ทะเลไทยอันกว้างใหญ่ ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ยังสร้างโอกาสให้คนไทยได้ประกอบธุรกิจอีกมากมาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทะเล หนึ่งในแบรนด์อาหารทะเลแปรรูปของคนไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Siam Crab ภายใต้การบริหารของทายาทเจนสองอย่าง มาดี้ - มาดิน๊ะ เล่าเจริญ กรรมการ บริษัท วิยะเครป โปรดักส์ จำกัด ที่แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน เพราะช่วงโควิด -19 ที่เกิดขึ้น ทำให้การส่งออกสินค้าทุกประเภทต้องหยุดชะงักแบบไม่ทันตั้งตัว การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจึงต้องมาอยางทันท่วงที เพราะมิตรแท้จะยืน #เคียงข้างเพื่อแนะนำและช่วยเหลือ ในทุกวิกฤติที่เกิดขึ้น

ใช้ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มมูลค่าอาหารทะเล

“มาดี้ก็โตมากับปูตั้งแต่เด็กค่ะ เริ่มแรกคุณแม่ขายปลาในตลาดสด เป็นแม่ค้าตลาดธรรมดา มีช่วงหนึ่งที่ปูค่อนข้างจะล้นตลาด แม่ก็ลองหันขายปูม้าบ้าง จนกระทั่งวันหนึ่งก็เกิดภาวะปูม้าล้นตลาด คือปรกติถ้าเรารับซื้อของจากลูกเรือเป็นประจำอยู่  ถ้าวันใดวันหนึ่งที่เขาของมาก เราก็ต้องรับซื้อทั้งหมด (อันนี้เป็นเรื่องปกติของการทำประมงและการค้าขายอาหารทะเล พอได้ปูเยอะ) เราจะเอาปูเป็นตัน ๆ ไปไว้ไหน เรายังไม่มีโรงงานของตัวเอง เราเป็นแค่แพรับซื้อของทะเล เราเลยต้องคิดแก้ปัญหานี้ เพราะปูสด ถ้าต้มแล้วจะอยู่ได้แค่ 3  วัน เกินกว่านั้นจะเสีย รับประทานไม่ได้ เราจึงหันมาศึกษากระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ ซึ่งสามารถยืดอายุของสดได้ออกไปถึง 18 เดือน และหันมาทำปูพาสเจอร์ไรซ์เป็นหลัก คือรับซื้อปูธรรมดาเหมือนเดิม แต่ว่าเปลี่ยนรูปแบบจากการขายสด ส่งแกะ ส่งสด มาเป็นเอามาพาสเจอร์ไรซ์ให้หมด แล้วบรรจุลงกระป๋อง เป็นการเพิ่มมูลค่าของเนื้อปู (added  value)  ปูพาสเจอร์ไรซ์จะเก็บรักษาได้นาน โดยที่คุณภาพและความสดเหมือนที่คุณแม่ต้มที่หลังบ้าน นั่นเป็นจุดโดดเด่นของเราและเป็นจุดเปลี่ยนจากการเป็นแม่ค้าปกติสู่การเป็นบริษัทในปัจจุบันค่ะ”

“พอเราจัดตั้งเป็นบริษัทแล้วนั่นหมายความว่า เราต้องมั่นใจว่ามีสินค้ามาป้อนโรงงานเพื่อผลิตส่งขายให้ทันตามออเดอร์ เราจึงเปิดรับปูจากหลายที่ ทั้งจากทางอ่าวไทย จากฝั่งอันดามัน เราก็จะมีลูกเรือประจำของเราอยู่แล้วก็จริง แต่อาหารทะเล ปริมาณจะได้มากน้อยมีปัจจัยอื่น ๆ มาเป็นตัวแปรด้วย เช่น สภาพอากาศ สภาพแวดล้อม อุณหภูมิของน้ำทะเล ลักษณะทางภูมิศาสตร์ ฤดูกาลวางไข่ เรามองว่าตัวปูม้ามีแนวโน้มในปัจจุบันค่อนข้างที่จะมีอัตราลดลงทุก ๆ ปี เพราะ 1. มีผู้บริโภคมีความต้องการจำนวนมาก 2. ไม่มีใครอนุรักษ์และให้การดูแลจริงจัง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม 3. สภาพอากาศที่อากาศร้อนขึ้นทุก ๆ ปี ซึ่งตรงนี้มันส่งผลต่อปริมาณวัตถุดิบ หรือต่อปูม้าในประเทศไทยมาก ๆ ทำให้แนวโน้มค่อนข้างลดลงไปทุกปี ในขณะเดียวกันผู้บริโภคยังมีความต้องการเท่าเดิม ดังนั้นเราจึงจัดทำโครงการธนาคารปูม้า ซึ่งเป็นโครงการที่เราพยายามศึกษาและพัฒนาปรับปรุงเกือบ 8 ปี เป็นโครงการที่เราสามารถเพาะพันธุ์ลูกปูได้เป็นล้าน ๆ ตัว แล้วเอาไปปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ ซึ่งต่อมาปูม้าเหล่านั้นก็จะกลับมาเป็นวัตถุดิบให้เรา เราจึงมีปูสดป้อนโรงงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ และเก็บเศษเปลือกปูจนสะอาดได้มาตรฐาน จัดเรียงอย่างสวยงามเหมือนคอนโด จนได้ฉายาว่าเป็น ‘ปูคอนโด’ ภายใต้แบรนด์ Siam Crab ค่ะ ปัจจุบันเป็นที่รู้จักของคนต่างชาติเป็นอย่างดี และเราภาคภูมิใจมาก ที่สร้างชื่อให้กับประเทศไทย Siam หมายถึงประเทศไทย Crab ก็คือปู พอเป็น Siam Crab ทุกคนจะรู้เลยว่านี่คือปูที่มาจากประเทศไทย แล้วก็ส่งไปวางขายทั่วโลก โดยเราเป็นเจ้าแรก ๆ ที่สามารถส่งออกไปขายยังสหรัฐได้ค่ะ สินค้าเราได้มาตรฐาน ทั้ง GMP/HACCP BRC ISO2019 ฮาลาล เป็นมาตรฐานระดับสากล”

“เราส่งออกดีมาตลอด จนกระทั่งมีโควิด-19 เกิดขึ้น หลายประเทศเริ่มปิดประเทศ ส่งออกไม่ได้ ตอนที่เรารู้ว่าโควิดมาแล้วและทราบว่าประเทศไทยก็ต้องปิดประเทศเหมือนประเทศอื่น ๆ เราได้มีการประชุมกันยกใหญ่ว่า เราจะต้องทำอย่างไร แต่สิ่งที่เรามั่นใจว่าเราว่ารอดก็คือ เรามี SCB SME อยู่ข้าง ๆ กับวิยะเครปตั้งแต่แรกเริ่มเลย คุณแม่จะพูดตลอดว่า ท่านอยู่กับ SCB มาเกินครึ่งชีวิตของเขา ตั้งแต่แรกเริ่มคือเขาไม่เคยเปลี่ยนใจไปไหนด้วย เนื่องจากว่า SCB เป็นผู้ที่คอยสนับสนุนคุณแม่ในด้านธุรกิจทุก ๆ เรื่อง แม้ว่าจะเป็นช่วงแรก ๆ ที่เพิ่งเริ่มนี่อาจจะต้องมีการกู้เงิน เพราะคุณแม่ของมาดี้ก็เริ่มจากการเป็นแม่ค้าในตลาดสดปกติ แต่ SCB คอยสนับสนุน คอยดูแล จนกระทั่งปัจจุบันที่เราไม่ได้มีเรื่องของสินเชื่อแล้วแต่ SCB SME ยังคอยซัพพอร์ต เราเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นด้าน social media  ด้านการตลาด คอยดูแล เต็มที่กับเรามาก ๆ เหมือนเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจกัน ระหว่าง SCB กับวิยะ เครป

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่เกิดวิกฤตโควิด SCB SME จะเข้ามาเสนอมาให้เราเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ตลอด เราไม่เคยไม่ร่วมสักโครงการเลยนะคะ เราร่วมหมด จนกระทั่งมีโครงการหนึ่ง เป็นโครงการ The DOTs ของ SCB SME ก็ลงสมัครไป และเข้าร่วมฟังด้วยตัวเอง ก็มีการเทรนเราเรื่องเครื่องมือออนไลน์ เราก็บอกว่ามีแค่เฟซบุ๊ก ทางวิทยากรของ SCB SME  ก็บอกว่า ไม่พอต้องหัดใช้ TikTok ด้วย เพราะ TikTok เป็นช่องทางที่สำคัญมาก  แล้วก็สอนลงลึกถึงการทำ content สอนอย่างละเอียด เราก็เอาคำแนะนำมารวมกับเฟซบุ๊กเพจที่เรามีอยู่เดิม จนช่องทางสื่อโซเชียลเราแข็งแรงมาก เฟซบุ๊กตอนนี้เรามีผู้ติดตามพุ่งเป็น 200,000 คน ใน TikTok ก็อีกประมาณ 90,000 กว่าคน แต่ยอดไลค์นี่พุ่งมากจากประมาณหลักพันดีดขึ้นเป็นล้านภายในไม่กี่วัน ทุกวันนี้เรายอดขายทางออนไลน์เป็นหลัก ทำให้เรารู้สึกรู้ซึ้งได้ว่า ช่วงที่เราเจอวิกฤตนี่อย่างน้อย เราได้ความรู้จาก SCB  SME แล้วก็รู้ว่า SCB SME คอยซัพพอร์ตอยู่ตลอด เต็มที่กับเราทุกทาง”

“SCB ในความคิดของมาดี้ เปรียบเสมือนเพื่อนที่ร่วมเดินทางด้วยกันตั้งแต่เริ่มต้นจวบจนปัจจุบัน เหมือนคนที่คอยพยุงในตอนที่เราเจอวิกฤต พยายามจัดหาสิ่งดี ๆ มาให้เรา เป็นเหมือนคู่แก้ปัญหาทางอ้อม อาจจะไม่ได้มานั่งแก้ให้โดยตรง แต่ว่าก็เป็นเสมือนเพื่อนที่จะสนับสนุนและสนับสนุนเราในตอนที่เราเจอวิกฤต คอยอยู่ข้าง ๆ เรา ทั้งตอนที่แย่และตอนที่ดี SCB ก็เหมือนเพื่อนร่วมเดินทางกันตั้งแต่รุ่นแม่จนตกมาสู่รุ่นลูกที่ยังคงร่วมเดินทางกันมาตลอด”