ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
เทคนิคเลือกต้นไม้ สร้างร่มเงาให้บ้าน
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับอากาศที่นับวันจะร้อนมากขึ้น ความอบอ้าวทำให้แต่ละบ้านหันมาพึ่งพาเครื่องปรับอากาศเพื่อช่วยบรรเทาความร้อนให้กับบ้าน แต่คงจะดีกว่าถ้าเราจะทำให้บ้านร่มเย็นขึ้นด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟและพลังงานได้อีกด้วย และหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้บ้านร่มรื่นร่มเย็นได้โดยธรรมชาติ หลายคนอาจกำลังนึกถึงร่มเงาต้นไม้ใหญ่ในรั้วบ้านตัวเอง แต่หากไม่รู้จะเลือกปลูกต้นไม้อะไร ลองอ่านเทคนิคการเลือกต้นไม้ที่จะสร้างร่มเงาให้บ้านกันได้เลย
ทิศใต้
ทิศใต้เป็นทิศที่แดดเข้าตลอดวัน และเกือบจะทั้งปี เนื่องจากตำแหน่งของดวงอาทิตย์จะโคจรอ้อมทิศใต้ปีละ 8 เดือน ที่เหลืออีก 4 เดือน ดวงอาทิตย์ถึงจะโคจรอ้อมไปทางทิศเหนือ ดังนั้นบ้านที่หันไปทางทิศใต้ก็จะร้อนสุด จำเป็นที่จะต้องมีต้นไม้ใหญ่มาบังหรือให้ร่มเงาเพื่อลดความร้อนที่เข้ามา
ต้นไม้ที่คู่ควรกับทิศใต้ก็จะต้องเป็นต้นไม้ที่ทนแดด ใบหนา พุ่มทึบ แผ่แน่นที่ปลายยอด แต่โคนต้นโปร่ง เพื่อให้ลมสามารถพัดผ่านต้นไม้เข้าสู่ตัวบ้านได้ เพราะว่าทิศใต้ไม่ได้มีแต่แสงแดดที่เข้ามาเท่านั้น แต่ยังพัดพาเอาลมเข้ามาด้วย อาจเลือกเป็นไม้ยืนต้นที่ให้ดอกหอม อย่างเช่น จำปี จำปา ประยงค์ แก้ว กันเกรา ตีนเป็ดน้ำ ลำดวน บุหงาส่าหรี โมก จันทน์ผา หมากเหลือง เข็มสามสี ที่สำคัญอย่าปลูกชิดตัวบ้านเกินไป เพื่อป้องกันรากไม้ชอนไชจนอาจทำให้ตัวบ้านเสียหายได้
ทิศเหนือ
ทิศเหนือเป็นทิศที่โดนแดดน้อยที่สุด แดดที่เข้ามาทางทิศเหนือจะเป็นแดดเช้า ไม่เกิน 11โมงแดดก็มาไม่ถึงแล้ว ยิ่งถ้าทิศเหนือของบ้านเรามีตึกสูงตั้งแต่ 6 เมตรขึ้นไปตั้งอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ เงาจากตึกก็จะมาบังแดดไม่ให้ส่องลงมาถึงบ้านเราเร็วขึ้นอีก ต้นไม้ที่ปลูกทางทิศเหนือจึงมักจะอาภัพไม่ได้ค่อยรับแดดเหมือนทิศอื่นๆ
ดังนั้นควรเลือกปลูกต้นไม้ที่ไม่ต้องการแดดมากนัก ทรงพุ่มโปร่ง จำพวกไม้ใบหรือต้นไม้ที่ชอบแดดรำไรจนถึงไม้ในร่ม ไม้พุ่ม เช่น สาวน้อยประแป้ง, เขียวหมื่นปี, เฟิร์นสายพันธุ์ต่างๆ, เดหลี, ฟิลโล, สับปะรดสี, เศรษฐีขอดทรัพย์, คล้า, กล็อกซิเนีย, หน้าวัว กลุ่มไม้พุ่มเตี้ย เช่น รักเร่, โมกพวง, พุดสามสี หรือถ้าเป็นไม้คลุมดินก็จะเป็นกลุ่มที่ใช้แสงสังเคราะห์อาหารน้อย เช่น หนวดปลาดุกแคระ, เปปเปอร์, บีโกเนีย, ลิ้นมังกร, เศรษฐีเรือนนอก, เศรษฐีเรือนใน ถ้าเป็นกลุ่มไม้เลื้อย เช่น พลูชนิดต่างๆ, แพรเซี่ยงไฮ้, เงินไหลมา, ทองไหลมา
ทิศตะวันออก
เป็นทิศที่รับแดดเฉพาะช่วงเช้าจนถึงเที่ยง พอหลังเที่ยงไปแดดก็จะหมดเหมือนทิศเหนือ ต้นไม้ที่เหมาะกับทิศที่แดดหมดตั้งแต่เที่ยงก็ควรเป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องการแดดจัดเต็มวัน หรือไม้ยืนต้นที่ทรงพุ่มไม่แน่น ไม่ทึบ ใบไม่หนามาก เช่น ปีป, เลี่ยน หลิว หรือถ้าเป็นพวกไม้พุ่มขนาดเล็กก็เช่น บีโกเนีย, พรมญี่ปุ่น, เฟิน, ใบเงิน, ใบทอง เป็นต้น
ทิศตะวันตก
ทิศนี้ก็แดดแรงน้องๆ ทิศใต้ โดยมากจะเป็นแดดบ่ายเท่านั้น ต้นไม้ที่เหมาะกับทิศนี้ควรเป็นไม้ยืนต้น อาศัยทรงพุ่ม พุ่มแผ่ ใบหนา แน่น ทึบ ให้ร่มเงาบังตัวบ้าน เช่น อโศกอินเดีย, กัลปพฤกษ์, ประดู่แดง, หมากเขียว, หมากแดง, กล้วยพัด หรือกลุ่มไม้เลื้อยที่ใบดกแน่น เช่น ไม้เลื้อยตระกูลพลูทั้งหลาย พลูเขียว, พลูด่าง, พลูทอง, ดาดตะกั่ว, เคราฤษี, เหลืองชัชวาลย์ พวงแก้วมณี เป็นต้น
เมื่อทราบเทคนิคการเลือกต้นไม้ที่ไว้ให้ร่มเงาแก่บ้าน รวมถึงทราบลักษณะต้นไม้ที่เหมาะกับทิศต่างๆ กันไปแล้ว ก็ลองเอาไปใช้เป็นช้อมูลในการเลือกต้นไม้มาสร้างร่มเงา สีสัน หรือให้กลิ่นหอมๆ สร้างบรรยกาศบ้านให้น่าอยู่ เย็นสบายกันได้เลย