How to ใช้แก่นความเรียบง่าย เจาะการท่องเที่ยวตลาด Luxury

ในช่วงเวลาที่ธุรกิจท่องเที่ยวกำลังมองหาตลาดที่มีศักยภาพ กลุ่มที่พร้อมจับจ่ายโดยไม่ต้องพะวงกับมูลค่า ขอเพียงให้ได้มาซึ่งประสบการณ์ที่ตรงใจ แน่นอนว่าตลาด “ลักชัวรี” (Luxury) ถือเป็นตลาดเหนือระดับที่มาพร้อมกำลังซื้อวิบวับแวววาว โดยเฉพาะกลุ่ม High Net Worth (ผู้ที่มีทรัพย์สินเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป) ในพื้นที่ใกล้ตัวอย่างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่จะเพิ่มเป็น 8 ล้านคนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า


แต่เชื่อหรือไม่ว่า กลุ่มลักชัวรีตัวจริงนั้น ไม่ได้เฟ้นหาแค่ความหรูหราระดับ Hi-End เสมอไป แต่ให้ความสำคัญกับความ “แท้จริง” ที่มีองค์ประกอบเรื่องการใส่ใจ “สิ่งแวดล้อม” เป็นหลัก ดังนั้น อย่าเพิ่งคิดว่าตลาดหรูจะเป็นเรื่องเกินเอื้อม หากเข้าใจความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของคนกลุ่มนี้ เราก็สามารถบรรจงปั้นสินค้าให้ดึงดูดตลาดนี้ได้ดีไม่แพ้ใคร


1.
มอบประสบการณ์ส่วนตัวใกล้ชิดธรรมชาติ


สถานที่พักแรมที่ดึงดูดตลาดหรูในช่วงปีที่ผ่านมาได้ดีที่สุด คือ วิลล่าส่วนตัวที่ใกล้ชิดธรรมชาติ หรืออยู่ใกล้ชิดชุมชน หลีกหนีความพลุกพล่านจากนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงที่มีวิกฤตโรคระบาด นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อ จะไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์โรงแรมระดับ 5 ดาวเสมอไป แต่วิลล่าส่วนตัวที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบสำหรับครอบครัว และมีเอกลักษณ์เฉพาะ เช่น วิวอ่าวที่สงบเงียบ ชายหาดส่วนตัว แต่ไม่ขาดไร้บริการอาหารชั้นเลิศ กลับกลายเป็นสวรรค์แห่งใหม่ของพวกเขาได้เช่นกัน


2.
คลุกวงในกิจกรรมท้องถิ่น


แม้ว่ากลุ่มลักชัวรีจะเน้นกินดีอยู่ดีมีคุณภาพ แต่พอเป็นเรื่องของกิจกรรมแล้ว พวกเขาก็พร้อมคลุกฝุ่นลุยโคลนได้เหมือนกัน และพร้อมจะนั่งคุยกับชาวบ้านธรรมดา หากพบว่าภูมิปัญญาหรือศิลปะท้องถิ่นเหล่านั้นน่าสนใจ จากการวิจัยของ ILTM มีผลระบุชัดว่า พวกเขาหลงใหลในศิลปะท้องถิ่นเป็นพิเศษเมื่อเดินทางไปต่างถิ่น และไม่เกี่ยงที่จะเดินลัดเลาะชมวัดหรือโบสถ์ นั่งดูการแสดงประเพณีต่างๆ และแม้ว่าคนกลุ่มนี้จะชื่นชอบร้านอาหารติดดาวมิชลินเป็นหลัก แต่หากในชุมชนนั้นมีสตรีทฟู้ดชื่อดังที่นำเสนอเสน่ห์อาหารการกินแบบพื้นเมืองได้ พวกเขาก็พร้อมเป็นลูกค้าเช่นกัน

less-is-more-for-luxuary-travel-market-01

3. ร่วมเวิร์คช้อปลงมือทำจริง


กระแสการเรียนแบบ Home School หรือให้เด็กๆ เรียนรู้อยู่ที่บ้านแทนการเข้าระบบการศึกษา เป็นเทรนด์ที่มาแรงในกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงมาสักพักแล้ว แต่การมาเยือนของโควิด-19 เป็นอัตราเร่งให้ครอบครัวต้องรับบทครูจำเป็นให้ลูกหลานมากขึ้น กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ จึงถือโอกาสนี้ในการหอบหิ้วครอบครัวไปพักผ่อนนอกสถานที่ และมองหากิจกรรมนอกห้องเรียน ที่มีผู้เชี่ยวชาญมาฝึกสอนเด็กๆ จะให้ดีคือพ่อแม่เองก็ได้สนุกกับการเข้าร่วมไปด้วย เช่น เวิร์คช้อปหัตถศิลป์ท้องถิ่น การทำอาหารพื้นเมือง การเรียนรู้การปลูกไร่องุ่น และตบท้ายด้วยดินเนอร์จิบไวน์กลางบรรยากาศไร่องุ่น ไม่ต้องพึ่งห้องอาหารหรูหราบนอาคารสูงเสียดฟ้า ก็สามารถเอาใจตลาดนี้ได้


4.
ตอบโจทย์รักสุขภาพ สร้างชีวิตที่ยืนยาว


ระหว่างการเดินทาง องค์ประกอบเรื่องสุขภาพ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนกลุ่มนี้ โดยมีกิจกรรมง่ายๆ อย่างฟิตเนสหรือโยคะที่กลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว แต่การจะให้บริการเหล่านี้กับพวกเขา ต้องเน้นความเป็นส่วนตัว และสร้างบรรยากาศที่พิเศษ เช่น จัดคลาสสอนโยคะบนชายหาด หรือระเบียงบนวิลล่าส่วนตัว แบบที่ไม่มีคนนอกมารบกวน หรือจัดคอร์สอาหารพิเศษที่คัดสรรเมนูสุขภาพ บ่งบอกที่มาของวัตถุดิบได้ทุกอย่างว่ามาจากธรรมชาติแหล่งใด ไร้สารปรุงแต่งอย่างไร และจะให้ดี สามารถถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ของเกษตรกรผู้เป็นต้นทางของวัตถุดิบออร์แกนิคเหล่านั้น จะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อิ่มเอมและพอใจกับมูลค่าที่จ่ายไปอย่างแน่นอน


การสร้างความประทับใจให้ลูกค้ากลุ่มนี้ อย่าลืมว่าทุกองค์ประกอบนั้นต้องเน้น การออกแบบเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ (Customization) โดยรับฟังความต้องการเป็นหลัก ไม่ใช่โปรแกรมสำเร็จรูปที่หาได้ทั่วไป

ไม่ว่าจะคุณจะแต่งตัวเตรียมรับนักท่องเที่ยวตลาดไหน ความจริงใจส่งมอบบริการที่ดีและมีคุณภาพที่สุด เป็นพื้นฐานที่จะทำให้ลูกค้าหมุนเวียนมาใช้บริการซ้ำ และยังช่วยบอกปากต่อปาก ให้บริการที่ดีพูดแทนคุณ ซึ่งเป็นการทำการตลาดที่ได้ผลที่สุด สนใจสินเชื่อหมุนเวียนสำหรับธุรกิจ คลิกดูรายละเอียดที่นี่


ที่มา
https://view.iltm.com/wp-content/uploads/2021/03/ILTM_WP_APAC_2021_V3-Winston-170321.pdf
https://hospitalityinsights.ehl.edu/new-definition-luxury-travel
https://www.theluxurysignature.com/2020/02/10/top-luxury-travel-trends-of-2020/