โชคดีในโชคร้าย กระเป๋าเกือบหาย แต่เหมือนได้เที่ยวฟรี!

เวลาไปเที่ยว ไม่มีใครอยากถูกเท ไม่อยากไฟล์ทดีเลย์ หรือเจออะไรที่มันไม่ดีหรอกจริงมั้ยล่ะ วันนี้ขอเอาประสบการณ์สดๆ ร้อนๆ มาแชร์ให้เป็นอุทาหรณ์กันสักหน่อย เรื่องมีอยู่ว่า เดอะแก๊งมีกัน 4 คน วางแผนไปเที่ยวไต้หวันช่วงฤดูร้อนนี้ ทุกอย่างมันราบรื่นมาก เพราะมีขาประจำที่ไปเที่ยวประเทศนี้บ่อยมาเป็นหัวหน้าทัวร์ เขาจัดการให้ทุกอย่างทั้งจองตั๋วเครื่องบิน หาโรงแรม วางแผนเที่ยว อยากไปไหน แค่บอกมา เขาจัดให้หมดเลย ดีงามขนาดนี้ ทริปในฝันชัดๆ

เมื่อถึงวันเดินทาง ความโก๊ะกังมักชอบทำให้ลืมโน่นลืมนี่ ปกติก็ชอบสะดุดล้มบ่อยๆ หากไปเกิดอุบัติเหตุตอนเที่ยวอยู่คงจะหมดสนุกแน่ ด้วยความรอบคอบของหัวหน้าทัวร์ เขาเคยเตือนทุกคนให้ทำประกันการเดินทางไว้ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ เราไม่ควรประมาท แต่นี่มันกำลังจะได้เวลาบินแล้ว จะไปหาซื้อที่ไหนทัน โชคดีที่ทางออกอยู่ในมือถือเราเอง หัวหน้าทัวร์บอกให้เราเปิดแอป SCB EASY แล้วซื้อประกันการเดินทางจากในนั้น เพิ่มเงินเล็กน้อยได้ความคุ้มครองครบ ค่าเบี้ยก็ไม่แพง แถมสะดวกมากๆ ไม่ถึง 3 นาทีก็เรียบร้อย มันช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวตาดำๆ ก่อนออกผจญภัยไปยังเกาะมันเทศได้ทันเวลาพอดี

ตลอดทั้งทริปทุกอย่างเป็นไปตามแผน ราบรื่นมาก อยากกินอะไรก็ได้กิน อยากไปเที่ยวไหนก็ได้ไป เก็บจุดต้องห้ามพลาดได้ทุกที่ครบถ้วน ทั้งชมวิวที่ตึกไทเป 101 ดูทหารเปลี่ยนเวรที่อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก ไหว้พระขอคู่ที่วัดหลงซาน จัดเต็มกับบุฟเฟต์หมาล่าชาบู ช้อปปิ้งที่ซีเหมิน เดินตลาดกลางคืนซื่อหลิน ฯลฯ อะไรมันจะเพอร์เฟคขนาดนี้ เที่ยวกันจนลืมเวลา ไม่ทันไรก็ต้องเก็บกระเป๋ากลับเมืองไทยซะแล้ว การเลือกสายการบินมาเที่ยวไต้หวันก็มีผลกับความสะดวกสบายเหมือนกัน เพราะมีแค่ไม่กี่สายการบินที่สามารถทำการเช็คอินในเมืองได้ (In-Town Check-in) ส่งกระเป๋าไปสนามบินแล้ว ก็ออกไปเดินเที่ยวเล่นต่อ ใกล้เวลาค่อยนั่งรถไฟฟ้าไปสนามบิน ชิลมากๆ

นั่งเครื่องบินกลับเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ ลงจอดนุ่มไร้ที่ติ หลังผ่านด่านต่างๆ ในสนามบิน ก็มาที่สายพานเพื่อรับกระเป๋าแบบสวยๆ กระเป๋าใบแรกออกมาแล้ว เดอะแก๊งคนอื่นๆ ก็ทยอยได้รับกระเป๋าทีละคน แต่ทำไมกระเป๋าฉันยังไม่มา จนป้ายมันขึ้นว่า กระเป๋าใบสุดท้าย อ้าว... หมดแล้วหรอ กระเป๋าฉันอยู่ไหน ฮือๆ กระเป๋าหายหรอ ของฝากเพื่อนๆ ของที่ระลึกจากการเที่ยวครั้งนี้ รวมถึงของสะสมชิ้นหายาก ที่อุตส่าห์ดั้นด้นไปหามาจนเจอ มันอยู่ในกระเป๋าหมดเลย ทำไมถึงโชคร้ายแบบนี้ เอาใหม่ตั้งสติแล้วเดินไปหาเจ้าหน้าที่ของสายการบินเพื่อแจ้งเรื่องกระเป๋าหาย เขาก็รีบติดต่อกลับไปยังประเทศต้นทางให้ โดยให้เราส่งคำร้องไว้เป็นหลักฐาน โอ๊ย! เพลียก็เพลีย แต่ใครจะไปหลับตาลงได้

หลังจากงอแง พร่ำเพ้อถึงกระเป๋าและข้าวของในนั้น คุณเพื่อนก็พูดเรื่องประกันขึ้นมา ใช่ ฉันทำประกันไว้นี่นา โทรเลยสิรออะไร เจ้าหน้าที่ก็ช่วยเหลือเต็มที่ และแนะนำการส่งเคลม ไม่นานก็เริ่มได้ยินข่าวดี เจ้าหน้าที่สายการบินไลน์มาแจ้งว่า พบกระเป๋าเดินทางที่ไต้หวันตกค้างอยู่ พร้อมกับส่งภาพกระเป๋ามาให้ดู ใช่เลย กระเป๋าของเราเอง ป้ายระบุปลายทางมันหลุดไป เค้าเลยไม่รู้ว่าต้องส่งกระเป๋าใบนี้ไปที่ไหน ซึ่งตอนนี้รู้แล้ว และจะรีบนำส่งให้โดยเร็ว ขอบอกเลยว่าดีใจมาก ในที่สุดก็จะได้กระเป๋าคืนแล้ว จึงโทรกลับไปที่ประกันเพื่อแจ้งเคลมกระเป๋าเดินทางล่าช้าแทน ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ก็มี สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง บอร์ดดิ้งพาส เอกสารรับแจ้งจากสายการบินว่าได้รับกระเป๋าเมื่อไหร่ เพื่อคำนวณเวลาในการชดเชย และที่ขาดไม่ได้ก็คือ กรมธรรม์ที่ทำไว้

เมื่อรวบรวมเอกสารครบถ้วนก็ส่งอีเมลไปให้ทางฝ่ายประกัน ซึ่งใช้เวลาทำเรื่อง ตรวจสอบความถูกต้องไม่นานก็ได้รับอีเมลตอบกลับว่าจะโอนเงินชดเชยเข้าบัญชีให้ภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์ เป็นมูลค่า 12,000 บาท (ไปดูในแอป SCB EASY เจอว่า ถ้ากระเป๋าล่าช้าทุกๆ 6 ชั่วโมง จะได้รับชดเชย 3,000 บาท และรวมสูงสุดไม่เกิน 12,000 บาท) รู้สึกว่าการเสียเงินแค่หลักร้อยซื้อประกันไว้มันคุ้มค่ามากจริงๆ เงินชดเชยที่ได้มาครอบคลุมทั้งตั๋วเครื่องบินและค่าโรงแรมของทริปนี้เลย มาคิดๆ ดู เราอาจไม่โชคดีทุกครั้งไป พอทำประกันการเดินทางต่างประเทศไว้มันก็อุ่นใจได้อยู่นะ เพราะไปเที่ยวทั้งทีจะต้องสนุก จะมานั่งกังวล อมทุกข์ทำไม


ทริปต่อไป ยังไงก็ต้องทำประกันการเดินทางไว้อีกแน่นอน...