สำรวจตัวเอง เหมาะทำสตาร์ทอัพหรืองานองค์กร?

“เรียนจบแล้วจะไปทำอะไร?” คือคำถามยอดฮิตสำหรับว่าที่บัณฑิตที่ต้องเจอบ่อยจนอยากเบือนหน้าหนี แต่ตอบคำถามใคร ย่อมไม่สำคัญเท่าตอบตัวเองให้ได้ว่า หนทางการทำงานแบบไหนจะเข้ากับความเป็นตัวเองที่สุด ควรเลือกก้าวเป็น “First Jobber” ในคอร์ปอเรต ไม่ต้องเสี่ยงทายให้เสียต้นทุนเงินทองและเวลา หรือควรสลัดบทบาทพนักงานตอกบัตร ลุกขึ้นมาเป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ ดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ลองถามตัวเองด้วยตัวชี้วัดเหล่านี้ก่อนก็ได้ เพื่อความมั่นใจที่สุดในการเริ่มก้าวแรก

1. คุณกลัวความผิดพลาดและความล้มเหลวหรือไม่?

ความผิดพลาดและความล้มเหลว คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอในชีวิตของคนทำสตาร์ทอัพ สถิติหนึ่งที่กล่าวถึงกันเป็นประจำในวงการนี้ คือมีสตาร์ทอัพมากถึง 90% ที่ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างใจหวัง ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จหลายราย ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก บุคลิกสำคัญของคนทำสตาร์ทอัพแล้วรุ่งจึงคือการ “ล้มเร็ว ลุกเร็ว” ไม่กลัวความผิดพลาด ไม่กลัวความล้มเหลว ไม่จมกับความผิดหวัง หาโซลูชั่นใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ แต่หากคุณเป็นคนที่กลัวความผิดพลาด การเริ่มต้นจากคอร์ปอเรตก่อน เพื่อให้มีพี่เลี้ยง ค่อยๆ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ คอยแนะนำเวลาผิดพลาด อาจเป็นหนทางที่ดีกว่า

2. คุณชอบความมั่นคงหรือชอบความท้าทาย?

การออกมาเป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพนั้นมีความท้าทาย (จนอาจเรียกได้ว่าเป็นความเสี่ยง) รอคุณอยู่มากมาย ทั้งความท้าทายในการบริหารจัดการเวลาที่อาจต้องจมอยู่กับการคิดงานแบบไม่มีวันหยุด ความท้าทายด้านการเงินที่ไม่รู้ว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จเมื่อไร จะมีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนบ้างหรือไม่ ต่างจากงานคอร์ปอเรตที่มีเวลาเข้า-ออกงานที่แน่นอนกว่า มีรายได้ในรูปแบบของเงินเดือนอย่างชัดเจน รวมถึงอาจมีสวัสดิการที่มั่นคงกว่าในคอร์ปอเรตขนาดใหญ่อีกด้วย

3. คุณขยันเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และปรับตัวได้เร็วแค่ไหน?

ความขยันในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คือบุคลิกจำเป็นสำหรับคนทำสตาร์ทอัพแล้วรุ่ง เพื่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ และเพื่อให้พร้อมปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว หากโมเดลธุรกิจของตัวเองถูกดิสรัปต์ (Disrupt) จากธุรกิจอื่นที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน แม้คนทำงานคอร์ปอเรตในปัจจุบันก็อาจต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และมีเหตุให้ปรับตัวบ้างเช่นกันสำหรับหลายๆ สายงาน แต่ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพนั้นต้องเร็วยิ่งกว่า 5G เพราะถ้าช้าเพียงนิดเดียว อาจหมายถึงความอยู่รอดของโมเดลธุรกิจนั้น

4. คุณเป็น Introvert หรือ Extrovert?

แม้จะไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ชัดเจน ไม่ใช่บุคลิกที่จำเป็นที่สุด แต่จากการสำรวจมักพบว่า บรรดาผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพส่วนใหญ่มักเป็น Extrovert มากกว่า Introvert เนื่องจากชีวิตของผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพต้องหมั่นออกไปพูดคุย พบเจอผู้คนใหม่ๆ อยู่เสมอ ทั้งสตาร์ทอัพรายอื่น ทั้งนักลงทุน ทั้งผู้พัฒนาเทคโนโลยี ไปจนถึงผู้ที่มีแนวโน้มจะใช้สินค้าของตัวเอง ดังนั้นหากคุณเป็น Introvert ที่ไม่ได้ถวิลหาการพบเจอผู้คนใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งเป็น Extrovert ที่ไม่ต้องการวนเวียนกับการพบเจอผู้คนลักษณะนี้ ชีวิตคุณอาจแฮปปี้กับการทำงานในคอร์ปอเรตที่มีเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และลักษณะงานประจำที่ชัดเจนมากกว่า

5. คุณมีความยืดหยุ่นในการทำงานแค่ไหน?

หากเลือกทำงานในสายคอร์ปอเรต แน่นอนว่าคุณจะได้รับ Job Description ที่ชัดเจนในการทำงาน ทำให้คุณบริหารจัดการชีวิตได้อย่างชัดเจน แต่หากคุณเลือกเป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ แม้คุณอาจจะแบ่งตำแหน่งงานกับผู้ร่วมก่อตั้งอื่นเอาไว้แล้ว แต่ในทางปฏิบัติจริง คุณอาจต้องทำตัวเป็น “ผึ้งงาน” ที่พร้อมเข้าไปช่วยเสริมและเติมเต็มงานของคนอื่นในทีม (ที่อาจไม่ใช่ฝ่ายและหน้าที่โดยตรงของคุณ) เพื่อให้งานของทีมขับเคลื่อนไปได้


ทั้ง 5 ข้อถือเป็นเพียงตัวชี้วัดเบื้องต้นสำหรับประกอบการตัดสินใจ และให้เห็นภาพต่างๆ อย่างชัดเจนขึ้นเท่านั้น สุดท้ายแล้วอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่คุณต้องใช้ประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม แต่ไม่ว่าจะเลือกออกมาก่อตั้งสตาร์ทอัพหรือลุยโลดในสายคอร์ปอเรต หากคุณมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เราเชื่อว่าคุณจะประสบความสำเร็จได้ในรูปแบบที่เป็น “ตัวคุณ”