพณีไทยโบราณที่หาดูได้ยากด้วย
นอกจากความเก่าแก่แล้วความยิ่งใหญ่ในการแข่งเรือยาวประเพณีของจังหวัดพิจิตรจะทำให้ตื่นตาตื่นใจ สนุกสนาน รู้จักและประทับใจจังหวัดพิจิตรมิรู้ลืมกันไปเลยทีเดียว การันตีได้จากนักท่องเที่ยวเรือนแสนที่ไปร่วมงานประเพณีนี้กันทุกปี
อีกหนึ่งเมืองรองที่ลองไปแล้วจะรู้ว่า...เด็ด
ศึกชิงชัยเจ้าแห่งสายน้ำน่านอันโด่งดังสนามแรกของประเทศกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว ในวันเสาร์ที่ 1 และวันอาทิตย์ที่ 2 กันยายนนี้ พลาดไม่ได้จริงๆ กับความเร้าใจของประเพณีไทยที่มีมาแต่โบราณกาล ประเพณีการแข่งเรือยาวของจังหวัดพิจิตรมีความเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา มักทำควบคู่กับการทำบุญปิดทอง ไหว้พระ และงานกฐินโดยเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกประมาณ พ.ศ.2450 สมัยท่านเจ้าคุณพระธรรมทัสส์มุณีวงศ์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่งจะจัดการแข่งเรือยาวในวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ต่อมาในช่วงเวลาดังกล่าวน้ำในแม่น้ำน่านลดลงเร็วกว่าปกติ จึงปรับเปลี่ยนวันเวลาจัดงานมาเป็น วันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 10 ส่วนรางวัลที่ได้รับในอดีตผู้ชนะจะได้รับผ้าห่มองค์หลวงพ่อเพชร แห่งวัดท่าหลวงเป็นรางวัล ต่อมาเปลี่ยนเป็นรูปหลวงพ่อเพชรเป็นรางวัลแทน ส่วนปัจจุบันจะได้รับถ้วยพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ด้วย
เพื่อเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาติไทยให้คงอยู่สืบไป ทางจังหวัดพิจิตรได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดให้มีการแข่งเรือยาวประเพณีขึ้นเป็นงานประจำปีเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ โดยแต่ละปีจะมีการแข่งขันเรือยาวหลายสนาม ก่อนจะมาถึงไฮไลท์งานใหญ่ที่สุดของจังหวัดที่บริเวณแม่น้ำน่านหน้าวัดท่าหลวง ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวแห่แหนมาร่วมชมการแข่งเรือยาวประเพณีเป็นเรือนแสนคน ปีนี้ก็คงจะคึกคักไม่แพ้กัน นอกจากการแข่งเรือยาวแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศอีกหลายกิจกรรม ทั้งพระราชพิธีจำลองอัญเชิญถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรทางชลมารค การประกวดขบวนแห่เรือ นิทรรศการ “ลูกผู้ชายแห่งสายน้ำ สามัคคีและศรัทธา” การจำหน่ายสินค้าโอท๊อป การแสดงของศิลปินพื้นบ้านชื่อดัง และการแสดงของนักเรียนนักศึกษาตลอดงาน เรียกว่าสนุกสนานทั้งในน้ำและบนบกกันเลยทีเดียวเชียว
ภาพ - สมยศ รองทอง เพจเที่ยวเมืองพิจิตร
วัดท่าหลวง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ วัดราชดิตถาราม จัดเป็นพระอารามหลวงของจังหวัดพิจิตร มีแม่น้ำน่านไหลผ่านด้านหน้าวัด นับว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองแห่งนี้มานานนับร้อยปี ด้วยสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สิ่งสำคัญของวัดนี้คือ ภายในอุโบสถอันเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร สังฆาฏิสั้นเหนือพระอุระ หล่อด้วยทองสำริด มีหน้าตักกว้าง 1.40 เมตร สูง 1.60 เมตร ซึ่งมีพุทธลักษณะที่งดงามและทรงพุทธานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนที่มีอายุประมาณ 882 ปี ซึ่งชาวพิจิตรให้ความนับถือศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อใครไปเยือนเมืองพิจิตรก็มักจะไม่พลาดเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อเพชรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง โดยช่วงวันที่ 20-30 มกราคมของทุกปีจะมีงานนมัสการหลวงพ่อเพชร และสมโภชเมืองพิจิตร เพื่อเป็นการสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตรให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้นด้วย
ที่ตั้ง ตำบลท่าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ในน้ำมีปลา บนฟ้ามีนก ในบึงสีไฟมีดอกบัวเบ่งบานอวดโฉมรอต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยความมีชื่อเสียงของบึงสีไฟอันเป็นสัญลักษณ์แห่งแรกของจังหวัดพิจิตรทำให้หลายคนต่างรู้จักจังหวัดนี้จากบึงสีไฟก่อนจะเดินทางมาถึงตัวจังหวัดด้วยซ้ำไป บึงสีไฟเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่อันดับสามของประเทศไทย มีเนื้อที่ถึง 5,300 ไร่เศษ นอกจากความกว้างใหญ่แล้วบึงสีไฟยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม อากาศดีชวนให้เคลิ้มไปกับสายลม แสงแดดจริงๆ
ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวพิจิตรและชาวต่างถิ่นเสมอมา ภายในบึงสีไฟมีสถานที่แสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ เต็มไปด้วยฝูงปลาน้ำจืดมากมายหลายชนิดทั้ง ปลาช่อน ปลากราย ปลาม้า ปลาหมอ ปลาดุก ฯลฯ ซึ่งสามารถให้อาหารปลาได้ตามอัธยาศัย หากอยากชมนก ที่นี่ก็มีทั้งนกประจำถิ่นและนกหาดูยากที่อพยพมาตามฤดูกาลให้ชมด้วย แถมมีเรือปั่นให้ปั่นไปชมบึงกลางน้ำอย่างเพลิดเพลิน หากอยากชมไม้ ในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จะมีไม้ดอกไม้ประดับให้ชื่นชมและให้ความร่มรื่นอีกนานาชนิด จุดไฮไลท์อีกจุดคือ รูปปั้นพญาชาละวันหรือจระเข้อันเป็นตำนานของพิจิตร ซึ่งรูปปั้นนี้มีขนาดใหญ่มากมีความยาว 38 เมตร กว้าง 6 เมตร เมื่อเที่ยวเล่นเพลินอุรากันแล้ว ก่อนกลับสามารถแวะศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองจังหวัดพิจิตร ซื้อสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึกจากฝีมือคนท้องถิ่นโดยตรง เช่น เครื่องจักสานจากผักตบชวา ผ้าทอบ้านป่าแดง มะขามแก้วสี่รส กลับไปฝากเพื่อนฝูงญาติสนิทกันได้อีกด้วย
ที่ตั้ง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
อุทยานเมืองเก่าพิจิตรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพิจิตร ว่ากันว่าในยุคสุโขทัยบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรมาเก่าก่อน เพราะเมืองพิจิตรถูกสร้างขึ้นในสมัยพระยาโคตรบอง ประมาณปี พ.ศ.1601 ภายในบริเวณกำแพงเมืองจะมีพื้นที่ทั้งหมด 400 ไร่ ประกอบไปด้วย กำแพงเมือง คูเมือง วัดมหาธาตุ เจดีย์เก่า สวนรุกขชาติที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้หลากชนิด
นอกจากนั้น ยังมีจุดที่น่าเยี่ยมชมอีกหลายจุดด้วยกัน คือศาลหลักเมือง ด้านบนเป็นที่ตั้งเสาหลักเมืองเดิม ส่วนด้านล่างเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระยาโคตรบอง หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า พ่อปู่นั่นเอง วัดมหาธาตุโบราณสถานเก่าแก่ของที่นี่ ก่อด้วยอิฐตั้งอยู่กึ่งกลางเมืองพิจิตรเก่า ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติไว้แล้ว เกาะศรีมาลาเป็นมูลดินที่มีลักษณะคล้ายเกาะเล็กๆ กลางคูเมืองนอกกำแพงเก่า สันนิษฐานกันว่าน่าจะเป็นป้อม หรือหอคอยรักษาการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งมาก่อน และถ้ำชาละวัน จากบทวรรณคดีชื่อดัง ไกรทอง บทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 โดยมีลักษณะเป็นถ้ำลึกลงไปในดิน ด้านหน้ามีรูปปั้นไกรทองและชาละวันให้ได้ถ่ายรูปที่ระลึกว่าเรามาถึงพิจิตรกันแล้วนะ
ที่ตั้ง ตำบลโรงช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
วัดเขารูปช้าง วัดแห่งนี้จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนวัดอื่นๆ เพราะตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีลักษณะเหมือนช้างกำลังทำท่าคุกเข่าอยู่ สถาปัตยกรรมทั้งโบสถ์ วิหาร เจดีย์ กุฏิ ล้วนเป็นศิลปะสมัยอยุธยา ต่อมาประมาณปี พ.ศ.2300 ได้มีการสร้างเจดีย์บรรจุพระธาตุไว้บนยอดเขาบนส่วนหัวช้าง และได้มีการจัดงานประเพณี “ปิดทองไหว้พระขึ้นเขาเพ็ญเดือน 3” ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจจุบัน โบราณสถานที่สำคัญอื่นๆ ของวัดนี้คือ เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทสำริด โดยมีมณฑปทรงจตุรมุขครอบไว้ ภายในมีภาพเขียนฝาผนังเรื่องไตรภูมิพระร่วง นอกจากนั้นยังมี เจดีย์ปฐวีปิฎก สร้างขึ้นเมื่อฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ยอดเจดีย์บรรจุพระธาตุ ส่วนฐานบรรจุแผ่นอิฐจารึกพระไตรปิฎก และจุดไฮไลท์คือให้เดินขึ้นบันไดนาค 136 ขั้นเพื่อไปชมโบราณสถานที่ตั้งอยู่ด้านบน ซึ่งมีทั้งเจดีย์ พระพุทธรูปปางประทานพรสีทองอร่ามองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่บนนี้ด้วย และด้านบนสุด ยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองพิจิตรได้แบบ 360 องศากันเลย ยิ่งถ้ามาเที่ยวในฤดูทำนาจะเห็นท้องทุ่งนาเขียวขจีสวยงามมาก
ที่ตั้ง ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
วัดโพธิ์ประทับช้าง วัดที่โด่งดังที่สุดของจังหวัดพิจิตร เป็นโบราณสถานเก่าแก่อายุมากกว่า 300 ปี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าเสือ แห่งกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ณ สถานที่ประสูติของพระองค์ ลักษณะของวัดมีวิหารสูงใหญ่ มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้น อันเป็นศิลปะสมัยอยุธยา ทุกวันนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีการสร้างทับโครงสร้างเดิมแต่อย่างไร เพียงแต่กรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมบางส่วนเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้เป็นสมบัติของชาติสืบไป โดยภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปหลวงพ่อโต หรือหลวงพ่อยิ้ม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งของจังหวัดพิจิตร ฝั่งตรงข้ามวัด ชาวอำเภอโพธิ์ประทับช้างได้สร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าเสือไว้เป็นที่ระลึก โดยสร้างบนตำแหน่งที่เชื่อกันว่าเป็นตำแหน่งที่พระองค์ประสูติ นอกจากนั้นยังมีต้นตะเคียนยักษ์อายุกว่า 250 ปี ซึ่งต้องใช้คนถึง 7 คนถึงจะโอบได้รอบอยู่ในบริเวณวัดด้วย เที่ยวชมวัดแล้ว อย่าลืมแวะอุดหนุนส้มโอ และของฝากจากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสามัคคีโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร
ที่ตั้ง ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร
วัดสุขุมาราม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาที่งดงาม แวะไปกราบขอพรพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนองค์ใหญ่ ศิลปะร่วมสมัย ซึ่งมีความยาวถึง 55.29 เมตร เป็นพระนอนที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย โดยประดิษฐานอยู่ในอาคารสีขาวที่เปิดโล่งมองเห็นองค์พระได้อย่างโดดเด่นวิจิตรงดงาม ดูแล้วน่าเลื่อมใสมาก พระนอนองค์นี้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา
นอกจากพระนอนองค์ใหญ่แล้วนั้น สามารถไปกราบสักการะรูปหล่อหลวงพ่อเขียน ธัมมะรักขิโต อดีตเจ้าอาวาสวัดสุขุมาราม เกจิอาจารย์ที่ชาวพิจิตรและชาวพุทธทั้งหลายเคารพนับถือในวิหารได้อีกด้วย และภายในวัดยังมีอาคารโบราณเก่าแก่ต่างๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ศาลาการเปรียญ อุโบสถ เจดีย์พระโพธิญาณ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เป็นต้น หากได้ไปเยือนจะพบว่า บรรยากาศของวัดนี้ช่างเงียบสงบร่มเย็นจริงๆ วัดแห่งนี้จึงเป็นสถานปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน สำหรับชาวพุทธที่ต้องการแสวงหาความสุขในทางธรรมให้กับชีวิตด้วย
ที่ตั้ง ตำบลวังตะกู อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร
ย่านเก่าวังกรดเป็นชุมชนเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน เมื่อครั้งอดีตเคยมีความรุ่งเรืองทางการค้าขายอย่างมาก เนื่องจากเป็นจุดตัดทางการคมนาคมทั้งทางบกและทางน้ำ ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการค้าแห่งใหญ่ของจังหวัด ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางโลก การค้าการขายของที่นี่จึงไม่คึกคักเหมือนในอดีต แต่ก็มีร้านค้าบางร้านยังเปิดกิจการสืบทอดจากบรรพบุรุษอยู่เหมือนเดิม เช่น ร้านขายของชำ ร้านขายอาหาร ขายขนมซึ่งคงเอกลักษณ์รสชาตแบบโบราณ ร้านขายยา ร้านตัดผม เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันร้านต่างๆ กลับมาคึกคักอีกครั้งแล้ว เพราะทางจังหวัดได้โปรโมทให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่ง
ที่น่าปรบมือให้คือ ที่นี่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตเอาไว้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว ถ้ามาเที่ยวแล้วจะได้เห็นวิถีชุมชนของแท้ดั้งเดิม เรียบง่าย งดงาม ปราศจากการปรุงแต่งใดๆ ทั้งสิ้น ด้านหลังชุมชนจะเป็นศาลเจ้าพ่อวังกลม ซึ่งเป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพนับถือของคนละแวกนี้ ด้านหน้าชุมชนเป็นสถานีรถไฟพิจิตรสไตล์นีโอคลาสิกซึ่งยังเปิดบริการอยู่เหมือนเดิม อีกทั้งบริเวณนี้ยังมีถนนคนเดินให้ช้อปปิ้งด้วย โดยเปิดโอกาสให้คนในท้องถิ่นนำข้าวของสารพัดอย่างมาขายทั้งของกินของใช้ให้กับคนพิจิตรด้วยกันและนักท่องเที่ยวเป็นการกระจายรายได้ให้ชุมชนได้อีกทางหนึ่ง โดยจะเปิดค้าขายทุกเย็นวันเสาร์ ใครที่ชอบบรรยากาศแบบย้อนยุคเสน่ห์แบบวันวานแวะเที่ยวย่านนี้ได้เลย
ที่ตั้ง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
ภาพ - ปุณพุฒิ นิสิตคุณากร เพจเที่ยวเมืองพิจิตร
ของฝากขึ้นชื่อมาเมื่อมาเยือนพิจิตร คือผ้ามัดหมี่ทอมือจากชาวไทยพวนบ้านป่าแดง ชุมชนที่ยังคงเอกลักษณ์และวิถีวัฒนธรรมไว้ได้เป็นอย่างดี ทั้งภาษาและศิลปะการทอผ้าที่มีมาตั้งแต่ยุคอดีต
ผ้าทอบ้านป่าแดงมีจุดเด่นที่ต่างจากที่อื่นๆ คือเทคนิคการมัดหมี่ที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ลายผ้ามีสีสันที่คงความสดใส สีไม่ตกซีดแม้จะผ่านการใช้กี่ครั้งก็ตาม นอกจากนี้ ยังเป็นผ้าที่ดูแลรักษาง่าย สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ ลายที่ทอมีความหลากหลาย เช่น ลายเปาบุ้นจิ้น ลายดอกพิกุล ลายนกกระจิบ ลายข้าวหลามตัด ลายตะวันลับฟ้า ลายเชิงเทียน ลายกระจับพวง ลายร่างแห เป็นต้น นอกจากคุณภาพดีแล้ว ยังราคาถูก จึงเป็นที่นิยมทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ สามารถซื้อหาผ้ามัดหมี่ฝีมือชาวไทยพวนได้ที่บ้านป่าแดง ต.หนองพะยอม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครสวรรค์ โทรศัพท์ 056 221-811-2