15 ประเทศยุโรปน่าเที่ยว เที่ยวยุโรปกับประเทศต้องปักหมุดในปี 2024


ทริปนี้ไม่พึ่งทัวร์ก็สนุกได้ แค่ใจพร้อมประเทศในฝันก็อยู่แค่เอื้อม บทความนี้จะพาคุณทะยานสู่ดินแดนแห่งศิลปะสุดคลาสสิก ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติก ฉบับเข้าใจง่าย ตามเช็กอินได้จริง ไม่เสียเที่ยวแน่นอน กับลิสต์เที่ยวยุโรปเมืองต้องมนต์ที่ใครมาเยือนต่างก็ตกหลุมรัก

“ยุโรป” แดนสุดศิลป์ควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้งในชีวิต 
หลายคนล้วนมีประเทศในฝันที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต และการเที่ยวยุโรปก็เป็นอีกหนึ่ง Bucket list ของหลาย ๆ คนอีกเช่นกัน ดินแดนสุดศิลป์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่ารวมไปถึงธรรมชาติที่ชวนหลงใหล

หากใครที่กำลังวางแผนเตรียมออกเดินทางไปดื่มด่ำกับดินแดนที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ เราขอแนะนำ 15 ประเทศที่ต้องไปเยือน บอกเลยว่าลิสต์นี้จะทำให้คุณเที่ยวยุโรปได้สนุกขึ้นอีกเป็นเท่าตัวแน่นอน


พิกัดเที่ยวยุโรป 15 ประเทศที่ไม่ควรพลาด 

  1. อังกฤษ (England)
  2. อิตาลี (Italy)
  3. สเปน (Spain)
  4. ฟินแลนด์ (Finland)
  5. ตุรกี หรือ ตุรเคีย (Turkiye)
  6. กรีนแลนด์ (Greenland)
  7. จอร์เจีย (Georgia)
  8. นอร์เวย์ (Norway)
  9. สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
  10. ฮังการี (Hungary)
  11. เบลเยียม (Belgium)ล
  12. เยอรมนี (Germany)
  13. ออสเตรีย (Austria)
  14. เนเธอร์แลนด์ (Netherlands)
  15. สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)

แพ็กกระเป๋าให้พร้อมแล้วเตรียมเที่ยวยุโรปไปด้วยกัน การันตีได้เลยว่าทริปของคุณจะสนุกไม่แพ้ทริปไหน ๆ แน่นอน เพราะเราคัดสรรดินแดนแห่งความฝันมาให้คุณไปเยือนโดยเฉพาะ อย่ารอช้า มาเปิดประสบการณ์สุดอัศจรรย์ไปด้วยกันกับ 15 ประเทศที่ไม่ควรพลาดถ้าคุณมาเที่ยวยุโรป จะมีที่ไหนบ้าง มาเช็กลิสต์ไปพร้อมกันเลย


1. อังกฤษ (England) 

เปิดทริปเที่ยวยุโรปกับ “อังกฤษ (England)” เมืองในฝันอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยว ด้วยบรรยากาศสุดคลาสสิกที่ชวนหลงใหล รวมไปถึงสถานที่เที่ยวสุดล้ำค่าที่มีให้คุณได้ดื่มด่ำกับอารยธรรมเมืองผู้ดีอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านโบราณสไตล์ทิวดอร์, วังเบลนิม หรือคฤหาสน์เบลนิม และที่สำคัญสำหรับนักชอปเลยก็คือ Bicester Village สวรรค์ของกลุ่มนักชอปที่แท้จริง เพราะที่นี่มีร้านค้าแฟชั่นมากกว่า 130 ร้านให้คุณได้เลือกสรร บอกเลยว่าดินแดนแห่งนี้จะเปิดประสบการณ์ที่น่าจดจำให้คุณได้อย่างไม่รู้ลืมแน่นอน

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: พระราชวังบักกิงแฮม (Buckingham palace) พระราชวังเก่าแก่ของราชวงศ์อังกฤษ ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี หนึ่งในแลนด์มาร์กที่จะทำให้การเที่ยวยุโรปสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นอกจากความสวยงามของพระราชวังแล้ว ยังมีพิธีเปลี่ยนเวรทหารรักษาพระองค์ให้ได้ชมกันแบบฟรี ๆ อีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดถ้ามาเยือนประเทศอังกฤษ

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/oDYQ76qEaDxrkgaY6
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม:
    ผู้ใหญ่ > £35 / เยาวชน (18 - 24 ปี) > £22.50/
    เด็ก (5 - 17 ปี) และผู้พิการ > £17.50 และ เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี เข้าฟรี
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: พระราชวังเปิดให้เข้าชม 2 เดือนต่อปี (ตรวจสอบวันได้จากเว็บไซต์)
  • การเดินทาง: ขึ้น London Underground Tube ลงที่สถานี Victoria แล้วเดินมาตามถนนบักกิงแฮม
  • Website: www.rct.uk 


2.อิตาลี (Italy) 

เที่ยวยุโรปทั้งที่จะพลาด “อิตาลี (Italy)” อีกหนึ่งดินแดนสุดฮอตไปไม่ได้ นอกจากเลื่องชื่อด้านอาหารรสเลิศแล้ว อิตาลีก็ยังมีสถานที่น่าสนใจมากมาย ให้คุณได้ท่องเที่ยวพร้อมดื่มด่ำไปกับอาณาจักรโรมัน พร้อมสถาปัตยกรรมและธรรมชาติที่ชวนหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นปราสาทซูโว, เมืองอัลเบอโรเบลโล หรือจะเป็นเมืองทอร์มินา การันตีได้เลยว่าสถานที่เหล่านี้ จะเติมเต็มความฝันของคุณให้สาวยงามราวดั่งรูปภาพจากศิลปินชั้นเอกอย่างแน่นอน

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: หอเอนเมืองปิซา (Leaning Tower of Pisa) หอระฆังสูงใหญ่ สถาปัตยกรรมแบบ Romanesque โดยแท้จริง หากใครมาเยือนอิตาลี ก็ต้องแวะมาชมความงดงามสุดมหัศจรรย์ของมหาวิหารปิซ่า

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/STiYnN5LGicoKEhW9 
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ:
    วันจันทร์ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 18.00 น.
    วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. – 18.00 น.
  • การเดินทาง: ขึ้นรถบัสสาย Lam Rossa จากสถานีรถไฟ Pisa Centrale
    ลงป้าย Torre 1 เดินประมาณ 5 นาทีจะถึงหอเอนเมืองปิซา
  • Website: www.opapisa.it 


3.สเปน (Spain) 

อีกหนึ่งเมืองที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม “สเปน (Spain)” พิกัดสุดปังที่นักเดินทางยกให้เป็นแลนด์มาร์กในการเที่ยวยุโรปที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง เพราะดินแดนแห่งนี้มีเมืองสวยตระการตาให้คุณได้รู้สึกอิ่มเอมกับบรรยากาศที่หาเทียบได้ยาก รวมไปถึงความล้ำค่าของสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็น สะพานวิซคายา, อาคารพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์, สถาปัตยกรรมโคโลเนียล บอกเลยว่าสเปนจะสร้างความทรงจำสุดล้ำค่าในการเที่ยวยุโรปได้อย่างแน่นอน

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) มหาวิหารขนาดใหญ่และสูงที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบาร์เซโลน่า โดยมหาวิหารนี้ถูกก่อสร้างมาแล้วกว่า 140 ด้วยความยิ่งใหญ่สุดอลังการของมหาวิหารทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดย UNESCO ในปี 1984

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/R2khnTSiobFbMxUP8 
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: บุคคลทั่วไปราคาเริ่มต้น 26 €
  • วันและเวลาที่ให้บริการ:
    วันจันทร์ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 18.00 น.
    วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.30 น. – 18.00 น.
  • การเดินทาง: รถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Passeig de Gràcia ทางออก L2
  • Website: www.sagradafamilia.org


4.ฟินแลนด์ (Finland)

“ฟินแลนด์ (Finland)” จะทำให้การเที่ยวยุโรปของคุณฟินอย่างสุดใจ เพราะดินแดนแห่งนี้จะมอบประสบการณ์ชวนฝันให้คุณได้ตราตรึงใจ จนต้องอยากกลับมาเยือนที่แห่งนี้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น Snow Experience 365 เมืองหิมะที่น่าทึ่ง, ทุ่งน้ำแข็งแห่งอ่าว Bothnian Bay หรือจะเป็นกิจกรรมตกปลาจากหลุมน้ำแข็ง และที่พลาดไม่ได้ คือ “หมู่บ้านซานตาครอส” อีกหนึ่งพิกดยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่พากันมาเติมเต็มความฝันวัยเด็กกันอย่างล้นหลาม

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: มาเยือนฟินแลนด์แล้ว ต้องเช็กอินเมืองหลักคือรอวาเนียมี (Rovaniemi) ให้ได้ นอกจากจะเติมเต็มความฝันวัยเด็กกับ “หมู่บ้านซานตาครอส” ให้คุณได้แล้ว รอวาเนียมียังเป็นจุดชมแสงเหนือที่สวยงามมากที่สุดของโลกนอกจากนี้คุณก็ยังจะได้ชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนอีกด้วย การันตีได้เลยว่าฟินแลนด์จะมอบประสบการณ์อันน่าทึ่งให้คุณได้จดจำอย่างแน่นอน

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/DLtxKvMZz7TNZMts6
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์
  • การเดินทาง: ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์
    Website: www.visitrovaniemi.fi


5. ตุรกี หรือ ตุรเคีย (Turkiye) 

มาต่อกับอีกหนึ่งดินแดนเที่ยวยุโรป “ตุรกี (Turkiye)” หรือ “ตุรเคีย” เที่ยวสนุก ฟินบรรยากาศสไตล์ยุโรปแบบไม่ต้องขอวีซ่า ด้วยความที่ตุรเป็นดินแดนสองทวีป ที่มีพื้นที่ทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย จึงกลายเป็นเสน่ห์ของดินแดนแสนอัศจรรย์นี้ไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะด้านภูมิประเทศ, อารยธรรมทางประวัติศาสตร์ หรือจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวก็ตาม ทั้งหมดนี้จะสร้างความทรงจำที่แสนประทับใจให้คุณในดินแดนตุรกี ได้อย่างแน่นอน

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองทางตอนกลางของตุรกี เป็นแลนด์มาร์กสุดฮอตที่นักท่องเที่ยวเลือกมาเช็กอิน เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมที่หลากหลาย อีกทั้งยังมีความสวยงามของธรรมชาติให้ได้แวะชมอย่าง พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (GOREME OPEN AIR MUSEUM) หรือจะเป็น Red and Rose Valleys จุดชมพระอาทิตย์ที่สวยที่สุด และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ การขึ้นบอลลูนยักษ์ ชมบรรยากาศเมืองคัปปาโดเกีย

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/DziQNsNTGaSRbTKE6
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: -
  • การเดินทาง: -
  • Website: -


6. กรีนแลนด์ (Greenland) 

“กรีนแลนด์ (Greenland)” หนึ่งในลิสต์เที่ยวยุโรปที่ต้องตามมาเช็กอิน ด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติทำให้กรีนแลนด์ เป็นดินแดนต้องมนต์ที่แสนชวนฝัน คุณสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศและอารยธรรม พร้อมชาร์จแบตร่างกายได้อย่างเต็มที่ กับการชมธารน้ำแข็งรัสเซล ประติมากรรมชิ้นเอกของกรีนแลนด์, เมืองอิลลูลิแซท ที่จะทำให้คุณได้เห็นวิถีชีวิตของชาวกรีนแลนด์ และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องจดไว้ คือ “การล่องเรือชมธารน้ำแข็ง” รับประกันได้เลยว่า “กรีนแลนด์” จะเปิดประสบการณ์ที่แสนประทับใจให้กับทริปเที่ยวยุโรป


 พิกัดนี้ต้องเช็กอิน
: เพราะจุดเด่นของดินแดนนี้คือธรรมชาติที่สวยงาม “แม่น้ำบลู (The Blue River)” จึงเป็นคำตอบว่าทำไมคุณควรมาเช็กอินที่นี่ ซึ่งแม่น้ำบลูเป็นธารน้ำแข็ง ที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ทำให้เราได้เห็นทะเลสาบสีฟ้าสด คุณสามารถสำรวจความสวยงามของสิ่งมหัศจรรย์ระดับโลกนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้คุณได้เปิดประสบการณ์อีกด้วย เช่น การแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางธารน้ำแข็ง เป็นต้น

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/Jv5zq1E1CWjqxdd76
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: -
  • การเดินทาง: -
  • Website:-


7.จอร์เจีย (Georgia)

ขอพาทุกคนเที่ยวยุโรปต่อกับประเทศที่เต็มไปด้วยความงดงาม “จอร์เจีย (Georgia)” อีกหนึ่งดินแดนแห่งวัฒนธรรมผสมผสาน แตกต่าง แต่กลับเข้ากันอย่างลงตัว จนกลายเป็นดินแดนที่แสนมหัศจรรย์ ทั้งด้านอารยธรรม ธรรมชาติ และประสบการณ์ หากคุณเลือกมาเที่ยวจอร์เจีย คุณจะเติมเต็มความสุขได้อย่างไม่รู้จบกับ เมืองคาสเบกิ ที่มีจุดชมวิวยอดเขาคาสเบ็ค, อนุสรณ์แห่งมิตรภาพกับกำแพงครึ่งวงกลม ที่แสดงภาพมิตรภาพระหว่างรัสเซียและจอร์เจีย เป็นต้น

สวนสนุกระดับโลกในเครือดิสนีย์ ซึ่งมีการผสมผสานการจัดวางของสถานที่กับวัฒนธรรมจีน มีทั้งหมด 7 โซนคือ เมนสตรีท, สหรัฐ, แฟนตาซีแลนด์, แอดเวนเจอร์แลนด์, ทูมอร์โรว์แลนด์, กริซลีกัลช์, มิสติกพอยต์ และทอยสตอรี่แลนด์ รองรับความสนุกที่หลากหลายที่ทุกเพศทุกวัยสามารถมาเข้าร่วมได้ โดยนอกจากสวนสนุก 7 โซนที่กล่าวถึงแล้วที่นี่ยังมีร้านอาหารที่รังสรรค์เมนูออกมาในธีมดิสนีย์ และยังมีร้านขายของฝาก ที่คอคนรักดิสนีย์มักจะนิยมพรีออเดอร์สินค้ากัน


8.นอร์เวย์ (Norway) 

พูดถึงการเที่ยวยุโรป “นอร์เวย์ (Norway)” คืออีกทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ดินแดงแห่งนี้มีกิจกรรมมากมายให้คุณได้จดจำ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถรางไฟฟ้าฟอร์บาชมยอดเขาฟลอเยน, หรือถ้าเป็นสายชิล นอร์เวย์ก็มีเมืองวอส ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเลสาบ นอกจากนี้นอร์เวยฺยังมีสถานที่แสดงผลงานศิลปะ ประติมากรรม รวมถึงการแกะสลักให้คุณได้เข้าชมอีกด้วย

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: สำหรับทริปนี้ เราขอแนะนำให้กับสายลุยมาพิชิดผวาสุดหวาดเสียว “โทรลส์ทุงกา (Trolltunga)” จุดเช็กอินที่จะให้คุณได้เก็บภาพวิวแบบสุดเสียว กับความสวยงามของหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผาคล้ายกับลิ้นขนาดใหญ่ ซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,100 เมตร การันตีได้เลยว่าคุณจะต้องประทับใจกับวิวตรงหน้าอย่างแน่นอน

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/iqrct8hxeFaZssKB7
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: -
  • การเดินทาง: -
  • Website:-


9.สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) 

แค่พูดชื่อ “สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)” ก็จินตนาการทริปเที่ยวยุโรปได้แล้วว่าความสวยงามของดินแดนแห่งนี้มหัศจรรย์แค่ไหนถึงได้กลายเป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวหลายท่าน คุณสามารถเดินชมวิว ดื่มกับอากาศที่แสนบริสุทธิ์ที่ทรีทอปวอล์ค (treetop walk) ทั้งนี้ สวิตเซอร์แลนด์ยังมีแลนด์มาร์คอย่าง “ปราสาทซีเบิร์ก” ให้คุณได้เข้าไปเยี่ยมชมถึงความสวยงามได้อีกด้วย

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) หรือ Top of Europe ยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป โดยด้านบนยอดเขาจุงเฟรามีจุดชมวิวที่สุดแสนตระการตา กับเทือกเขาหิมะ บอกเลยว่าธรรมชาติได้จัดสรรความสวยงามให้คุณมาเยือนแล้ว

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/gzZdfEsfwSofQ1t56
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: -
  • การเดินทาง: สามารถขึ้น Eiger Express จากสถานีกรินเดลวาลด์ กรุนด์ (Grindelwald Grund) และลงที่สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ (Eigergletscher) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟขบวนสีแดง
    และลงสถานียอดเขาจุงเฟราหรือสถานีสุดท้ายนั่นเอง
  • Website:-


10.ฮังการี (Hungary) 

มาต่อกับเมืองแห่งประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม “ฮังการี (Hungary)” คุณจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติ อย่าง “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” แม่น้ำดานูบ (Danube River) ที่ทำการกั้นเมืองออกเป็นสองฝั่ง จนเกิดมิติใหม่กับฮังการี ซึ่งบอกได้เลยว่าเที่ยวยุโรปในทริปนี้จะทำให้คุณประทับใจไม่แพ้ที่อื่นอย่างแน่นอน

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: สะพานเชน (Chain Bridge) หนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดในยุโรป แขกไปใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปเช็กอินสักหน่อย เพราะสะพานเชน ถูกสร้างให้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำดานูบ ความสวยงามที่ต้องตานี้ทำให้คนต่างโหวตให้เป็นสัญลักษณ์ของบูดาเปสท์โดยแท้จริง

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/QjCi4vkKKsSFgXtp6
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: -
  • การเดินทาง: -
  • Website:-


11.เบลเยียม (Belgium) 

อยากเที่ยวยุโรปแต่ขอเน้นกิจกรรมสบาย ๆ “เบลเยียม (Belgium)” ตอบโจทย์นักเดินทางสายรักสงบแบบสุด ๆ ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ อีกทั้งยังมีอากาศดี ๆ ให้เราได้ผ่อนคลาย อีกทั้งยังมีสถานที่สำคัญให้คุณได้เพลิดเพลิน เที่ยวชมได้อย่างไม่รู้เบื่อ นอกจากนี้ เบลเยียมยังมีจุดเด่นในด้านการผลิตช็อกโกแลตอีกด้วย

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: จัตุรัสแกรนด์เพลส (Grand Palace หรือ Grong Plas) จุดเช็กอินสุดฮอตกับจัตุรัสที่สวยที่สุดในยุโรป ล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเก่าเเก่หลากหลายรูปแบบ ความตระการตาของจัตุรัสแกรนด์เพลส ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO อีกด้วย สำหรับใครที่ต้องการเต็มพลังก็สามารถแวะเติมพลังด้วยช็อกโกแลต, วาฟเฟิล หอยอบ และมันฝรั่งทอดก่อนกลับได้เช่นกัน

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/ZYvtBtif78pZ3Fat5
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: เปิดให้บริการทุกวัน
  • การเดินทาง: -
  • Website:


12. เยอรมนี (Germany)

มาสู่จุดหมายยอดฮิตของการเที่ยวยุโรป “เยอรมนี (Germany)” เมืองสวยชวนฝันราวกับหลุดเข้ามาในโลกเทพนิยาย หากคุณชื่นชอบงานสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิก เยอรมนีอาจเป็นคำตอบ เพราะดินแดนแห่งนี้ คือศูนย์รวมประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรม คุณจะได้เห็นผลงานอันล้ำค่าอย่าง หอคอยเอชไนเมอร์, มหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิว, ปราสาทวิลเฮมเชอร์ เป็นต้น

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: เมืองโคโลญ (Cologne) อีกหนึ่งเมืองหลวงของเยอรมัน ที่มีความเก่าแก่ แต่กลับมีความทันสมัยสอดแทรกได้อย่างลงตัว เมืองนี้จะช่วยชุบพลังให้คุณกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งได้ ด้วยบรรยากาศของเมืองที่ผสานกับธรรมชาติได้อย่างเพอร์เฟค รวมไปถึงสถาปัตยกรรมสุดอลังการอย่าง มหาวิหารโคโลญจ์

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/T89u18RNtQxAURa9A 
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: -
  • การเดินทาง: -
  • Website:-


13.ออสเตรีย (Austria) 

“ออสเตรีย (Austria)” อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากเที่ยวยุโรป คุณสามารถตะลุยทัวร์ออสเตรียได้อย่างไม่รู้เบื่อ นอกจากความโรแมนติกแล้ว ดินแดนแห่งนี้ยังมีสถานที่หลากหลายแบบรอให้คุณไปเปิดประสบการณ์ที่น่าประทับใจ เช่น เมืองมรดกโลก อย่างเมืองกราซ, พระราชวัง Eggenberg พระราชวังแบบาโรก, รวมไปถึงจุดถ่ายรูปกับลานน้ำพุมังกรลินท์วูร์ม เป็นต้น

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) หมู่บ้านริมทะเลสาบโอบล้อมด้วยเทือกเขาสูงตระหง่าน เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจแบบเต็มสิบไม่มีหัก นอกจากความสวยแล้วที่ต้องรีบถ่ายรูปเช็กอินอวดโลกโซเชียลแล้ว อาหารขึ้นชื่อก็พร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มลองอีกเช่นกัน

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/xTmmE4n3J4kTaWyX9 
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: -
  • การเดินทาง: -
  • Website:-


14.เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) 

เตรียมเที่ยวยุโรปในดินแดนดอกทิวลิปและกันหังลมไปด้วยกันที่ “เนเธอร์แลนด์ (Netherlands)” ใครที่ชอบบรรยากาศที่แสนอบอุ่น แฝงไปด้วยความน่ารักแล้วละก็ เนเธอร์แลนด์ คือคำตอบที่จะทำให้คุณมีความสุขตั้งแต่เริ่มทริปเลยก็ว่าได้ นอกจากความน่ารักของบ้านเมืองที่ไม่ว่าจะถ่ายรูปตรงไหนก็ดูสวยไปเสียหมด เนเธอร์แลนด์ยังมีเทศกาลดอกทิวลิป ในช่วงเดือนปลายเดือนมีนาคม - กลางเดือนพฤษภาคมนั่นเอง

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: หมู่บ้านกังหันลม ซานส์ สคันส์ (Zaanse Schans) พื้นที่อุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่คุณสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ และถ้าคุณเป็นคนชอบชีส หมู่บ้านกังหันลม ซานส์ สคันส์ ก็พร้อมเสิร์ฟ แถมยังสอนวิชาสาธิตการทำชีสให้เราได้รู้อีกด้วย

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/4Ckkz9XxMhEzeXMCA 
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม: -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ: -
  • การเดินทาง: -
  • Website:-

 


15.สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) 

ปิดทริปเที่ยวยุโรปด้วยการพาทุกคนมาที่ “สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)” คุณจะสัมผัสถึงบรรยากาศบ้านเมืองสวย ๆ กับประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนไป และเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เดินทอดน่องเที่ยวชมเมืองได้อย่างไร้กังวล

พิกัดนี้ต้องเช็กอิน: กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงสุดโรแมนติก ที่ได้เป็นเมืองมรดกโลก อีกทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่มีอายุมากกว่าร้อยปี การันตีได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวัง

  • พิกัด: maps.app.goo.gl/iU1xBhx31GAPW1rp7
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม:    -
  • วันและเวลาที่ให้บริการ:   -
  • การเดินทาง:   -
  • Website: -

 

นี่เป็นเพียงเสน่ห์เบื้องต้นของเมืองยุโรปเท่านั้น ความงดงามและความน่าอัศจรรย์ของดินแดนแห่งนี้ ยังมีให้เพื่อน ๆ ได้ออกเดินทางไปพิสูจน์อีกมากมาย เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณทำทริปเที่ยวยุโรปในฝันได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น แล้วอย่าจดพิกัดแลนด์มาร์กที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิตลงใน Bucket list จะได้มีแรงจูงใจให้ไปถึงดินแดนแห่งความฝัน

รู้หรือไม่ว่า?...การเที่ยวยุโรปของเพื่อน ๆ สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ถ้ามีไอเทมพิเศษอย่าง PLANET SCB เป็นเพื่อนคู่ใจในการเที่ยวยุโรป เพราะไอเทมนี้จะช่วยให้ทริปของคุณสนุกแบบไร้รอยต่อ บัตรเดียวครอบคลุมทุกการเดินทาง

 

ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง