ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมีมาตรวัดมากกว่าอัตรากำไรและส่วนแบ่งการตลาด เป็นเรื่องเกี่ยวกับความยั่งยืน ทั้งในแง่ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมทางสังคม ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของ KP AGRO (เค.พี. อะโกร) ผู้แข็งแกร่งในด้านโซลูชันการเกษตร เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของหลักจริยธรรมนี้ โดยกำหนดแนวทางสู่ความเป็นเลิศด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่มีนโยบายว่า “KP AGRO Always your friend”
กลุ่มบริษัท KP AGRO ดำเนินธุรกิจมากว่า 18 ปี ให้บริการทางการเกษตรอย่างครบวงจร อาทิ การให้บริการแปรรูปเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด การให้บริการฝากสินค้าห้องเย็น และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีเกษตร โดยให้ความสำคัญกับการจัดหานวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของคู่ค้า โดยมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นผู้นำด้านเครื่องจักรทางการเกษตรพลังงานชีวมวลจากซังข้าวโพด ปฏิวัติแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรไปพร้อม ๆ กับการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมอย่างน้ำมันดีเซลหรือแก๊สแอลพีจี ซึ่งเป็นที่ยอมรับและพึงพอใจของลูกค้าเป็นอย่างมาก
จึงเป็นโอกาสให้ได้เป็นพันธมิตรกับธุรกิจขายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดแบบลูกผสม (non-GMO ไม่ตัดต่อพันธุกรรม) โดยบริการอบแห้งเมล็ดข้าวโพดเริ่มจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และขยายโรงงานไปอีกหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดลพบุรี และจังหวัดนครราชสีมา KP AGRO ได้ขยายตลาดไปสู่ระดับโลก โดยให้บริการแก่บริษัทเมล็ดพันธุ์ชั้นนำและมีความสามารถในการอบแห้งเมล็ดพันธุ์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย กว่า25,000 ตัน ซึ่งมากกว่าความต้องการภายในประเทศไทย จากเดิมทีเราต้องนำเข้าเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ปัจจุบันได้กลายเป็นฐานการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ส่งออกไปทั่วโลก
นอกจากนี้ ความทุ่มเทของกลุ่มบริษัทต่อความรับผิดชอบต่อสังคมยังปรากฏชัดในพันธกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัท ซึ่งย่อมาจากตัวย่อ "SILA" หมายถึง มีความตั้งใจเติบโตอย่างยั่งยืน (SUSTAINABLE) ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและประเทศ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล จรรยาบรรณ และ ศีลธรรมอันดีงาม ด้วยการจัดหานวัตกรรม (INNOVATION) เพื่อทําให้การทํางานง่ายขึ้น และส่งมอบความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ดีขึ้น เสริมสร้างองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (LEARNING) กระตุ้นให้พนักงานมีความตื่นตัว กระตือรือร้นในการเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถในนวัตกรรม พร้อมจะปรับตัว (ADAPTATION) และตอบสนองต่อสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รวมถึงนวัตกรรมที่นำมาใช้ ความมุ่งมั่นนี้ เป็นแรงผลักดันให้มีการจัดตั้งแผนกความยั่งยืนโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจจะดำเนินการไปตามแนวทาง เพื่อสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร ส่งผลทำให้การดำเนินการสำเร็จ ตัวอย่างเช่น
อาคาร Zero Waste
เป็นการที่นำเศษเถ้าจากเชื้อเพลิงซังข้าวโพด นำมาวิจัยพัฒนา สูตรที่ผลิตใช้ผลิตเป็นอิฐก่อกำแพงเนื่องจากเดิมมีค่าใช้จ่ายในการจ้างทำลายเถ้า 15,000 บาทต่อ 1 คันรถ และยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมจากภาวะดินเป็นด่าง ทั้งยังเป็นการส่งเสริมกิจกรรมภายในองค์กร โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากทั้งผู้บริหารและพนักงานช่วยกันก่อสร้างจนแล้วเสร็จ เกิดเป็นความภาคภูมิใจร่วมกัน โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายในการจ้างรถขนเถ้าไปทิ้ง รวมถึงลดค่าใช้จ่ายการก่อสร้างได้มากถึง 50%
เชื้อเพลงชีวมวลจากฝุ่นการสีข้าวโพด
ในขั้นตอนการสีข้าวโพด จะมีเศษฝุ่นเป็นจำนวนมากส่งผลต่อสุขภาพพนักงานและสิ่งแวดล้อม วิธีการดูแลจัดการค่อนข้างยากเนื่องจากมีความหนาแน่นต่ำ บริษัทจึงได้คิดค้นวิธีการดักจับฝุ่นและการเพิ่มมูลค่า ทำให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้ ทั้งใช้เป็นเชื้อเพลงชีวมวล และทำเป็นอาหารสัตว์
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ คุณปรเมศ อิงสุวรรณ CEO ของกลุ่มบริษัท KP AGRO ได้ดำเนินการตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ ด้วยความเป็นวิศวกรและชื่นชอบการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เสมอ จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาโรงงานไปสู่ความยั่งยืน รวมทั้งการพัฒนาในเชิงสิ่งแวดล้อมด้วย การันตีความสำเร็จด้วยรางวัล SMEs Excellence Awards 2023 ประเภทธุรกิจบริการ โดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ด้วยหลักการทำงาน “ทำงานมีความเข้าใจลูกค้า มีความเข้าใจสินค้ามีสัญญากับลูกค้าที่ชัดเจนและพันธมิตรกับธนาคารทีดี”
ข้อพิสูจน์ทั้งหมดนี้ แสดงถึงพลังการบูรณาการคุณค่า ESG เข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อให้บริษัทยังคงเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำแนวคิดที่ว่าความสามารถในการทำกำไรและความรับผิดชอบต่อสังคมไม่จำเป็นต้องแยกออกจากกัน ดังคำขวัญว่า “มิตรแท้อย่างยั่งยืน”
เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ คอลัมน์
SME Game Changer: พลิกเกมธุรกิจ SME
วันที่ 10 เม.ย. 67
ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมีมาตรวัดมากกว่าอัตรากำไรและส่วนแบ่งการตลาด เป็นเรื่องเกี่ยวกับความยั่งยืน ทั้งในแง่ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมทางสังคม ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของ KP AGRO (เค.พี. อะโกร) ผู้แข็งแกร่งในด้านโซลูชันการเกษตร เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของหลักจริยธรรมนี้ โดยกำหนดแนวทางสู่ความเป็นเลิศด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่มีนโยบายว่า “KP AGRO Always your friend”
กลุ่มบริษัท KP AGRO ดำเนินธุรกิจมากว่า 18 ปี ให้บริการทางการเกษตรอย่างครบวงจร อาทิ การให้บริการแปรรูปเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด การให้บริการฝากสินค้าห้องเย็น และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีเกษตร โดยให้ความสำคัญกับการจัดหานวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของคู่ค้า โดยมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นผู้นำด้านเครื่องจักรทางการเกษตรพลังงานชีวมวลจากซังข้าวโพด ปฏิวัติแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรไปพร้อม ๆ กับการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมอย่างน้ำมันดีเซลหรือแก๊สแอลพีจี ซึ่งเป็นที่ยอมรับและพึงพอใจของลูกค้าเป็นอย่างมาก
จึงเป็นโอกาสให้ได้เป็นพันธมิตรกับธุรกิจขายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดแบบลูกผสม (non-GMO ไม่ตัดต่อพันธุกรรม) โดยบริการอบแห้งเมล็ดข้าวโพดเริ่มจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และขยายโรงงานไปอีกหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดลพบุรี และจังหวัดนครราชสีมา KP AGRO ได้ขยายตลาดไปสู่ระดับโลก โดยให้บริการแก่บริษัทเมล็ดพันธุ์ชั้นนำและมีความสามารถในการอบแห้งเมล็ดพันธุ์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย กว่า25,000 ตัน ซึ่งมากกว่าความต้องการภายในประเทศไทย จากเดิมทีเราต้องนำเข้าเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ปัจจุบันได้กลายเป็นฐานการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ส่งออกไปทั่วโลก
นอกจากนี้ ความทุ่มเทของกลุ่มบริษัทต่อความรับผิดชอบต่อสังคมยังปรากฏชัดในพันธกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัท ซึ่งย่อมาจากตัวย่อ "SILA" หมายถึง มีความตั้งใจเติบโตอย่างยั่งยืน (SUSTAINABLE) ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและประเทศ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล จรรยาบรรณ และ ศีลธรรมอันดีงาม ด้วยการจัดหานวัตกรรม (INNOVATION) เพื่อทําให้การทํางานง่ายขึ้น และส่งมอบความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ดีขึ้น เสริมสร้างองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (LEARNING) กระตุ้นให้พนักงานมีความตื่นตัว กระตือรือร้นในการเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถในนวัตกรรม พร้อมจะปรับตัว (ADAPTATION) และตอบสนองต่อสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รวมถึงนวัตกรรมที่นำมาใช้ ความมุ่งมั่นนี้ เป็นแรงผลักดันให้มีการจัดตั้งแผนกความยั่งยืนโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจจะดำเนินการไปตามแนวทาง เพื่อสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร ส่งผลทำให้การดำเนินการสำเร็จ ตัวอย่างเช่น
อาคาร Zero Waste
เป็นการที่นำเศษเถ้าจากเชื้อเพลิงซังข้าวโพด นำมาวิจัยพัฒนา สูตรที่ผลิตใช้ผลิตเป็นอิฐก่อกำแพงเนื่องจากเดิมมีค่าใช้จ่ายในการจ้างทำลายเถ้า 15,000 บาทต่อ 1 คันรถ และยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมจากภาวะดินเป็นด่าง ทั้งยังเป็นการส่งเสริมกิจกรรมภายในองค์กร โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากทั้งผู้บริหารและพนักงานช่วยกันก่อสร้างจนแล้วเสร็จ เกิดเป็นความภาคภูมิใจร่วมกัน โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายในการจ้างรถขนเถ้าไปทิ้ง รวมถึงลดค่าใช้จ่ายการก่อสร้างได้มากถึง 50%
เชื้อเพลงชีวมวลจากฝุ่นการสีข้าวโพด
ในขั้นตอนการสีข้าวโพด จะมีเศษฝุ่นเป็นจำนวนมากส่งผลต่อสุขภาพพนักงานและสิ่งแวดล้อม วิธีการดูแลจัดการค่อนข้างยากเนื่องจากมีความหนาแน่นต่ำ บริษัทจึงได้คิดค้นวิธีการดักจับฝุ่นและการเพิ่มมูลค่า ทำให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้ ทั้งใช้เป็นเชื้อเพลงชีวมวล และทำเป็นอาหารสัตว์
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ คุณปรเมศ อิงสุวรรณ CEO ของกลุ่มบริษัท KP AGRO ได้ดำเนินการตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ ด้วยความเป็นวิศวกรและชื่นชอบการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เสมอ จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาโรงงานไปสู่ความยั่งยืน รวมทั้งการพัฒนาในเชิงสิ่งแวดล้อมด้วย การันตีความสำเร็จด้วยรางวัล SMEs Excellence Awards 2023 ประเภทธุรกิจบริการ โดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ด้วยหลักการทำงาน “ทำงานมีความเข้าใจลูกค้า มีความเข้าใจสินค้ามีสัญญากับลูกค้าที่ชัดเจนและพันธมิตรกับธนาคารทีดี”
ข้อพิสูจน์ทั้งหมดนี้ แสดงถึงพลังการบูรณาการคุณค่า ESG เข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อให้บริษัทยังคงเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำแนวคิดที่ว่าความสามารถในการทำกำไรและความรับผิดชอบต่อสังคมไม่จำเป็นต้องแยกออกจากกัน ดังคำขวัญว่า “มิตรแท้อย่างยั่งยืน”
เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ คอลัมน์
SME Game Changer: พลิกเกมธุรกิจ SME
วันที่ 10 เม.ย. 67