โอกาสในการทำธุรกิจ ยังเปิดกว้างเสมอสำหรับผู้ที่เห็นช่องทางในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ แม้จะเป็นเซ็กเมนต์ที่มีคู่แข่งอยู่จำนวนมากแล้วก็ตาม ปริญญา มานวงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท เอ็นเนอร์จี เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องปรับอากาศสัญชาติไทยแท้ ‘MAVELL’ ที่ไม่เคยปล่อยให้โอกาสหลุดมือ เมื่อเห็นช่องทางทางการตลาดจึงพร้อมลุยทันที แต่เหนืออื่นใด ในการทำธุรกิจที่ผ่านมา แม้จะประสบความสำเร็จมาตลอด ทว่า ช่วงวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน จนทำให้ระบบโลจิสติกส์ทั่วโลกหยุดชะงัก การรับมือกับปัญหาอย่างทันท่วงที รวมถึงการคาดการณ์ปัญหาที่จะตามมาในอนาคตและการให้การสนับสนุนด้านการเงินที่ชัดเจน ก็ทำให้นักธุรกิจหนุ่มท่านนี้ อุ่นใจที่มีมิตรแท้คอย #เคียงข้างเพื่อก้าวต่อไปด้วยกัน อย่างมั่นใจ

ก่อนจะเป็น MAVELL

“จริง ๆ ผมไม่ได้เรียนจบมาทางด้านการบริหารธุรกิจโดยตรงนะครับ แต่ผมมีความเชื่อลึก ๆ ว่า การเริ่มต้นและการลงมือทำโดยไม่รีรอย่อมจะมีความท้าทายระหว่างการเดินทางเสมอ ผมเริ่มต้นมาจากการที่มีโอกาสได้เข้าไปคลุกคลีในวงการเครื่องใช้ไฟฟ้า จนทำให้ผมได้รู้จักตัวแทนจำหน่ายหลาย ๆ ราย ได้รับรู้ถึงความต้องการในการซื้อเครื่องปรับอากาศ (demand) ของคนไทยที่ยังมีอีกมาก ผมจึงมองว่าธุรกิจนี้มีแนวโน้มที่ดี และมีความต้องการของตลาดมาก ๆ จึงเริ่มที่จะสนใจศึกษาข้อมูลต่าง ๆ และเริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้จริงจัง โดยเริ่มต้นมาจากการทำธุรกิจ OEM ก่อน รับผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อื่น ๆ จากนั้นจึงต่อยอดสู่การสร้างแบรนด์ของตัวเองในชื่อ MAVELL ซึ่งมาจากคำว่า marvel ที่แปลว่า มหัศจรรย์ แต่เราเลือกสะกดแบบนี้ เชื่อมโยงกับซูเปอร์ฮีโร่ เราต้องการจะสร้างความเป็นอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของตัวผลิตภัณฑ์ รวมถึงตัวแบรนด์ด้วยครับ เราต้องการจะสร้างธุรกิจเครื่องปรับอากาศ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี รวมถึงคุณภาพและราคาที่จับต้องได้”

“เป้าหมายและอุดมการณ์ในการสร้างแบรนด์ MAVELL ของเรา อย่างที่ผมบอกไปว่า เราต้องการให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี รวมถึงคุณภาพและราคาที่จับต้องได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการบริการที่รวดเร็วและดีที่สุดนะครับ ปัจจุบันเรากล้ายืนยันว่าแอร์ MAVELL เป็นเครื่องปรับอากาศที่มีการรับประกันที่ยาวนานที่สุดในประเทศไทย แต่การที่ MAVELL เติบโตได้รวดเร็ว ไม่ได้มีแค่การรับประกันที่ดีและยาวนานเท่านั้นนะครับ เราไม่ลืมเรื่องการพัฒนาบุคลากร คู่ค้าต่าง ๆ ของเรา รวมถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เราให้กับคู่ค้า และที่สำคัญที่สุดก็คือในเรื่องของการยกระดับช่างเครื่องปรับอากาศ จะทำอย่างไรให้ช่างที่เขาไม่มีแหล่งเงินทุน ที่เขาเป็นช่างธรรมดา เราจะช่วยเขาเป็นเถ้าแก่น้อยได้อย่างไร คือทำอย่างไรให้พวกเขาสามารถจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองได้ และไม่ลืมที่จะหาแนวทางในการนำเสนอแหล่งเงินทุนให้เขาด้วย เช่น การบริการต่าง ๆ ของธนาคาร ที่เราได้มีพูดคุยกัน เพื่อหาแหล่งเงินทุนต่าง ๆ สนับสนุนให้กับกลุ่มช่างของเราด้วย นอกจากนี้ เรายังจัดอบรมตั้งแต่ทั้งเรื่องการแต่งตัว บุคลิกภาพของช่างจะต้องเป็นอย่างไร ปัจจุบัน MAVELL มีศูนย์บริการอยู่ที่ 70 ศูนย์ เกือบจะครอบคลุมทั้งประเทศแล้วนะครับ”

“จากปีแรกเราทำยอดขายได้แค่ประมาณ 20 กว่าล้าน ทีนี้ในทุก ๆ ปียอดขายของเราเติบโตขึ้นมากกว่า 100% ซึ่งปัจจุบันผ่านมา 4 ปี แล้ว MAVELL มียอดขายประมาณ 450 ล้านแล้วนะครับ โดยเป้าหมายของเราในอีก 3 ปี ข้างหน้า เราตั้งเป้าว่าจะทำ MAVELL ให้เติบโตให้ถึง 1 พันล้านให้ได้ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นไม่ทันตั้งตัว โควิด-19 ส่งผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น การที่ไม่มีคนไปทำงานเพราะพวกเขามีปัญหาเรื่องการติดเชื้อโควิด สิ่งเหล่านี้ทำให้ค่าแรงแพงขึ้นและสูงขึ้น รวมถึงค่าน้ำมันที่สูงขึ้นก็ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่งแพงขึ้นด้วย คนที่ทำ OEM อย่างผมจะหนักสุด สินค้าส่งออกไม่ได้เพราะระบบโลจิสติกส์ติดขัด เรือขนส่งสินค้าไม่พอ ยิ่งมาเจอราคาค่าขนส่งพุ่งอีกยิ่งไปกันใหญ่ 3 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้ส่งออกเลย เนื่องจากส่งออกไม่ได้ แต่เราโชคดีอย่างหนึ่งคือ เรามีทีม SCB SME คอยช่วยสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวงเงินต่าง ๆ เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ วงเงินในการซื้อสินค้าเพื่อใช้ในการผลิตสินค้า ปัจจุบันนี้เราผลิตแอร์มากกว่า 200,000 ชุดต่อปีซึ่งต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1-2 พันล้าน ซึ่งก็ต้องขอบคุณ SCB ที่ให้การสนับสนุนทั้งแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม และการที่ทำให้บริษัทสามารถขยายโรงงานท่ามกลางวิกฤตรอบด้าน เรากำลังขยายโรงงานไปที่คลอง 9 ด้วย ก็มี SCB SME ที่เข้ามาสนับสนุนในเรื่องของวงเงินการก่อสร้างอาคาร โรงงาน และศูนย์ inspiration space เพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของเราไปได้มีความมั่นใจ และสามารถต่อยอดในการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับช่างทั่วประเทศได้ด้วยครับ”

“อุปสรรคเหล่านี้เป็นผลกระทบโดยตรงจากการระบาดของโควิด 19 แต่ก็ทำให้บริษัทเองต้องปรับกลยุทธ์มากขึ้นด้วย เราอยู่กับโควิดมา 3 ปี แล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทำให้การส่งออกถดถอยลง จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทต้องมุ่งเน้นเรื่องของการผลักดันผลิตภัณฑ์ MAVELL ให้เติบโตขึ้นภายในประเทศมากขึ้น เพื่อมาทดแทนในเรื่องของการส่งออก ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องแก้ปัญหาให้ได้ ราคาค่าขนส่งทางเรือ ที่เมื่อก่อนหนึ่งตู้คอนเทนเนอร์ราคาอยู่ที่ 8,000 - 10,000 บาท ปัจจุบันกระโดดขึ้นเป็น 30,000 บาท แบบนี้ ขยับขึ้นเป็น 100 - 200% และเมื่อเวลาเราส่งออกไม่ได้ สิ่งที่ตามมาก็คือ การค้าขายกับลูกค้าต่างประเทศ การจ่ายเงินเป็น LC term เพราะฉะนั้นเมื่อเราส่งสินค้าออกไป ผลิตเสร็จและส่งออกไปต่างประเทศแล้ว ลูกค้าได้รับของเรียบร้อยแล้ว ธนาคารของลูกค้าถึงจะโอนเงินมาให้เรา แต่ช่วงที่ผ่านมาธนาคารโอนเงินมาให้เราไม่ได้ เนื่องจากเราผลิตเสร็จ แต่ยังส่งออกไม่ได้ เนื่องจากหาตู้คอนเทนเนอร์ไม่ได้ ทำให้เกิดความล่าช้า ในเรื่องของการชำระเงินจากลูกค้าของเราที่ต่างประเทศมาให้เราก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน ในส่วนนี้ SCB SME ก็ได้ช่วยขยายระยะเวลาการชำระหนี้ รวมถึงอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ รวมถึงการปล่อยสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูสภาพคล่องให้กับทางบริษัทเรา เป็นสิ่งที่ผมประทับใจที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของการช่วยเหลือวงเงินฉุกเฉินระยะสั้น ในเรื่องของการ fixed forward rate ต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งที่เข้ามาช่วย เพราะค่าเงินผันผวนเหลือเกิน ก็มี SCB SME นี่แหละครับที่ช่วยดูแล” 

“ทุกวันนี้เราการเตรียมตัวสำหรับการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในอนาคต เราพัฒนา ศึกษา วิจัย เพื่อรอเวลา SCB SME เป็นเสมือนเพื่อนสนิทที่รู้ใจคนหนึ่งคอยอยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าเราจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น หรือเราต้องการความช่วยเหลืออะไร เพื่อนสนิทคนนี้ก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราเสมอ จะมองว่าเป็นความอบอุ่นในแบบของคนไทยก็ได้ อย่างเรื่องอิมพอร์ต/เอ็กซ์พอร์ต ต่าง ๆ  SCB SME ก็อัปเดตข่าวสารของสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกให้เรารับทราบ เพื่อช่วยในการตัดสินใจในทิศทางของธุรกิจในวันข้างหน้าได้เป็นอย่างดี เพราะสภาวการณ์ที่ economic slowdown ส่งผลให้การขนส่งไปต่างประเทศมีความหนาแน่นมาก ตัวคอนเทนเนอร์ก็หายาก ความแออัดของตัวท่าเรือเองก็มีมากเช่นกัน ค่าเงินผันผวน ทำให้ต้นทุนเหมือนจะสูงตามไปด้วย หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วอย่างนี้จะตั้งราคาได้ถูกต้องหรือ เรียนตามตรง กระทบมากครับ แต่สิ่งทำให้เรามั่นใจว่าเรามาถูกทางแน่นอน เพราะเราทราบข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จากทาง SCB SME ที่อัปเดตอยู่ตลอดทำให้เราคาดการณ์ได้ว่าปัญหาในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นคืออะไร เราก็เลยมีการเตรียมทำสต๊อกสินค้าไว้ ซึ่งปีที่ผ่านมาเราสต๊อกสินค้าไว้มากกว่าปกติ เพราะเรารู้ว่าปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นคืออะไร ทำให้วันนี้เราก็ยังได้ต้นทุนในราคาเดิมอยู่ ที่สามารถจะเพียงพอในการขยับขยายหรือในการขายในปีนี้และปีหน้าได้ครับ เราจึงอุ่นใจที่เลือกเข้ามาใช้บริการกับทาง SCB SME”