เช็กลิสต์สิ่งที่ต้องทำ เมื่อตรวจรับโอนคอนโดฯ

เรื่องที่ยากที่สุดสำหรับหลายๆ คนในการซื้อคอนโดมิเนียมสักห้อง อาจไม่ใช่ตอนยื่นกู้ธนาคาร แต่เป็นตอนตรวจรับโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯจากของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาเป็นของตัวเอง เพราะถ้าตรวจไม่ดี แล้วรับโอนมา ตอนทำเรื่องขอแก้ไขอะไรจะยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ วันนี้จึงมีเช็กลิสต์ สิ่งที่ต้องทำเมื่อตรวจรับโอนคอนโดฯ มาแบ่งปันกันค่ะ


1.เตรียมอุปกรณ์


เนื่องจากในการตรวจรับโอนคอนโดฯเราต้องเช็กหลายส่วนงานมาก การเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับตรวจทุกส่วนงานจึงถือเป็นเรื่องสำคัญมาก มีอุปกรณ์หลักๆ ที่ต้องเตรียม ดังนี้


- กล้องถ่ายรูป/กล้องมือถือ :  ใช้ถ่ายรูปทุกอย่างเป็นหลักฐานอย่างละเอียด

- โพสต์-อิท/กระดาษจด :  ใช้สำหรับจดรายละเอียดและแปะจุดที่ต้องการให้ซ่อมก่อนโอน

- ตลับเมตร :   ใช้ตรวจวัดพื้นที่ส่วนต่างๆ

- ลูกแก้ว :   ใช้ตรวจสอบความลาดเอียงของพื้น

- ถังน้ำ :  ใช้ราดน้ำทดสอบความลาดเอียงของระเบียงและห้องน้ำว่าจะทำให้น้ำสามารถไหลลงท่อได้หรือไม่

- เหรียญ :  ใช้เคาะพื้นหรือกระเบื้องว่ามีจุดไหนที่กลวงผิดปกติหรือไม่

- อุปกรณ์ไฟฟ้า/สายชาร์จแบตฯ :  ใช้ตรวจสอบปลั๊กไฟ

2.ตรวจงานพื้น ผนัง ประตูหน้าต่าง และเพดาน


ถือเป็นงานกลุ่มแรกที่สามารถตรวจได้ เพราะปัญหาหลายๆ ส่วนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ขณะเดียวกัน ก็มีงานบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มักมีปัญหาอยู่เสมอ งานกลุ่มนี้มีจุดที่ต้องตรวจเช็กหลักๆ ดังนี้


- งานพื้น กรณีเป็นลามิเนต ตรวจสอบว่าพื้นบวมหรือมีจุดไหนที่เคาะแล้วเป็นโพรงหรือไม่ ติดตั้งได้เท่ากัน ไม่มีตรงไหนที่เดินแล้วสะดุด ใช้ลูกแก้วตรวจสอบดูว่าปูได้เสมอกัน ไม่มีส่วนไหนเป็นหลุมหรือลาดเอียง กรณีกระเบื้องระเบียงและห้องน้ำ ให้ตรวจสอบว่าเมื่อเทน้ำราดพื้นแล้ว น้ำสามารถระบายได้ดีและรวดเร็วหรือไม่ ที่สำคัญเทน้ำราดพื้นแล้วต้องไม่มีน้ำขัง


- งานผนัง ตรวจสอบรอยฉาบว่าทำได้เรียบหรือไม่ มีรอยร้าวตรงไหน สีที่ทานั้นทาได้สม่ำเสมอหรือเกิดรอยด่างตรงไหน เป็นสีตามแบบที่กำหนดหรือไม่ กรณีเป็นวอลเปเปอร์ ให้ลองไล่ลูบผนังดูเพื่อตรวจสอบภายในว่าฉาบผนังเรียบหรือไม่ ติดวอลเปเปอร์เนียนแล้วหรือยัง และดูว่าวอลเปเปอร์มีรอยฉีกขาดหรือรอยต่อตรงไหนที่ทำได้ไม่ดีหรือไม่ บัวเชิงผนังก็ต้องมีความต่อเนื่อง กรณีผนังกระเบื้องในห้องน้ำ ต้องตรวจสอบด้วยการเคาะเหรียญว่าปูเต็มแผ่น ไม่มีเสียงกลวงด้านใน


- งานประตูหน้าต่าง ตรวจสอบตั้งแต่การเปิดปิดปกติ ว่าสามารถเปิดปิดได้สนิทโดยไม่มีเสียงดัง ปัญหาฝืด เอียง ตรวจสอบลูกบิดว่ายึดกับประตูแน่น ตรวจสอบบานพับ ตรวจสอบกลอนประตูหน้าต่าง ตรวจสอบกระจกบานเลื่อนว่าไม่มีรอยร้าว และสามารถเลื่อนได้โดยไม่ฝืดหรือตกราง และดูว่ามีสีทาเลยมาโดนประตูหน้าต่างหรือไม่


- งานเพดาน ตรวจสอบความสูงจากพื้นถึงเพดานว่าเป็นไปตามที่ระบุในสัญญาหรือไม่ ตรวจสอบระดับฝ้าว่าไม่มีรอยแตกร้าว หรือสีด่าง คราบน้ำที่มาจากการรั่วซึมของห้องด้านบน

3.ตรวจระบบน้ำและสุขาภิบาล


เป็นระบบที่หากไม่ตรวจให้ดี ชีวิตจะพังพินาศ เพราะมักจะกระทบกับเรื่องสุขอนามัย ดังนั้นนอกจากจะตรวจเช็กห้องน้ำผ่านงานพื้นและผนังแล้ว ยังต้องตรวจสอบระบบน้ำอื่นๆ ให้ครบถ้วน


- สายฉีด ฝักบัว และก๊อกน้ำทุกจุด :  ตรวจสอบดูว่าเมื่อเปิดใช้งานพร้อมกัน แรงดันน้ำไม่ตก และน้ำไหลแรงพอทุกจุด


- อ่างซิงค์และอ่างล้างจาน :  ไม่มีรอยรั่วซึม ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และสามารถระบายน้ำได้ ไม่อุดตัน


- ระบบเครื่องทำน้ำอุ่น :  ตรวจสอบว่าไม่รั่วและมีการติดตั้งสายดิน


- ท่อน้ำทิ้งจากเครื่องปรับอากาศ :   ตรวจสอบว่าสามารถทำงานได้ปกติ

4.ตรวจระบบไฟฟ้า


เป็นส่วนที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาช่วย โดยมีสิ่งที่ต้องตรวจสอบหลักๆ ดังนี้


- เต้าเสียบทุกจุด : ตรวจสอบว่าไฟทำงานได้ทุกจุดหรือไม่ โดยอาจใช้สายชาร์จแบตฯมือถือ หรือไขควงวัดไฟ


- สวิตช์ไฟทุกจุด : ตรวจสอบว่าเปิดติดทุกจุดหรือไม่


- ระบบสัญญาณโทรศัพท์ :  ตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่


- เครื่องใช้ไฟฟ้าที่แถมมา : ตรวจดูว่าชำรุดหรือไม่ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ต้องตรวจด้วยว่าเป็นของใหม่และไม่มีเสียงดังผิดปกติ

5.ตรวจเฟอร์นิเจอร์บิลต์-อิน


เฟอร์นิเจอร์บิลต์-อินมักเป็นสิ่งที่คอนโดฯสั่งมาเป็นล็อตใหญ่ ทำให้สินค้าบางชิ้นมีโอกาสชำรุดได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นตู้บิลต์-อิน ครัวบิลต์-อินต่างๆ ก็จำเป็นต้องดูว่าประกอบมาเรียบร้อย สามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่


ทั้งหมดนี้คือเช็กลิสต์จุดที่สำคัญๆ สำหรับการตรวจรับโอนคอนโดฯ สำหรับท่านใดที่รู้สึกว่าเห็นแล้วไม่อยากตรวจเอง ก็สามารถจ้างที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญในการตรวจรับได้ โดยส่วนใหญ่ราคายังอยู่ในหลักพันบาท โดยบวกลบตามขนาดของห้อง แต่ไม่ว่าจะตรวจเองหรือจ้างที่ปรึกษามาตรวจ ก็ต้องอาศัยความละเอียดเข้ามาช่วย เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนที่ต้องผ่อนหรืออยู่กับห้องชุดนี้ไปอีกนับสิบปีหลังโอน ก็คือตัวเรานั่นเอง