Digital Nomad & LTR Visa เราควรรู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งนี้บ้าง?

เทรนด์อาชีพฟรีแลนซ์แบบ Digital Nomad กำลังฮอตฮิตขยายความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ไม่ยึดติดกับการนั่งทำงานในประเทศของตัวเอง แถมหลายประเทศก็เริ่มเล็งเห็นโอกาส นำมาตรการมาส่งเสริมการเดินทางเข้ามาของคนกลุ่มนี้ รวมถึงไทยที่สนับสนุนการออกวีซ่าให้คนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้ามาอยู่ในประเทศเป็นกรณีพิเศษเพื่อการพำนักระยะยาว ด้วยการให้สิทธิสมัคร Long-term resident visa (LTR) 10 ปี โดยเสียค่าธรรมเนียมครั้งเดียวในอัตรา 50,000 บาท มุ่งเป้า 4 กลุ่มเป้าหมาย เริ่มตั้งแต่ กลุ่มประชากรผู้มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ และกลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย ซึ่งกลุ่มสุดท้ายนี้ หมายรวมถึงเหล่า Digital Nomad ด้วยนั่นเอง


แล้วพฤติกรรม Digital Nomad เป็นอย่างไร ทำไมถึงเติบโตแพร่หลาย ลองทำความเข้าใจกันสักนิด เผื่อตัวคุณอาจสนใจเข้าร่วมเผ่าพันธุ์นี้ หรือไม่แน่อาจเห็นช่องทางจับโอกาสธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไว้ต้อนรับพวกเขาก็ได้

2345614955

1. เร่ร่อนอย่างอิสระและมีสัมมาชีพ


Digital Nomad คือ ฟรีแลนซ์หรือพนักงานประจำที่ต้องการเร่ร่อนอย่างอิสระ ทำให้ทุกพื้นที่บนโลกนี้สามารถทำงานได้ โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่ทำให้หลายองค์กรเปลี่ยนนโยบายให้พนักงานทำงานแบบระยะไกลหรือ Remote Working ที่ตรงจริตกับงานไม่ต้องเข้าออฟฟิศบ่อย และยังเพิ่มโอกาสท่องเที่ยวด้วยทำงานไปด้วยได้


2.โอกาสท่องโลกอย่างอิสระเสรี


เพราะโลกไร้พรมแดน การทำงานก็เป็นยุคที่ไร้ข้อจำกัดกว่าเดิมมาก ขอเพียงรักษาประวัติและเก็บผลงานความสำเร็จในอดีตไว้ ถ้าเคยทำงานประจำก็ควรรักษาคอนเน็กชั่นให้ดี ก็จะเติบโตได้แม้อพยพย้ายถิ่นมาทำงานที่อื่น รวมถึงการรู้จักใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเชื่อมต่อคนที่รู้จักหรือเครือข่ายทั่วโลกให้เป็น เช่น  Upwork และ LinkedIn เป็นต้น


3. อาชีพเร่รอนแต่มีรายได้


เป็นโอกาสของอาชีพที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น บล็อกเกอร์ นักแปล นักวาดรูป นักเขียน กราฟิกดีไซเนอร์ ซอฟต์แวร์ ดีเวลลอปเปอร์ ดิจิทัลมาร์เก็ตติง ผู้ให้คำปรึกษา ธุรกิจส่วนตัว โปรแกรมเมอร์ นักพัฒนาชุมชน หรือแม้แต่การเปิดคอร์สออนไลน์ของตัวเอง ซึ่งคนที่จะได้เปรียบมากคือมีความถนัดทางภาษาเพราะสามารถรับงานได้ทั่วโลก


4. องค์กรบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น


การทำงานรูปแบบนี้แพร่ขยายได้มาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะองค์กรก็ได้อานิสงส์ไปด้วย เพราะสามารถบริหารจัดการและประหยัดต้นทุนคงที่ได้มากขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเช่าพื้นที่สำนักงานรองรับพนักงานทั้งหมด แต่ยังสามารถจ้างงานที่เหมาะสม ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครหรืออยู่ที่ไหน


5. เวลาไม่สำคัญเท่ากับบริหารจัดการเรื่องสื่อสาร


เรื่องไทม์โซนไม่ใช่ข้อจำกัดในการทำงานอีกต่อไป เพราะคนทำงานสามารถบริหารเวลาสอดคล้องกับเวลาทีมงานหรือผู้ว่าจ้างงานได้ ส่ิงจำเป็นที่คนทำงานกลุ่มนี้ต้องการอันดับแรก คือสถานที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตมีเสถียรภาพและเข้าถึงได้ง่าย

6. เลือกสถานที่ให้ความสุขมากกว่าทุกข์


วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ อะไรที่ต้องใช้สมรรถภาพร่างกาย หรือภารกิจใดเป็นความท้าทาย ก็มักจะให้ความสำคัญลงมือทำก่อน และพร้อมจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองโดยไม่ยึดติด เช่น เมื่อเกิดมลพิษ PM2.5 ในกรุงเทพหรือเชียงใหม่ คนกลุ่มนี้จะย้ายไปทำงานในโซนภูเขาหรือภาคอื่นแทน หรือเปลี่ยนไปนั่งทำงานริมทะเลเปลี่ยนบรรยากาศได้ทันที


7. Digital Nomad & LTR Visa เอื้อโอกาสให้ธุรกิจใหม่


Digital Nomad หรือ LTR Visa ยังเป็นการสร้างโอกาสให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว หรือธุรกิจใหม่ๆ ได้เกิดขึ้นมารองรับการพำนักที่ใดที่หนึ่งเป็นระยะยาว เช่น การทำโฮมสเตย์ การทำบ้านพักรายเดือน การทำ Co-working Space การประสานงานที่อำนวยความสะดวกสบายมากขึ้น สอนทำอาหารท้องถิ่น การเปิดร้านซักผ้า และอื่นๆ


เมื่อโลกเปิดกว้างให้ลองทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย อาจทำให้คนมีแต้มต่อประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น และยังทำให้เกิดการเรียนรู้และเชื่อมต่อกับสังคมแวดล้อมได้แบบลึกซึ้ง ต่างจากการท่องเที่ยวระยะสั้นทั่วไป


ที่มา
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/54429
https://missiontothemoon.co/business-digital-nomad/
https://readthecloud.co/digital-nomad-emiliya
https://onceinlife.co/workation
https://brandinside.asia/brian-chesky-on-workation-2022/
https://notebookspec.com/web/646694-dell-workation