ข้อกำหนดและเงื่อนไขรายการส่งเสริมการขาย “รับสิทธิ์ สมัครบัตรเครดิต SCB FIRST อายุบัตร 2 ปี พร้อมรับ เอกสิทธิ์ 2 ปี เมื่อมียอดเงินฝากเงินตราต่างประเทศหรือเงินลงทุนใหม่ในผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ ”

1. รายการส่งเสริมการขายมีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 ("ระยะเวลารายการส่งเสริมการขาย”)

2. ลูกค้าที่มีสิทธิเข้าร่วมรายการส่งเสริมการขาย “รับสิทธิ์ สมัครบัตรเครดิต SCB FIRST อายุบัตร 2 ปี พร้อมรับ เอกสิทธิ์ 2 ปี เมื่อมียอดเงินฝากเงินตราต่างประเทศหรือเงินลงทุนใหม่ในผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ” (“รายการส่งเสริมการขาย”) จะต้องมีคุณสมบัติและดำเนินการตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

• 2.1 ลูกค้าประเภทบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทยและยังไม่มีสถานะเป็น SCB FIRST ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (“ธนาคาร”) ณ วันที่เข้าร่วมรายการ
• 2.2 มียอดเงินฝากเงินตราต่างประเทศ หรือเงินลงทุนใหม่กับธนาคารในผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการภายในระยะเวลาส่งเสริมการขาย เป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไปหรือเทียบเท่า โดยผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมรายการมีดังต่อไปนี้
  • 2.2.1 บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศประเภทเงินฝากประจำ สกุลเงิน USD ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป หรือ
  • 2.2.2 หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Dual Currency Linked Note* อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB อายุตราสารตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป** หรือ
  • 2.2.3 หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Capped Floored Floater Note* อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย Secured Overnight Financing Rate (“SOFR”) อายุตราสารตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป** หรือ
  • 2.2.4 หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Knock-In Knock-Out Equity Linked Note* อ้างอิงกับตราสารทุน สกุลเงิน USD อายุตราสารตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป** และ
  • **ทั้งนี้ อายุตราสารที่เสนอชายเป็นไปตามเงื่อนไขที่ผู้ออกตราสารกำหนด

• 2.3 ต้องมีมูลค่าสินทรัพย์เงินฝากและ/หรือเงินลงทุนรวมที่อยู่กับธนาคาร ณ สิ้นวันของวันที่ 30 ธันวาคม 2566 เปรียบเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์เงินฝากและ/หรือเงินลงทุนรวมที่มีอยู่ ณ สิ้นวันของวันที่ 31 มีนาคม 2567 จะต้องเพิ่มขึ้นขั้นต่ำ 5 ล้านบาท
• 2.4 มูลค่าสินทรัพย์เงินฝากและ/หรือเงินลงทุน ตามข้อ 2.3 หมายถึงผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้
  • 2.4.1 ผลิตภัณฑ์เงินฝากทุกประเภทของธนาคาร ประเภทบัญชีเดี่ยว ในนามของลูกค้าผู้เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายเท่านั้น
  • 2.4.2 ผลิตภัณฑ์การลงทุน ประเภทบัญชีเดี่ยว ที่ซื้อผ่านช่องทางของธนาคารเท่านั้น ได้แก่
    • 2.4.2.1 กองทุนรวมภายใต้การบริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ("SCBAM”) และ/หรือ กองทุนรวมภายใต้การบริหารของบริษัทจัดการกองทุนอื่น ซึ่งทำรายการซื้อภายใต้บัญชีเพื่อใช้บริการซื้อขายหน่วยลงทุนแบบไม่เปิดเผยชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน (Omnibus Account)
    • 2.4.2.2 ตั๋วแลกเงินที่ออกโดยธนาคาร และ/หรือ หุ้นกู้ที่ออกโดยธนาคาร และ/หรือ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
    • 2.4.2.3 หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่ออกโดยธนาคาร ประเภท Dual Currency Linked Note และ/หรือ ประเภท Capped Floor Floater Note และ/หรือ ประเภท Knock-in Knock-out Equity Linked Note
    • 2.4.3 ผลิตภัณฑ์การลงทุนภายใต้บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (“INNOVESTX”) ประเภทบัญชีเดี่ยว ได้แก่ หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่ออกโดย INNOVESTX ประเภท Knock-in Knock-out ที่ซื้อผ่านช่องทางของธนาคารเท่านั้น
• 2.5 ลูกค้าที่ทำรายการฝากเงินเข้าบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศประเภทเงินฝากประจำ สกุลเงิน USD ในระหว่างระยะเวลารายการส่งเสริมการขาย สามารถใช้บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศประเภทเงินฝากประจำที่มีอยู่เดิม หรือสามารถเปิดบัญชีเงินฝากดังกล่าวได้ผ่านสาขา โดยบัญชีเงินฝากดังกล่าวจะต้องเป็นบัญชีเดี่ยวในนามบุคคลธรรมดา และชื่อบัญชีเงินฝากต้องเป็นชื่อลูกค้าและตรงกับผู้ขอใช้บริการบัตรเครดิต SCB FIRST
• 2.6 ลูกค้าที่ลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Dual Currency Linked Note* อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB หรือ หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Capped Floored Floater Note* อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย Secured Overnight Financing Rate (“SOFR”)* ต้องเป็นหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่ออกโดยธนาคาร โดยธนาคารจะนับยอดเงินลงทุน (มูลค่ารวมที่ตราไว้) ของหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ที่ลูกค้าได้แสดงความประสงค์จองซื้อในนามของตนเองผ่านช่องทางธนาคารในระหว่างระยะเวลารายการส่งเสริมการขายตรงกับผู้ขอใช้บริการบัตรเครดิต SCB FIRST และไม่มีการแจ้งยกเลิกรายการจองซื้อในภายหลัง (ช่วงเวลาเปิดเสนอขายหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ซึ่งจะประกาศแจ้งให้ทราบในแบบสรุปข้อมูลของตราสาร (Factsheet) หรือ สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนส่วนบุคคล)
• 2.7 ลูกค้าที่ลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Knock-In Knock-Out Equity Linked Note* อ้างอิงกับตราสารทุน สกุลเงิน USD ต้องเป็นหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่ออกโดยธนาคาร และ/หรือ INNOVESTX โดยธนาคารจะนับยอดเงินลงทุน (มูลค่ารวมที่ตราไว้) ของหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ที่ลูกค้าได้แสดงความประสงค์จองซื้อในนามของตนเองผ่านช่องทางธนาคารในระหว่างระยะเวลารายการส่งเสริมการขายตรงกับผู้ขอใช้บริการบัตรเครดิต SCB FIRST และไม่มีการแจ้งยกเลิกรายการจองซื้อในภายหลัง

3. ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์ในการขอใช้บริการบัตรเครดิต SCB FIRST เมื่อมียอดเงินฝากเงินตราต่างประเทศหรือเงินลงทุนใหม่กับธนาคารในผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขาย และมีมูลค่าสินทรัพย์เงินฝากและ/หรือเงินลงทุนรวมเพิ่มขึ้น ตามเงื่อนไขในข้อ 2.2 และ 2.3 ข้างต้น โดยลูกค้าจะต้องใช้สิทธิในการขอสมัครใช้บริการบัตรเครดิต SCB FIRST ภายใน 60 วัน นับจากวันที่สิ้นสุดรายการส่งเสริมการขาย ทั้งนี้ กรุณาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเงื่อนไขในการขอใช้บริการบัตรเครดิต SCB FIRST ได้ที่เจ้าหน้าที่ธนาคารที่ดูแลท่าน

4. สิทธิประโยชน์นี้ธนาคารขอสงวนสิทธิ์สำหรับลูกค้าที่มียอดเงินฝากเงินตราต่างประเทศใหม่ในบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศประเภทเงินฝากประจำ สกุลเงิน USD หรือ มีเงินลงทุนใหม่ในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Dual Currency Linked Note* อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB หรือ หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Capped Floored Floater Note* อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย Secured Overnight Financing Rate (“SOFR”)* หรือ หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Knock-in Knock-out Equity Linked Note* โดยเป็นลูกค้าที่ไม่เคยเป็นสมาชิกบัตรเครดิต SCB FIRST หรือมีการยกเลิกบัตรเครดิต SCB FIRST ก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2566 เท่านั้น

5. ในการขอสมัครใช้บริการบัตรเครดิต SCB FIRST ลูกค้าจะต้องนำส่งใบสมัครบัตรเครดิตพร้อมแนบเอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้ (แล้วแต่กรณี) และเอกสารหลักฐานอื่นใดตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิต SCB FIRST ทั้งนี้ การพิจารณาอนุมัติและวงเงินบัตรเครดิตจะขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย

6. ในกรณีที่ลูกค้าได้รับอนุมัติบัตรเครดิต SCB FIRST โดยบัตรเครดิตและการใช้เอกสิทธิ์ SCB FIRST จะมีอายุ 2 ปี นับแต่เดือนที่ระบุไว้บนหน้าบัตรเครดิต

7. ธนาคารสงวนสิทธิ์ยกเลิกบัตรเครดิต SCB FIRST หรือยกเลิกเอกสิทธิ์ SCB FIRST กรณีธนาคารตรวจสอบในภายหน้าพบว่า ลูกค้ามีคุณสมบัติไม่ถูกต้องครบถ้วน และ/หรือ ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด

8. ในกรณีที่บัตรเครดิต SCB FIRST ที่ได้รับตามข้อ 5 ครบกำหนดอายุ 2 ปี นับแต่เดือนที่ระบุไว้บนหน้าบัตรเครดิต และลูกค้ามีความประสงค์จะคงการใช้เอกสิทธิ์ SCB FIRST ต่อไป โดยลูกค้า SCB FIRST จะต้องมียอดรวมของสินทรัพย์ประเภทเงินฝาก และ/หรือ เงินลงทุนผ่านธนาคาร และ/หรือ ค่าเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระใหม่ เฉลี่ย 6 เดือน ตั้งแต่ 10,000,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ หากลูกค้ามียอดรวมสินทรัพย์ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการให้เอกสิทธิ์ SCB FIRST แก่ลูกค้า และ/หรือ ไม่ต่ออายุบัตรเครดิต SCB FIRST และ/หรือ เปลี่ยนประเภทบัตรเครดิตให้แก่ลูกค้าตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด

9. ในกรณีที่บัตรเครดิต SCB FIRST ที่ได้รับตามข้อ 5 ครบกำหนดอายุ 2 ปีแล้ว ลูกค้าที่คุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ธนาคารมีสิทธิไม่ต่ออายุหรือยกเลิกบัตรเครดิต SCB FIRST รวมถึงสงวนสิทธิ์การมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ หรือเปลี่ยนประเภทบัตรเครดิตให้แก่ลูกค้าตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน

10. กรณีลูกค้ามีบัตรเครดิต SCB ประเภทอื่นอยู่แล้ว ลูกค้าจะได้รับบัตรเครดิต SCB FIRST โดยใช้วงเงินเดียวกันกับบัตรเดิมที่มีอยู่

11. รายละเอียดและเงื่อนไขการใช้เอกสิทธิ์ ลูกค้าสามารถศึกษาได้ที่คู่มือ SCB FIRST ได้ที่ เว็บไซต์ scb.co.th/th/scbfirst.html หรือสอบถามที่ SCB FIRST Service Center โทร. 02-777-7788

12. ธนาคารมีสิทธิเปลี่ยนแปลง และ/หรือ ยกเลิก กติกา เงื่อนไข ข้อกำหนด ระยะเวลา สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และ/หรือ รายการส่งเสริมการขายนี้ได้ โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 7 วัน ก่อนการมีผลใช้บังคับ และในกรณีมีข้อพิพาทให้ถือคำตัดสินของธนาคารเป็นที่สุด

13. สิทธิตามรายการส่งเสริมการขายนี้ไม่สามารถเปลี่ยน/โอน/ทอน หรือแลกเป็นเงินสดหรือสิ่งอื่นได้

14. ธนาคารจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินรายการส่งเสริมการขายตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ และวัตถุประสงค์อื่นตามที่ระบุในประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของธนาคาร โดยลูกค้าสามารถอ่านเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจถึงวิธีการที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารที่ scb.co.th และ/หรือ ช่องทางที่ธนาคารกำหนด หรือตามที่ธนาคารจะเปลี่ยนแปลงในภายหน้าและแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยประกาศในเว็บไซต์ดังกล่าว และ/หรือ ช่องทางที่ธนาคารกำหนด

15. ลูกค้าควรใช้วงเงินเท่าที่จำเป็นและชำระคืนตามกำหนด เพื่อไม่ให้เสียดอกเบี้ยจากการชำระล่าช้า 16 % ต่อปี ยกเว้นการเบิกเงินสดล่วงหน้า (Cash Advance) ซึ่งลูกค้าจะต้องชำระค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย เป็นไปตามที่ประกาศธนาคารกำหนด

16. สามารถสอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777

หมายเหตุ

* ผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อน และ/หรือ เสี่ยงสูง

• การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
• หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงเป็นตราสารที่มีความซับซ้อนมากกว่าหุ้นกู้ทั่วไป เนื่องจากเป็นตราสารที่ประกอบด้วยตราสารหนี้และอนุพันธ์แฝง (embedded derivatives) โดยการลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงจะมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องหลายด้าน เช่น ความเสี่ยงของปัจจัยอ้างอิง ความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกตราสาร เป็นต้น ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องและขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน
• ผู้ลงทุนมีความเสี่ยงที่จะสูญเงินลงทุนทั้งหมดหรือบางส่วน เนื่องจากหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงชุดนี้ไม่ได้มีการคุ้มครองเงินต้น นอกจากนั้น หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงยังเป็นตราสารที่มีสภาพคล่องต่ำและมีตลาดรองที่มีขอบเขตจำกัด ดังนั้น ผู้ลงทุนจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
• นอกจากนี้ ผู้ออกหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอาจจะเสนอขายหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงหลายชุด ซึ่งหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงแต่ละชุดจะมีอายุแตกต่างกัน และมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน ซึ่งโดยทั่วไปหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่มีอายุมากกว่าจะมีความเสี่ยงสูงกว่า
• ทั้งนี้ การลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงนี้เป็นธุรกรรมที่ไม่ใช่ "เงินฝาก" และธุรกรรมการลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงดังกล่าวจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากแต่อย่างใด
• ผู้ออกหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงและผู้ถือหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงจะต้องไม่เสนอขาย / โอนหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงไม่ว่าทอดใด ให้แก่บุคคลที่ไม่ใช่ผู้ลงทุนสถาบันหรือผู้ลงทุนรายใหญ่
• เงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนและเงินต้นอ้างอิงกับปัจจัยต่าง และผู้ลงทุนมีความเสี่ยงที่จะสูญเงินลงทุนหากไม่มีการคุ้มครองเงินต้น