ถ้าไม่ทัก รักไม่เกิดจริงเหรอ?

การเข้ามาของเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนไปอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การสื่อสาร การทำธุรกิจ รวมไปถึงเรื่องยิ่งใหญ่ของชีวิตอย่างเรื่องความรัก


ไอเดียการพบรักออนไลน์โดยไม่เห็นหน้าค่าตากันมาก่อน อาจจะเป็นแนวคิดที่แปลกประหลาดถ้านั่งไทม์แมชชีนย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน แต่ในโลกยุคดิจิทัลอย่างในปัจจุบัน เทคโนโลยีได้มาสร้างเครือข่ายให้คนโสด ได้มีช่องทางในการพบปะกันมายิ่งขึ้น ทั้งในโลกออนไลน์และในชีวิตจริง เพียงหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา ก็สามารถพบเจอผู้คนใหม่ๆ เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ สะดวกสบายยิ่งกว่าไปร้านสะดวกซื้อเสียอีก


มีสถิติที่น่าทึ่ง คือ คนทั่วโลก 200 ล้านคนใช้บริการหาคู่ออนไลน์ทุกเดือน โดยในสหรัฐอเมริกามากกว่า 1/3 ของคู่ที่แต่งงานกัน ได้เริ่มต้นจากการพบกันออนไลน์ เพราะเชื่อว่าการรู้จักกันผ่านช่องทางออนไลน์นี้จะช่วยลดความเคอะเขิน (Awkward) ซึ่งมักเป็นอุปสรรคต้นๆ ในการสานต่อความสัมพันธ์ของคนส่วนใหญ่ได้


อย่างไรก็ตามแม้โลกออนไลน์จะช่วยเพิ่มโอกาสในการพบปะผู้คนที่ถูกใจ เพื่อสานต่อความสัมพันธ์มากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกสะดวกใจกับการเริ่มพูดคุยกับคนแปลกหน้า จนพลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย เลยมีคำพูดสุดคลาสสิคเกิดขึ้นว่า “ถ้าไม่ทัก รักก็ไม่เกิด”

line-sticker-02

หลายคนเลือกที่จะวางฟอร์มนิ่ง ไม่ทักก่อน เลือกไปตั้งสเตตัสเวิ่นเว้อในเฟซบุ๊กแทน แต่ในใจนั้นวุ่นวายอยากทักไปใจจะขาด โลกออนไลน์จึงเต็มไปด้วยคนเหงาที่ต่างกลัวจะต้องเป็นฝ่ายทักก่อน ปรากฎการณ์นี้ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด มีคำอธิบายว่ามันเกิดจากความคาดหวังที่เราอยากจะได้รับความสนใจจากฝั่งตรงข้าม จนเกิดเป็นความกังวลและกลัวจะเผชิญกับความผิดหวัง หากแชทของเราถูกมองผ่าน ซึ่งคนเหล่านี้มักจะแก้ปัญหาด้วยการแกล้งส่งสติกเกอร์น่ารักๆ เป็นการลองเชิง พร้อมความหวังเล็กๆ ให้เกิดบทสนทนาต่อ เพราะการทักคนแปลกหน้าด้วยสติกเกอร์ เป็นวิธีเริ่มบทสนทนาที่ดู Friendly เข้าถึงง่าย แถมคนอ่านยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเราจะมาไม้ไหน ต้องการสื่ออะไร อีกอย่างมันเป็นแค่สติกเกอร์ไม่ดูเป็นการไปคุกคามอีกฝ่ายมากเกินไป ดีไม่ดีเขาอาจจะส่งสติกเกอร์ตอบกลับมาให้พอเดาได้ว่าเขาเป็นมิตรรึเปล่า และเริ่มเกิดบทสนทนาจริงๆ จังๆ ขึ้นมา เผลอๆ อีกฝ่ายอาจจะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนากับเราก่อนก็ได้

ด้วยเหตุผลนี้ จึงมีคนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะการทักทายคนแปลกหน้าที่ถุกใจบนโลกออนไลน์ด้วยการส่งสติกเกอร์แทนการทักด้วยคำพูด แถมยังมีผลสำรวจออกมาว่า เทคนิคการใช้สติกเกอร์เปิดบทสนทนานั้น ให้ผลที่น่าพึงพอใจและช่วยให้คนสมหวังในความรักมานักต่อนักแล้ว อาจจะเพราะเป็นการหยั่งเชิงที่ดูแนบเนียน ทำให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกว่ากำลังถูกคุกคาม บวกกับความน่ารักของสติกเกอร์ยุคนี้ ที่ขยันออกแบบมาแข่งความน่ารักน่าใช้กันบนจอสมาร์ทโฟนของเรา ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศการพูดคุยดูผ่อนคลายและเป็นกันเองมากขึ้น ในยุค 4.0 แบบนี้ รักใคร ชอบใคร อย่ามัวรอช้า ถ้าไม่ทัก รักไม่เกิดนะ จะบอกให้!