ไทยพาณิชย์ออกมาตรการเร่งด่วนดูแลลูกค้าผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว

 

          ธนาคารไทยพาณิชย์ออกมาตรการเร่งด่วนช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทั้งมาตรการพักชำระและสินเชื่อพิเศษเพื่อซ่อมแซมบ้านและกิจการ ประกาศพักชำระเงินต้นแก่ลูกค้าสินเชื่อบ้านนาน 3 เดือน และให้สินเชื่อแก่ลูกค้าที่ต้องการซ่อมแซมบ้านดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน พร้อมมอบสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการแก่ผู้ประกอบการรายย่อยและเอสเอ็มอี อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน 

          จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ได้สร้างความเสียหายส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินและความเป็นอยู่ของประชาชนในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ธนาคารไทยพาณิชย์มีความห่วงใยลูกค้าและพร้อมอยู่เคียงข้างให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติภัยครั้งนี้ ด้วยมาตรการเร่งด่วน ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคล ลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่ ทั้งการพักชำระเงินกู้แก่ลูกค้าปัจจุบัน และให้สินเชื่อใหม่เพื่อการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และฟื้นฟูกิจการที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย ดังนี้

         กลุ่มลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจรายย่อย* ประกอบด้วย

  1. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย - ลูกค้าสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบ้านคือเงิน My Home My Cash ธนาคารมอบความช่วยเหลือพักชำระเงินต้นนาน 3 เดือน และมอบสินเชื่อบ้านได้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมบ้าน ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ได้แก่ สินเชื่อบ้านได้เพิ่มสำหรับลูกค้าปัจจุบัน และสินเชื่อ My Home My Cash สำหรับลูกค้าขอสินเชื่อใหม่ ฟรีค่าประเมินหลักประกัน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโด
  2. สินเชื่อรถยนต์ ธนาคารมอบความช่วยเหลือ ได้แก่ 1) พักชำระหนี้สูงสุด 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ และขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระสูงสุด 3 เดือน (รวมอายุผู้กู้ไม่เกิน 65 ปี)
  3. สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ ธนาคารมอบความช่วยเหลือ พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 3 เดือน และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี


         ลูกค้าสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ โทร SCB Customer Center โทร 02-777-7777 ได้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2568


          กลุ่มลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารมอบความช่วยเหลือให้ทั้งผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อม ผ่าน 4 มาตรการหลัก ประกอบด้วย 1) พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 6 เดือน 2) พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุดนาน 3 เดือน 3) เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว เสริมสภาพคล่อง วงเงินสูงสุดไม่เกิน 20% ของวงเงินรวมเดิม และไม่เกิน 10 ล้านบาท 4) วงเงินกู้สำหรับปรับปรุง ซ่อมแซม หรือซื้อทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายของกิจการ วงเงินสินเชื่อสูงสุด 20% ของวงเงินรวมเดิม ไม่เกิน 10 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี

          ลูกค้าเอสเอ็มอีสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ทางเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ และ SCB Business Call Center โทร 02-722-2222 วันที่ 30 มีนาคม 2568 – 31 ธันวาคม 2568

          ธนาคารไทยพาณิชย์ขอส่งกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และพร้อมช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ทั้งนี้ ธนาคารจะเร่งดำเนินการอย่างเต็มความสามารถในการพิจารณาคำร้องของลูกค้าทุกท่านเพื่อให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบกลับมาฟื้นตัวได้อย่างทันท่วงที

รายละเอียดเพิ่มเติม
  • สำหรับลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบตามประกาศสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน แพร่ เพชรบูรณ์ สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และชัยนาท หรืออ้างอิงการประตามประกาศล่าสุด

กลุ่มลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SSME:

สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2568

1. สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบ้านคือเงิน
    1.1 สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบ้านคือเงิน (ลูกค้าปัจจุบันของธนาคาร
    พักชำระเงินต้น สูงสุด 3 เดือน (พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย)
    1.2 สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สินเชื่อบ้านคือเงิน (สำหรับขอสินเชื่อใหม่)
    อัตราดอกเบี้ย

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว :

  • สำหรับ สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม (Home Loan Top Up) อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ระหว่าง 5.575% - 7.575% ต่อปี สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-1.50% - MRR+0.50% ต่อปี*
  • สำหรับ สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม (My Home My Cash Top Up) อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงระหว่าง 6.675% - 13.825% ต่อปี สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-0.40% - MRR+6.75% ต่อปี*
  • สำหรับ สินเชื่อบ้านคือเงิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ระหว่าง 6.460%-14.075% ต่อปี สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-0.61% - MRR+7.00% ต่อปี*

    *โดยอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 3 มีนาคม 2568 = 7.075% ต่อปี ทั้งนี้ “อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้”

หมายเหตุ : 

  1. อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Interest Rate) คำนวณจากวงเงินกู้ 1 ล้านบาท อายุสัญญา 20 ปี
  2. อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลในระหว่างวันที่ 30 มีนาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2568
  3. ลูกค้าต้องยื่นเอกสารแสดงความเสียหาย หรือผลกระทบที่ได้รับ ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ
  4. กรณีใช้อัตราดอกเบี้ยแบบทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life) *อัตราดอกเบี้ยแบบทำประกัน Credit Life 70%/70% กำหนดให้ทำจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 70% ของวงเงินกู้ และระยะเวลาเอาประกันภัย 70% ของระยะเวลากู้ตามสัญญา โดยกำหนดให้ระยะเวลาเอาประกันภัยขั้นต่ำ 10 ปี (กรณีระยะเวลากู้ตามสัญญาต่ำกว่า 10 ปี กำหนดให้ระยะเวลาเอาประกันภัยเท่ากับระยะเวลากู้ตามสัญญา
  5. การประกันอัคคีภัยคุ้มครองหลักประกันสินเชื่อผ่านธนาคาร ลูกค้าสามารถกู้ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยรวมในวงเงินกู้ได้ (Top up) หากลูกค้ามีความประสงค์
  6. สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต และ สำหรับประกันอัคคีภัยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เทเวศประกันภัย
  7. ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
  8. ธนาคารเป็นเพียงนายหน้าผู้ชี้ช่องหรือจัดการให้บุคคลเข้าทำสัญญาประกันภัยเท่านั้น ทั้งนี้ การพิจารณารับประกันภัย สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต และ สำหรับประกันอัคคีภัยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เทเวศประกันภัย
  9. ผลประโยชน์ เงื่อนไข และความคุ้มครอง เป็นไปตามที่กรมธรรม์และบริษัทประกันกำหนด
  10. รับประกันภัยโดย บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ กรณีสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองและการเรียกร้องสินไหมทดแทน กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้าเอฟดับบลิวดี โทร.1351 (ทุกวันเวลา 8.00 – 20.00 น.) หรือ fwd.co.th
  11. รับประกันภัยโดย บมจ. เทเวศประกันภัย สำหรับประกันอัคคีภัย กรณีสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองและการเรียกร้องสินไหมทดแทน กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้า บมจ. เทเวศประกันภัย โทร. 1291 ทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น. หรือ www.deves.co.th สิทธิเรื่องการทำประกันอัคคีภัยและประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life) 
  12. ธนาคารไม่ได้บังคับให้ลูกค้าต้องทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life) เป็นสิทธิของลูกค้าที่จะเลือกทำหรือไม่ก็ได้ ไม่มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร
  13. ลูกค้าต้องทำประกันอัคคีภัยเพื่อคุ้มครองหลักประกัน โดยทุนประกันภัยตามราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง ลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะเลือกทำประกันอัคคีภัยกับบริษัทประกันภัยรายใดก็ได้ตามความสมัครใจของลูกค้า สำหรับการทำประกันอัคคีภัยกับ บมจ.เทเวศประกันภัย ไม่มีผลต่อการได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และไม่มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร
  14. เงื่อนไขและหลักเกณฑ์เป็นไปตามที่ธนาคารฯ กำหนด

ฟรี ค่าประเมินหลักประกัน
เงื่อนไขฟรีค่าประเมินหลักประกัน ลูกค้าต้องทำการประเมินหลักประกัน ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 และเบิกใช้วงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติภายใน 10 วันทำการนับจากวันที่ 30 มิถุนายน 2568
เงื่อนไขหลักประกันที่ได้รับ ฟรี ค่าประเมินหลักประกัน

  1. หลักประกันที่อยู่อาศัยพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ได้แก่ บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์เฮ้าส์, ทาวน์โฮม, คอนโดมิเนียม, อาคารพาณิชย์ เท่านั้น
  2. กรณีไม่เป็นไปตามเงื่อนไขข้างต้น ธนาคารจะยังคงเรียกเก็บค่าประเมินหลักประกันตามอัตราปกติ

2. สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ 
    2.1 สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ (ลูกค้าปัจจุบันของธนาคาร)
    พักชำระเงินต้น สูงสุด 3 เดือน (พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย)
    2.2 สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการเพื่อฟื้นฟูกิจการ (สำหรับขอสินเชื่อใหม่)
    สำหรับผู้ประกอบการที่มียอดขายน้อยกว่า 75 ล้านบาทต่อปี
    อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน

  • ค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อ (Front-End-Fee) 1%
  • ประเภทวงเงินกู้ (Loan) ที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระเป็นงวด เท่านั้น
  • วงเงินสูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย (รวมทุกสถาบันการเงิน ภายใต้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ Soft Loan)
  • ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี
  • วงเงินกู้ที่ได้จากโครงการ ลูกค้าต้องนำไปใช้ฟื้นฟูกิจการที่ได้รับผลกระทบจากกรณีแผ่นดินไหวเท่านั้น ห้ามนำเงินไปชำระหนี้เดิม (Refinance) เงินกู้ทุกประเภททุกสถาบันการเงิน
  • ลูกค้าต้องยื่นเอกสารแสดงความเสียหายหรือผลกระทบที่ได้รับเพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อ
  • สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2568 (อนุมัติและเบิกจ่ายวงเงินภายใน 30 มิถุนายน 2568 หรือจนกว่าวงเงินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ Soft Loan จะสิ้นสุดลง)

หมายเหตุ : 

  1. กรณีใช้อัตราดอกเบี้ยแบบทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life) *อัตราดอกเบี้ยแบบทำประกัน Credit Life 100%/100% กำหนดให้ทำจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 100% ของวงเงินกู้ และระยะเวลาเอาประกันภัย 100% ของระยะเวลากู้ตามสัญญา โดยกำหนดให้ระยะเวลาเอาประกันภัยขั้นต่ำ 10 ปี (กรณีระยะเวลากู้ตามสัญญาต่ำกว่า 10 ปี กำหนดให้ระยะเวลาเอาประกันภัยเท่ากับระยะเวลากู้ตามสัญญา
  2. การประกันอัคคีภัยคุ้มครองหลักประกันสินเชื่อผ่านธนาคาร ลูกค้าสามารถกู้ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยรวมในวงเงินกู้ได้ (Top up) หากลูกค้ามีความประสงค์
  3. สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต และ สำหรับประกันอัคคีภัยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เทเวศประกันภัย
  4. ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
  5. ธนาคารเป็นเพียงนายหน้าผู้ชี้ช่องหรือจัดการให้บุคคลเข้าทำสัญญาประกันภัยเท่านั้น ทั้งนี้ การพิจารณารับประกันภัย สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต และ สำหรับประกันอัคคีภัยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันภัยของ บมจ. เทเวศประกันภัย
  6. ผลประโยชน์ เงื่อนไข และความคุ้มครอง เป็นไปตามที่กรมธรรม์และบริษัทประกันกำหนด
  7. รับประกันภัยโดย บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต สำหรับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ กรณีสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองและการเรียกร้องสินไหมทดแทน กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้าเอฟดับบลิวดี โทร.1351 (ทุกวันเวลา 8.00 – 20.00 น.) หรือ fwd.co.th
  8. รับประกันภัยโดย บมจ. เทเวศประกันภัย สำหรับประกันอัคคีภัย กรณีสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครองและการเรียกร้องสินไหมทดแทน กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้า บมจ. เทเวศประกันภัย โทร. 1291 ทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น. หรือ www.deves.co.th สิทธิเรื่องการทำประกันอัคคีภัยและประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life) 
  9. ธนาคารไม่ได้บังคับให้ลูกค้าต้องทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (Credit Life) เป็นสิทธิของลูกค้าที่จะเลือกทำหรือไม่ก็ได้ ไม่มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร
  10. ลูกค้าต้องทำประกันอัคคีภัยเพื่อคุ้มครองหลักประกัน โดยทุนประกันภัยตามราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง ลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะเลือกทำประกันอัคคีภัยกับบริษัทประกันภัยรายใดก็ได้ตามความสมัครใจของลูกค้า สำหรับการทำประกันอัคคีภัยกับ บมจ.เทเวศประกันภัย ไม่มีผลต่อการได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และไม่มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร
  11. เงื่อนไขและหลักเกณฑ์เป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารฯกำหนด


กลุ่มลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี:

สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2568 – 30 ธันวาคม 2568

  • พักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน
  • พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย สูงสุด 3 เดือน
  • เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนชั่วคราว เสริมสภาพคล่อง วงเงินสูงสุดไม่เกิน 20% ของวงเงินรวมเดิม และไม่เกิน 10 ล้านบาท
  • วงเงินกู้สำหรับปรับปรุงซ่อมแซมหรือซื้อทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายของกิจการ สูงสุดไม่เกิน 20% ของวงเงินรวมเดิมและไม่เกิน 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี

วงเงินกู้สำหรับปรับปรุงซ่อมแซมหรือซื้อทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายของกิจการ อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 5.25% ต่อปี 24 เดือน หลังจากนั้น MLR-1% สำหรับสินเชื่อที่อนุมัติภายใน 30 มิถุนายน 2568, สำหรับลูกค้าที่เข้าเงื่อนไขโครงการสินเชื่อพิเศษจากธนาคารออมสิน (GSB Boost Up) อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี 24 เดือน

เงื่อนไขและหลักเกณฑ์เป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารฯ กำหนด



        ธนาคารไทยพาณิชย์ห่วงใย พร้อมช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว พร้อมขอแจ้งแนวทางปฏิบัติและขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนประกันภัยทรัพย์สินสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย 





          ธนาคารไทยพาณิชย์ออกมาตรการเร่งด่วนช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ปรับลดอัตราผ่อนชำระรายเดือนด้วยการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ (ปรับปรุงโครงสร้างหนี้) ให้กับลูกค้าบัตรเครดิต SCB PRIVATE BANKING / SCB FIRST / SCB PRIME / บัตรเครดิต SCBM / บัตรกดเงินสด SCBM Speedy Cash / สินเชื่อหมุนเวียน UPcash และสินเชื่อส่วนบุคคล UPloan

สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 – 30 มิถุนายน 2568

  • มาตรการปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนด้วยการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ (ปรับปรุงโครงสร้างหนี้)*
  • ลูกค้าจะต้องไม่อยู่ในสถานะค้างชำระ หรือ ค้างชำระไม่เกิน 30 วันก่อนเข้าร่วมโครงการ และอยู่ในพื้นที่ทีได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว 2568
  • สำหรับลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน แพร่ เพชรบูรณ์ สุโขทัย กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และชัยนาท หรืออ้างอิงตามประกาศล่าสุด


 ช่องทางการติดต่อ แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการ 

  • สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต SCB PRIVATE BANKING / SCB FIRST / SCB PRIME / สินเชื่อหมุนเวียน UPcash และสินเชื่อส่วนบุคคล UPloan โทร 02-777-7777 
  • สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต SCBM และ บัตรกดเงินสด SCBM Speedy Cash โทร 1295 
     

          ธนาคารไทยพาณิชย์ขอส่งกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และพร้อมช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ทั้งนี้ ธนาคารจะเร่งดำเนินการอย่างเต็มความสามารถในการพิจารณาคำร้องของลูกค้าทุกท่านเพื่อให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบกลับมาฟื้นตัวได้อย่างทันท่วงที

         การพิจารณาตามมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ปี 2568 เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของธนาคาร

*ไม่รวมลูกค้าที่ได้รับการช่วยเหลือในมาตรการอื่นสูงสุดอยู่แล้ว 


รายละเอียดเพิ่มเติม

กลุ่มลูกค้าสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต SCB PRIVATE BANKING / SCB FIRST / SCB PRIME / บัตรเครดิต SCBM / บัตรกดเงินสด SCBM Speedy Cash / สินเชื่อหมุนเวียน UPcash และสินเชื่อส่วนบุคคล UPloan

สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 – 30 มิถุนายน 2568

  • มาตรการปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนด้วยการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ (ปรับปรุงโครงสร้างหนี้)*
  • ลูกค้าจะต้องไม่อยู่ในสถานะค้างชำระ หรือ ค้างชำระไม่เกิน 30 วันก่อนเข้าร่วมโครงการ และอยู่ในพื้นที่ทีได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว 2568
  • สำหรับลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย  ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน แพร่ เพชรบูรณ์ สุโขทัย กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และชัยนาท หรืออ้างอิงตามประกาศล่าสุด

สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต SCB PRIVATE BANKING / SCB FIRST / SCB PRIME / สินเชื่อหมุนเวียน UPcash และสินเชื่อส่วนบุคคล UPloan ติดต่อแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการได้ที่ SCB Customer Center โทร 02-777-7777 สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต SCBM และบัตรกดเงิน สด SCBM Speedy Cash โทร 1295

เงื่อนไขและหลักเกณฑ์เป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารฯ กำหนด

*ไม่รวมลูกค้าที่ได้รับการช่วยเหลือในมาตรการอื่นสูงสุดอยู่แล้ว