เมื่อต้องช้อปออนไลน์ ทำอย่างไรให้ปลอดภัย ใช่เลย!

เมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราไม่อยากออกนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรคระบาด หรืออากาศที่ร้อนอบอ้าว รวมถึงฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่ยังไม่จางหายไปเสียที ทำให้คนหันมาช้อปออนไลน์มากขึ้นและบ่อยขึ้น ซึ่งการชำระเงินเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์นั้นก็มีหลากหลาย ทั้งเก็บเงินปลายทาง ตัดจากบัญชีธนาคาร หรือบัญชีวอลเล็ทต่างๆ โดยช่องทางที่ผู้ซื้อสะดวกใจที่สุดก็คือการเก็บเงินปลายทาง แต่ในมุมของร้านค้าออนไลน์นั้น การเก็บเงินปลายทางมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเงินจากผู้ซื้อเช่นกัน แม้ปัจจุบันจะมีตัวกลางในการรับเก็บเงินปลายทาง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดและความไม่สะดวกหลายอย่าง เช่นพนักงานส่งสินค้าไม่มีเงินทอน, ทอนเงินไม่ครบ ตลอดจนทอนเงินด้วยธนบัตรเก่าหรือชำรุด จนทำให้ผู้ซื้อบางรายไม่พอใจ ยกเลิกการซื้อสินค้า ทำให้ผู้ขายต้องเสียค่าจัดส่ง และค่าธรรมเนียมต่างๆ ไปฟรีๆ กลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

payment-detail-635097344

ปัจจุบันร้านค้าออนไลน์หลายแห่งไม่รับช่องทางการเก็บเงินปลาย ทำให้บัตรเครดิตกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะจัดว่าค่อนข้างจะปลอดภัยกับทั้งสองฝ่าย สามารถใช้ช้อปออนไลน์ได้ทั่วโลก และมักจะมีโปรโมชันดีๆ จากการจับจ่ายใช้สอยให้ผู้ถือบัตรอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด การสะสมแต้มแลกสิทธิพิเศษ หรือแลกรับเงินคืน ที่สำคัญหากพบว่าสินค้าหรือบริการที่เราสั่งซื้อไปมีปัญหา หรือไม่ตรงตามความต้องการ เราสามารถยกเลิกการจ่ายเงินได้ง่ายกว่าการตัดเงินจากบัญชีอีกด้วย


สำหรับการช้อปออนไลน์นั้น เพื่อให้ได้ของที่มีคุณภาพ ตรงตามที่สั่งซื้อไป ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนทั้งในขั้นตอนการเลือกซื้อ การสั่งซื้อ และการตรวจรับสินค้า โดยมีสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ดังนี้
 

การช้อปสินค้าออนไลน์

  • อย่าใช้ฟรี WI-FI สาธารณะที่ไม่รู้ที่มาที่ไปในขณะช้อปออนไลน์ และช้อปผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวเท่านั้น เพื่อป้องกันการดักขโมยข้อมูลจากมิจฉาชีพ
  • ช้อปผ่านแอปพลิเคชัน หรือผู้ขายที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
  • อ่านเงื่อนไขในการช้อปออนไลน์ก่อนใช้งาน เพื่อจะได้รู้ขั้นตอนการสั่งซื้อ วิธีการจ่ายเงิน การแจ้งข้อผิดพลาดระหว่างการใช้งาน การตรวจรับสินค้า นโยบายการขอคืนเงินหรือสินค้า เมื่อไม่ได้รับสินค้า หรือสินค้ามีปัญหา
  • ค่อยๆ เลือกสินค้า และเปรียบเทียบกับร้านออนไลน์อื่นๆ ที่ขายสินค้าแบบเดียวกัน ทั้งในแง่ความน่าเชื่อถือของร้านค้า ราคา คุณภาพ การจัดส่ง รวมถึงรีวิวจากผู้ซื้อจริงประกอบการตัดสินใจ
  • สินค้าบางอย่างที่จำเป็นต้องรู้ขนาด สี/ลวดลาย หรือจำนวนชิ้นในบรรจุภัณฑ์ หากร้านค้าออนไลน์ให้ข้อมูลไม่ละเอียดพอต่อการตัดสินใจ ก็ไม่ควรสั่งซื้อ เพราะอาจได้สินค้าไม่ตรงตามความต้องการ

การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์

  • ตรวจสอบชื่อ-สกุล ที่อยู่ในการจัดส่ง และเบอร์ติดต่อของเราให้ถูกต้อง
  • ดูระยะเวลาในการจัดส่งทุกครั้งว่าใช้เวลาประมาณกี่วัน เป็นช่วงที่เราสะดวกรับสินค้าหรือไม่ ทันต่อการนำไปใช้หรือไม่
  • อย่าสั่งซื้อสินค้าในช่วงที่อินเทอร์เน็ตหรืออุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่มีปัญหา เช่นเครื่องทำงานช้า สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยดี เพราะอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นระหว่างการสั่งซื้อและจ่ายเงินได้
  • เก็บหลักฐานการสั่งซื้อไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง หากไม่แน่ใจว่าใบคำสั่งซื้อจะมีข้อมูลสินค้าและรายละเอียดการจ่ายเงินของเราครบถ้วนหรือไม่ ให้ถ่ายรูปหน้าจอที่เห็นรายละเอียดสินค้าและยอดเงินที่เราจ่ายเก็บไว้ก่อน
  • ใครที่เป็นมือใหม่ในการช้อปออนไลน์ อาจเริ่มจากการสั่งซื้อน้อยๆ หรือมองหาร้านค้าที่มีตัวเลือกเก็บเงินปลายทางดูก่อน เพื่อความสบายใจ

 

การตรวจรับสินค้า

  • กรณีร้านค้ามาส่งสินค้าเอง ให้เช็กสินค้าต่อหน้าพนักงานจัดส่ง ของที่ส่งต้องตรงกับใบเสร็จ พร้อมดูวันหมดอายุสำหรับสินค้าที่มีระยะเวลาใช้งาน หากพบรายการที่ผิดพลาดให้แจ้งพนักงานจัดส่งของร้าน และขอรายละเอียดในการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า พร้อมถ่ายรูปเป็นหลักฐานเก็บไว้ด้วย
  • กรณีร้านค้าใช้บริการจัดส่ง ควรถ่ายภาพสินค้าที่ได้รับเก็บไว้ ส่วนสินค้าที่อยู่ในพัสดุ ควรถ่ายวิดีโอขณะแกะหีบห่อไว้ด้วย หากสินค้าไม่ครบถ้วน ชำรุด เสียหาย หรือไม่ได้มาตรฐาน จะได้มีหลักฐานประกอบการขอคืนเงิน การเปลี่ยนสินค้า หรือระงับการชำระเงิน
  • หลังจากได้รับสินค้าแล้ว ควรทำความสะอาดหีบห่อ และบรรจุภัณฑ์ก่อนนำมาเก็บหรือใช้งาน
  • กรณีจ่ายด้วยบัตรเครดิต เมื่อได้รับใบแจ้งยอดบัตรเครดิตมา รีบตรวจสอบว่าตรงกับยอดที่เราใช้จ่ายไปหรือไม่ หากไม่ตรง ยิ่งรู้เร็ว จะสามารถแก้ปัญหาได้ไว โดยติดต่อผ่านคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารผู้ออกบัตรได้ตลอด 24 ชั่วโมง

การช้อปออนไลน์นอกจากได้ความสะดวกแล้ว ยังมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ยิ่งในภาวะที่ไม่ปกติอย่างเหตุการณ์ระบาดของไวรัส COVID-19 ด้วยแล้ว ทำให้ถนนทุกสายมุ่งสู่ออนไลน์มากขึ้น ไม่เฉพาะผู้บริโภค แต่รวมถึงกลุ่มผู้ขายหน้าใหม่ก็มีมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคา คุณภาพสินค้า และบริการที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็อย่าละเลยความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะไม่ว่าจะช่องทางไหน ก็ล้วนมีทั้งข้อดี และข้อเสียอยู่ในตัว ดังนั้นขอให้ช้อปอย่างมีสติ รู้จักประมาณตนเอง มีวินัยในการใช้จ่าย และรู้จักใช้เทคโนโลยีต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง