การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
พลาดท่าเสียเงินให้มิจฉาชีพไปแล้ว ต้องทำอย่างไร?
เมื่อเราได้ให้ข้อมูลกับมิจฉาชีพไป ไม่ว่าจะเกิดจากความเผอเรอ หรือความเข้าใจผิด ข้อมูลนั้นก็อาจถูกนำไปใช้สร้างความเสียหายในรูปแบบอื่น ๆ ตามมาได้ และหากพลาดพลั้งทำธุรกรรมบางอย่างตามกลลวงของผู้ไม่ประสงค์ดี เราอาจสูญเงินในบัญชีไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น สิ่งที่ควรทำอย่างเร่งด่วนคือ หยุดความเสียหายให้เร็วที่สุด โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนแจ้งความดำเนินคดี ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน อีเมลสำหรับยืนยันตัวตนและรับ OTP นอกจากนี้จะต้องเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวกับการถูกมิจฉาชีพหลอกลวง เพื่อเป็นหลักฐานไว้ด้วย เช่น ชื่อลิงก์ ข้อความที่นำมาหลอกลวง ช่องทางที่มิจฉาชีพใช้ ข้อความที่ผู้เสียหายพูดคุยกับคนร้าย สลิปการโอนเงิน เป็นต้น และถ้ารู้ว่าเงินได้ถูกโอนไปที่ธนาคารใด จะยิ่งทำให้ติดตามได้เร็วขึ้น เพราะหากคนร้ายให้โอนเงินผ่านเบอร์พร้อมเพย์ ในสลิปการโอนอาจจะไม่ได้ระบุธนาคารปลายทางไว้ ก็จะทำให้เสียเวลาในการตรวจสอบว่าเป็นบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับธนาคารใด
ขั้นตอนการแจ้งความออนไลน์สำหรับคดีอาชญกรรมทางเทคโนโลยี
เมื่อกรอกข้อมูลผู้เสียหาย ข้อมูลมิจฉาชีพ และแนบไฟล์เอกสารต่างๆ ที่มีแล้ว จะได้เลขรับแจ้งความออนไลน์ หรือ Case ID จากระบบเพื่อใช้ติดตามความคืบหน้า โดยหลังจากที่ทางตำรวจได้รับข้อมูลแล้ว จะส่งเรื่องต่อไปยังสถานีตำรวจที่ผู้เสียหายสะดวกเพื่อเริ่มกระบวนการสืบสวนในทันที พนักงานสอบสวนจะโทรนัดหมายผู้เสียหายเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทางคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป และรายงานความคืบหน้าคดีในระบบออนไลน์ ซึ่งผู้เสียหายสามารถติดตามความคืบหน้า ส่งข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามปัญหาผ่านระบบได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับประชาชนทั่วไป สามารถปรึกษาขอคำแนะนำได้ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หมายเลข 1441 หรือ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร) โทร. 08-1866-3000 ตลอด 24 ชั่วโมง