ขายในประเทศคงไม่พอ อยาก Go Inter

“หาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ได้ผลดีและเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดมีทางไหนบ้าง"


“ใครมีช่องทางดีๆ รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะครับ”

  “ควรจะเริ่มขายจากช่องทางไหนดีคะ เวป Taobao หรือ Aliexpress เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับรายเล็กๆอย่างเราไหมคะ”

 

คำถามคาใจสำหรับผู้ที่คิดจะเริ่มต้นส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ หากสามารถขยายตลาดไปต่างประเทศได้ก็หมายถึงโอกาสอันมหาศาลก็รออยู่ตรงหน้านั่นเอง ปัญหาในการหาตลาดที่ผู้ส่งออกมักต้องกุมขมับอยู่เสมอก็คือ เรื่องของข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่อย่างกระจัดกระจาย และจากหลายแหล่ง ซึ่งต้องใช้เวลามากในการค้นหาและรวบรวมให้เป็นหมวดหมู่ ไหนยังต้องตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้องหรือไม่ หรือทันสมัยแค่ไหน
 

นอกจากนั้นในเรื่องของการหาคู่ค้าในการทำธุรกิจร่วมกันก็เป็นปัญหาไม่น้อย ทั้งเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปงานแฟร์ต่าง ๆ เพื่อพบคู่ค้าใหม่ ๆ ที่ค่อนข้างสูง รวมถึงความน่าเชื่อถือที่ต้องตรวจสอบซึ่งต้องใช้เวลาเช่นกัน ดังนั้น ลองมาดูขั้นตอนคร่าว ๆ สำหรับผู้ที่สนใจอยากส่งออกสินค้าไปต่างประเทศกันดีกว่า

ขั้นตอนที่จะโกอินเตอร์ ต้องทำอย่างไร

หาตลาดให้เจอ  

เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมาก เพราะหากยังหาตลาดสินค้าของเราไม่ได้ตั้งแต่เริ่มต้น อาจต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ การหาช่องทางตลาดต่างประเทศมักใช้วิธีการหาตลาดผ่านคนรู้จัก ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผ่านตัวแทนหรือนายหน้า และผ่านงานแสดงสินค้า ซึ่งวิธีการหาตลาดนั้นอาจเริ่มจาก
 

●      ค้นหาเทรนด์การซื้อขายจากเว็บไซต์ต่าง ๆ
 

●      ตรวจสอบความทันสมัยของข้อมูล
 

●      หาข้อมูลเอกสารประกอบภาษีที่เกี่ยวข้องทั้งไทยและต่างประเทศจากหน่วยงานภาครัฐหรือสมาคมต่าง ๆ
 

●      หาข้อมูลการขนส่งเพื่อประมาณการต้นทุน และเทอมการค้า
 

●      หรืออาจเลือกซื้อข้อมูลจากบริษัทที่เชี่ยวชาญ
 

นอกจากการจะหาตลาดให้เจอแล้ว เรื่องของ “คู่ค้า” ที่เราจะทำธุรกิจด้วยก็สำคัญไม่น้อย วิธีการที่จะหาคู่ค้าให้เจอหาได้จาก
 

●      ค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ สมาคมต่าง ๆ
 

●      เข้าร่วมงาน Trade Fair ในต่างประเทศ
 

●      ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคู่ค้า
 

(ขณะนี้ SCB มีบริการใหม่เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกในการหาตลาดและหาคู่ค้าด้วยบริการ SCB Trade Club เป็นบริการออนไลน์คลิก -SCB Trade Club-)

โปรโมทสินค้า
 

เมื่อหาตลาดได้แล้วก็เริ่มวางแผนโปรโมทสินค้าเพื่อให้ได้ “คำสั่งซื้อ” จากลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสที่ขายส่งสินค้าระดับโลก หรือการไปออกงานแฟร์ต่าง ๆ ที่ต่างประเทศ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าช่องทางออนไลน์ การเลือกช่องการโปรโมทแบบใดต้องดูที่ความเหมาะสมกับที่สินค้าเป็นอันดับแรก
 

วางแผนผลิตและการจัดส่ง
 

เมื่อได้รับคำสั่งซื้อแล้ว จึงเริ่มวางแผนการผลิตสินค้าและตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าจริง ๆ หากเกิดความผิดพลาดและถูกตีกลับ ค่าใช้จ่ายในการขนส่งกลับนั้นจะแพงกว่าราคาสินค้ามาก
 

จัดการเอกสารการส่งออก

เอกสารการส่งออกถือเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องและครบถ้วนตามกฎระเบียบที่กรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ ควรศึกษาให้เข้าใจเพื่อดำเนินการอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะสินค้าที่มีโอกาสเน่าเสียง่ายยิ่งต้องเพิ่มความรอบคอบในเรื่องเอกสารมากขึ้น