กองทุนแนะนำทั้งหมด

หมายเหตุ: 
*ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ และ เอกสารนำเสนอข้อมูลกองทุนจาก SCBAM

• ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
• โปรดศึกษาข้อมูลกองทุนรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน ที่เปิดเผยไว้ในแหล่งต่าง ๆ หรือขอข้อมูลจากบุคคลที่ขายหน่วยลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
• กองทุนบางกองทุนมิได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกันทั้งด้าน สินทรัพย์ / ภูมิภาค / ประเทศ / กลุ่มธุรกิจ ราคาของหลักทรัพย์จึงมีความผันผวนตามปัจจัยที่กระทบ กองทุนที่ลงทุนในภูมิภาค / ประเทศ / กลุ่มธุรกิจเดียว จะมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนที่มีการกระจายการลงทุนมากกว่า
• ศึกษาข้อมูลกองทุนหลักและหนังสือชี้ชวนได้จาก website ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม www.scbam.com และสามารถศึกษารายละเอียดกองทุนรวมเพิ่มเติมผ่าน SCB EASY App
• ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
• สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777

เงื่อนไขการรับ Fund Back SCBSFF สูงสุด 1,600 บาท

1. รายการส่งเสริมการขายนี้ให้สิทธิเฉพาะผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาที่มีบัญชีกองทุนกับ บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด (“SCBAM”) ประเภทบัญชีเดี่ยวเท่านั้น
2. ลงทุนในกลุ่มกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ/หรือ กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และ/หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ที่บริหารโดย บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด ตามรายชื่อกองทุนรวมที่เข้าร่วมรายการ (ยกเว้นกองทุนชนิด SSF e-class และ Thai ESG e-class และกองทุนประเภทตราสารหนี้ คือ กองทุน RMF ได้แก่ SCBRM1 และ SCBRM2 กองทุน SSF ได้แก่ SCBFP-SSF และ SCBSFFPLUS-SSF และกองทุน Thai ESG ได้แก่ SCBTB(ThaiESGA)) ระหว่างวันที่ 2 กันยายน 2567 จนถึง 30 ธันวาคม 2567 และต้องถือครองหน่วยลงทุนที่ได้ลงทุนภายในช่วงเวลาส่งเสริมการขายจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 เท่านั้น
3. มูลค่าเงินคืนสูงสุด คำนวณจากร้อยละ 0.2 ของมูลค่าเงินลงทุนในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งจะไม่เกิน 1,600 บาทต่อผู้ลงทุน ในกรณีต่อไปนี้
   • กรณีผู้ลงทุนมีการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน RMF เพียงอย่างเดียว จะคำนวณในอัตราร้อยละ 0.2 ของยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิของผู้ลงทุนสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท และผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อผู้ลงทุน 1 ราย
   • กรณีผู้ลงทุนมีการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SSF เพียงอย่างเดียว จะคำนวณในอัตราร้อยละ 0.2 ของยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิของผู้ลงทุน สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 400 บาทต่อผู้ลงทุน 1 ราย
   • กรณีผู้ลงทุนมีการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Thai ESG เพียงอย่างเดียว จะคำนวณในอัตราร้อยละ 0.2 ของยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิของผู้ลงทุน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท และผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 600 บาทต่อผู้ลงทุน 1 ราย
   • กรณีผู้ลงทุนมีการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน RMF กองทุน SSF และกองทุน Thai ESG จะคำนวณตามที่กำหนดไว้ในข้อ 3.1 ข้อ 3.2 และข้อ 3.3 ข้างต้น (แล้วแต่กรณี) และเมื่อรวมมูลค่าเงินคืนทั้งหมด ผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 1,600 บาทต่อผู้ลงทุน 1 ราย
4. SCBAM จะคำนวณยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิของกองทุนที่เข้าร่วมรายการ โดยพิจารณาจากยอดรวมของรายการซื้อ สับเปลี่ยนเข้า และโอนมาจาก บลจ.อื่น หักด้วยยอดรวมของรายการขายคืน สับเปลี่ยนออก และโอนไปยัง บลจ.อื่น และไม่นับยอดรายการสับเปลี่ยนภายในกลุ่ม RMF SSF และ Thai ESG ของ SCBAM
5. การนับยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิของผู้ลงทุนที่เข้าร่วมโครงการนั้น SCBAM จะนับยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิดังนี้
   • กรณีที่ผู้ลงทุนมีการโอนสับเปลี่ยนภายในกองทุนรวมที่เข้าร่วมรายการ จะไม่นับเป็นการโอนสับเปลี่ยนเข้าที่จะนับเป็นยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิของผู้ลงทุน และไม่ถือเป็นการโอนสับเปลี่ยนออกที่จะถูกหักจากยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิของผู้ลงทุน
   • กรณีที่ผู้ลงทุนมีการขายคืน โอนสับเปลี่ยนออก และ/หรือ โอนออกไปยังกองทุนรวมที่ไม่ได้เข้าร่วมรายการ หรือกองทุนรวมที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการอื่น ยอดเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกนำไปหักออกจากยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิของผู้ลงทุน
6. ในกรณีที่ผู้ลงทุนเปิดบัญชีมากกว่า 1 บัญชี SCBAM จะทำการนับยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิจากทุกบัญชีรวมกัน โดยพิจารณาจากเลขบัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลัก
7. คำว่า “ยอดเงินลงทุน” , “การขายคืน” และ “โอนสับเปลี่ยน” ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฯ นี้ หมายถึง รายการ ซื้อ/ขายคืน/โอนสับเปลี่ยน ที่สำเร็จก่อนเวลาทำการ (Cut-Off Time) ตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของแต่ละกองทุนรวม
8. SCBAM จะทำรายการซื้อหน่วยลงทุนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) ภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ตามมูลค่าเงินคืนสูงสุดที่ผู้ลงทุนได้รับ โดยใช้มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ณ สิ้นวันทำการวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2568 ในการจัดสรร กรณีได้รับคืนหน่วยลงทุนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) ต่ำกว่า 1 บาท SCBAM ขอสงวนสิทธิ์ไม่มอบหน่วยลงทุนเข้าบัญชีของผู้ลงทุน
9. SCBAM จะจัดสรรหน่วยลงทุนของกองทุน SCBSFF ให้แก่ผู้ลงทุน ไปยังบัญชีกองทุนที่ผู้ลงทุนได้ทำรายการซื้อ/ขายคืน/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่ร่วมรายการนี้ กรณีผู้ลงทุนทำรายการซื้อ/ขายคืน/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่เข้าร่วมรายการนี้ ผ่านหลายบัญชีกองทุน SCBAM จะจัดสรรหน่วยลงทุนของกองทุน SCBSFF ให้แก่ผู้ลงทุนไปยังบัญชีกองทุนล่าสุดที่ผู้ลงทุนทำรายการดังกล่าว
10. กรณีที่ได้รับสิทธิ์ในการรับเงินคืนจากโครงการส่งเสริมการขาย RMF/SSF/Thai ESG นี้แล้ว จะไม่สามารถรับของกำนัลจากโครงการส่งเสริมการขาย RMF/SSF/Thai ESG อื่นๆ ในช่วงเวลาเดียวกันอีก
11. SCBAM ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาของโครงการ ของกำนัลที่มีมูลค่าเทียบเท่า เงื่อนไข รวมทั้งข้อกำหนดอื่นของโครงการส่งเสริมการขายนี้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และของกำนัลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดได้ ทั้งนี้คำตัดสินของ SCBAM ถือเป็นสิ้นสุด

SCBSFF กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารธนาคารพาณิชย์ และหุ้นกู้ ทั้งนี้อาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนและเพื่อการลงทุนและจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.