ในโลกธุรกิจยุคใหม่ ความยั่งยืนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง การใช้พลังงานสะอาด เช่น โซลาร์เซลล์ และการส่งเสริมประโยชน์สู่สังคม ล้วนเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่องค์กร นี่คือแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท เค.ซี. ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ที่มุ่งมั่นสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง

จากการรับซื้อมะขามหวานจากเกษตรกร สู่การแปรรูปเพื่อส่งออกระดับประเทศ

“โรงงานแห่งนี้ก่อสร้างเมื่อพ.ศ 2538 เป็นโรงงานขิง แล้วหลังจากนั้นผ่านไปสัก 3-4 ปี เราก็เห็นว่าพืชท้องถิ่นแถวนี้เต็มไปด้วยมะขามหวาน และมะขามฟักเปรี้ยว สมัยนั้นยังไม่มีการส่งออกไปต่างประเทศ เราก็เลยทดลองเอามะขามหวานของเราเสนอลูกค้าที่ต่างประเทศปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก เพราะว่าทั่วโลกมีแต่มะขามเปรี้ยวไม่มีมะขามหวาน”

   “ในแต่ละปีเราส่งออกประมาณ 500 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือประมาณ 5,000–7,000 ตัน แล้วแต่ผลผลิตมากหรือน้อย ถ้ามากเราก็ส่งได้มาก เพราะว่าทุกวันนี้ไม่พอขาย ส่วนบริษัทเราเองส่งออกอยู่ประมาณ 30-40 ประเทศ ตลาดหลักของเราอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แม้แต่ในยุโรปออสเตรเลีย เอเชีย และแอฟริกา ก็มีครบทุกที่”

   “จุดแข็งของโรงงานเราคือเรื่องคุณภาพจะต้องดีตั้งแต่ตอนรับซื้อเข้า จาก 100% ที่ซื้อเข้าจะทำการส่งออกได้จริง ๆ ไม่เกิน 70% เพราะว่าเราจะต้องคัดไม่ว่าจะเป็นพวกเชื้อรา แมลง สภาพฝักไม่สมบูรณ์เ รูปทรงไม่สวยพวกนี้เอาออกไป แล้วที่เหลือเราก็เอาไปสตรีมเพื่ออบไอน้ำแล้วหลังจากนั้นเราก็มาคัดอีกรอบหนึ่ง เพื่อให้ได้คุณภาพตามที่ต่างประเทศต้องการเพราะฉะนั้นโรงงานเรา จึงเป็นโรงงานอันดับแรก ๆ ในประเทศไทยที่ได้ใบอนุญาตของ FDA (Food and Drug Administration) ในอเมริกาในการนำเข้าไปขาย”

รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคายุติธรรม เพื่อคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของมะขาม

   “การรับซื้อของเรา ราคาก็จะสูงกว่าโรงอื่น ๆ ที่ เปิดรับซื้อเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนคัดเอาคุณภาพดี ๆ เข้ามาส่งก็ช่วยให้เกษตรกรแถวนี้เพิ่มมูลค่า ขึ้น โดยเราให้คัดผลผลิตดี ๆ เพื่อเอามาทำการส่งออก ทุกวันนี้ก็เติบโตขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนเยอะมากหลาย ๆปีที่ผ่านมา ราคาไม่มีตก เลยทำให้เกษตรกรมั่นใจสิ่งที่เขาปลูกแล้วอยู่ ได้สบาย ๆ ”

แนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน เพื่ออนาคตที่มั่นคง

   “ค่าไฟฟ้าถือว่าแพงมาก ในแต่ละเดือนเราจ่ายล้านกว่าบาท เราก็เลยคิดว่าต้องหาอะไรมาลดต้นทุน เราดูจากการเติบโตของธุรกิจชั้นนำของประเทศนี้ ทุก ๆองค์กรก็พยายามที่จะใช้แผงโซลาร์เซลล์ เราดูแล้วว่ามันช่วยได้จริง แผงโซลาร์รูฟนี้ประมาณ 5-6 ปีก็คืนทุนแล้ว หลังจากนั้นเหมือนกับว่าเราได้ใช้ไฟฟรีแล้ว ประกอบกับราคาแผงของเมืองนอกลดลงมาก จากเมื่อก่อนต่อหน่วยแพงกว่านี้เป็นเท่าตัว ปัจจุบันถูกลดลงมาก คำนวณแล้วใช้เวลาไม่นาน 5-7 ปีได้ทุนคืน จากสมัยก่อนใช้เวลาเป็น 10 ปี เพราะฉะนั้นมันก็น่าลงทุน”

SCB หนุนเสริมแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนเพื่อความสำเร็จในอนาคต

   “เราปรึกษากับหัวหน้าสินเชื่อของของไทยพาณิชย์ว่า เราอยากได้แผงโซลาร์รูฟเข้ามาช่วยเรื่องเรื่องค่าไฟ ไทยพาณิชย์ดีมาก สนับสนุนทันทีก็เลยเป็นที่มาของการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขึ้นมาโปรเจกต์แรกติดตั้งไปแล้วเรียบร้อยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จากวันนั้นถึงวันนี้ต้องขอบคุณไทยพาณิชย์ที่เข้ามาซัพพอร์ตเราให้เราเติบโตขึ้นมาเป็นร้อย ๆ เท่าจากเมื่อก่อน ขอบคุณมาก”

คำแนะนำสำหรับองค์กรที่ยังไม่ได้เริ่มต้นแนวคิด ESG ( Environment, Social and Governance)

   “ขอเชิญชวนเอ่อผู้ประกอบการทุก ๆ ท่าน ถ้าทุกท่านสามารถใช้แผงโซลาร์เซลล์เข้ามาช่วยธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใหญ่หรือเล็ก โซลาร์รูฟประมาณ 5-6 ปีก็คืนทุนแล้ว ขอเชิญชวนทุก ๆ ท่าน ท่านใดต้องการที่จะช่วยโลกร้อนแล้วก็เซฟเรื่องค่าไฟสามารถติดต่อทาง SCB ได้ เขาก็จะเขาจะช่วยซัพพอร์ตเรา” 


แนะนำเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

  • โซลูชันเพื่อธุรกิจรักษ์โลก (SME Green Finance)

    โซลูชันเพื่อธุรกิจรักษ์โลก (SME Green Finance)

    เพิ่มเติม
  • สินเชื่อเพื่อธุรกิจ

    ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อการลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณพร้อมสนับสนุนทุกธุรกิจให้ก้าวไกล

    เพิ่มเติม
  • อยากให้ธุรกิจคุณไปได้ไกลกว่าเดิมไหม

    เราพร้อมนำเสนอโซลูชัน
    ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ