หากเอ่ยชื่อเครื่องเทศสมุนไพร“พริกแห้ง หอม และกระทียม” เชื่อว่าเป็นของต้องมีในครัวแทบจะทุกบ้าน อีกทั้งยังเป็นวัตถุดิบที่อยู่ในอาหารไทยเมนูเด็ดหลากหลายเมนู

บริษัท  เจ เอ็น ที ที จำกัด จึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของตลาดผู้บริโภคภายในประเทศ  ที่แม้ในยามวิกฤตเราก็จะไม่ขาดแคลน

บริษัท  เจ เอ็น ที ที จำกัด เป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศอินเดียเป็นหลัก โดยเฉพาะพวกพริกแห้ง หอม และกระเทียม มันเป็นเครื่องครัวหลักที่ทุกบ้านจะต้องมี ก่อนหน้านี้คุณแม่ขายมะนาวอยู่ที่ตลาดไท แล้วเราก็มองเห็นว่ามะนาวมันเสียเร็ว 1 วันก็เสียแล้วมันก็จะเหลืองราคาก็จะตก เรามองว่าหอมและกระเทียม มันเป็นของแห้งมันไม่เสียเร็วอย่างน้อยมันไว้ได้ 7 วัน ถ้าเข้าห้องเย็นก็ไวได้เป็นปี เราก็เลยมองว่าตรงนี้มันมีโอกาสทางธุรกิจมากกว่ามะนาวมาก ๆ ครับ แล้วมันเป็นของที่ทุกคนต้องกิน ทุกบ้านต้องมี ตลาดมันกว้างกว่ามะนาวเยอะมาก เราก็เลยมองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่น่าสนใจมาก ผมเป็นคนมาเริ่มต้นเองตั้งแต่แรก ผมมองว่าอนาคตประชากรโลกเพิ่มขึ้นแต่อาหารมีเท่าเดิม อย่างไรอาหารก็ไม่พอกับปริมาณของคนที่เกิดขึ้นมา มันก็เลยกลายเป็นว่าสินค้าเกษตรตรงนี้มันเลยเป็นสิ่งสำคัญในการบริโภคของมนุษย์ จากร้านค้าเล็ก ๆ ในตลาดไทย ก็ค่อย ๆ ขยับขยายมาซื้อตึก แล้วก็สร้างเป็นห้องเย็น แล้วก็นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาขายในประเทศ

พาร์ทเนอร์ที่ดีคือพาร์ทเนอร์ที่เชื่อใจเรา เชื่อมั่นเราและสนับสนุนเราในทุกโอกาส RM ที่ดูแลเขาก็พยายามอยู่ประมาณ 2 ปี กว่าเราจะตอบรับเพื่อที่จะเป็นพันธมิตรกัน จังหวะนั้นช่วงโควิดราก็นำเข้าสินค้าเยอะ ทุกที่มันปิดใช่ไหมครับ แต่ของเราไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกิน SCB ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเราในการสนับสนุนเงินทุน ในการสนับสนุนทุกอย่าง ให้ทั้งข้อคิด ความรู้ และวิธีการในการนำเข้าสินค้า ถ้าถามว่าโตมาจุดนี้ได้ยังไงผมพูดเลยนะSCB เป็นสิ่งสำคัญ เป็นคนสนับสนุนทุกอย่างทำให้ธุรกิจเราโตมาได้ถึงทุกวันนี้ จากความรู้สึกจริง  ๆ อยู่มาแค่ 3 ปี ทำไมเราถึงโตแบบก้าวกระโดดขนาดนี้ พาร์ทเนอร์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ

เราเริ่มจากแบงก์ที่หนึ่ง แล้วเราก็มองว่า อ้าว! แบงก์ที่หนึ่ง ซึ่งเราอยู่มา 10 กว่าปี ทำไมเขาให้เรา 5 บาท SCB มาถึงบอกฉันให้ 8 บาท เขามองเห็นอะไรในตัวเรา แล้วทำไมแบงก์ที่หนึ่ง ถึงไม่กล้าให้เรา 8 บาทเท่า SCB ตรงนี้เราก็ไม่เข้าใจ แต่เรามองว่าอันนี้มันคือใจกับโอกาสที่เขาให้เรา แล้วเราจะไม่คว้ามันก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะเราอยากเติบโตอย่างมั่นคง ก็เติบโตจากวันนั้นที่เข้ามา 3 เท่าครับ แล้วเราก็อยากจะให้ SCB สนับสนุนเราในการเติบโตเพื่อที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตอีกต่อไปครับ

RM ก็เหมือนคนในครอบครัวเลยครับ เหมือนพี่เหมือนน้องเลยมีปัญหาอะไร RM จะช่วยดูแลช่วยแก้ไข วิ่งไปชนให้เราก่อนทุกครั้งเลยครับ RM เป็นส่วนสำคัญในการทำให้เราเดินต่อไปได้ เขามีอะไรก็จะมาบอกสนับสนุนมาช่วยเหลือขาดอะไรไหม ต้องการอะไรไหม เอาเงินอีกไหมหรืออะไรประมาณนี้ครับ คือเขาจะคอยสอบถามตลอดทุกเดือนเขาจะต้องเข้ามาหาเข้ามาดูแลเข้ามาเยี่ยมเยียน ถามว่าติดอะไรไหมปัญหาตรงไหนมีบอกพี่ได้นะเดี๋ยวพี่ช่วย เดี๋ยวพี่ไปคุยให้อะไรอย่างนี้ ครับไม่ได้เหมือนกับธนาคารดูแลลูกค้าเหมือนพี่ดูแลน้อง พาร์ทเนอร์ที่ดีหาที่ไหนก็ได้แต่ พาร์ทเนอร์ที่จริงใจ หาได้ที่ SCB นะครับ

ถ้าใครยังไม่เคยใช้บริการที่นี่นะครับ ก็เหมือนผมเมื่ออดีต พอวันนี้มาใช้ได้มีโอกาสมาใช้บริการ ทำไมเขาเชื่อใจเราขนาดนี้ ทำไมเขาให้โอกาสเรามากขนาดนี้ ผมมองว่า SCB คือคนที่ให้โอกาสผมในวันนั้น ถ้าไม่มีเขาในวันนั้นเราก็ไม่เติบโตมาถึงวันนี้ครับ ก็อยากให้คนที่ยังไม่เคยเปิดใจกับ SCB SME นะครับ อยากให้ลองมาดูว่าระบบที่ดีเป็นอย่างไร เพราะเขาได้แก้ไขจุดบกพร่องของแต่ละที่มาหมดแล้ว ซึ่งของเขาแทบจะไม่มีจุดบกพร่องเลย เพราะที่เราสัมผัสมานะครับแทบไม่มีเลย