5 เทคนิคเขียนประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีให้ดูแกรนด์

ในโลกของมนุษย์เงินเดือนการถูกประเมินผลงานประจำปี (Performance Evaluation) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และยังมีผลต่อการปรับเงินเดือนประจำปี การเลื่อนขั้น รวมทั้งโบนัสที่จะได้ตามผลงานในรอบปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ทั้งพนักงานและหัวหน้างานใช้เป็นเครื่องมือในการพูดคุยกันเพื่อการพัฒนาการทำงานในปีต่อๆ ไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการตั้งเป้าหมายการทำงานทั้งในส่วนบุคคลและของทีมอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดทั้งต่อตัวเองและของทีมเรามีเทคนิคในการเขียนการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีให้ดูดีมาฝากกัน

1. แสดงความภาคภูมิใจ

วัตถุประสงค์หลักอย่างหนึ่งของการเขียนการประเมินผลตัวเอง (self-evaluation) คือการแสดงถึงความสำเร็จในการทำงานที่ผ่านมาในรอบปีของเรา รวมทั้งการพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ การเขียนประเมินผลงานตัวเองควรระบุงานหรือโครงการที่ทำอย่างชัดเจน เลือกงานหรือโครงการที่เราทำผลงานได้ดีที่สุดไล่ลงมา ในการเขียนอธิบายความสำเร็จในงานแต่ละชิ้นควรเน้นที่ผลลัพธ์ที่งานชิ้นนั้นสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจ ให้กับองค์กรได้อย่างไรบ้าง เราต้องสามารถสร้างความเชื่อมโยงระหว่างงานที่เราทำกับเป้าหมายขององค์กรหรือของแผนก ซึ่งทำให้ผู้บริหารสามารถเห็นภาพของเราว่ามีความสำคัญกับองค์กรอย่างไร ดังนั้นงานที่เราทำสำเร็จต้องสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจขององค์กรด้วย

2.เขียนด้วยความซื่อตรง

เขียนด้วยความซื่อตรงและกล้าพูดถึงจุดอ่อนของตัวเองที่สามารถพัฒนาได้การประเมินผลการปฏิบัติงานของตัวเองไม่ใช่เพียงแค่การเยินยอความสำเร็จของตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่ควรระบุถึงข้อผิดพลาดที่คุณเรียนรู้จากการทำงานและคิดว่าจะสามารถพัฒนาจุดอ่อนเหล่านั้นได้อย่างไร เป็นการบอกว่าคุณเรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่ผ่านมาและอยากปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งการกล้าบอกความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่พร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ วิธีการเขียนคือคุณได้ลงมือทำอะไร และคุณได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งนั้น และจะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไร

3.พร้อมที่จะพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อีกสิ่งสำคัญในการเขียนการประเมินตัวเองคือ สะท้อนภาพความเป็นคนที่พร้อมจะปรับเปลี่ยน พร้อมที่จะเรียนรู้และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามโลกที่เปลี่ยนเร็วมากในยุคปัจจุบัน  ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ต้องยืนหยัดที่จะพัฒนาตัวเอง ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะไปถึงในปีต่อไป จะแสดงให้เห็นว่าคุณไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาและเติบโตต่อไป และพร้อมจะปรับเปลี่ยนตัวเองให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอ

4. เก็บข้อมูลความสำเร็จในงาน

ในการทำการประเมินผลตัวเอง คุณต้องสามารถแสดงข้อมูลที่เห็นได้ชัดเจนว่าคุณได้ทำอะไรไปบ้างในรอบปีที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร การเก็บข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบจะใช้เป็นข้อยืนยันที่จับต้องได้ที่จะใช้เป็นหลักฐานว่าคุณทำอะไรไปบ้างตลอดปีที่ผ่านมา ดังนั้นเริ่มบันทึกผลงานที่คุณทำตั้งแต่ต้นแต่และทำไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี เมื่อถึงเวลาของการประเมินผลคุณก็มีข้อมูลพร้อมที่จะสนับสนุนเป็นหลักฐานที่จับต้องได้ โดยไม่ต้องมาเร่งรีบทำตอนปลายปี

5. มีความเป็นมืออาชีพ

เขียนการประเมินผลงานตัวเองอย่างมืออาชีพข้อหนึ่งคือการไม่กล่าวโทษคนอื่น เช่น ไม่เขียนโทษคนอื่นว่าทำให้งานไม่สำเร็จ วิจารณ์หัวหน้าว่าไม่มีความเป็นผู้นำ หรือเพื่อนร่วมงานไม่ให้ความร่วมมือ นั่นเป็นการแสดงความไม่เป็นมืออาชีพ อีกสิ่งสำคัญคือควรตรวจสอบภาษาที่ใช้ในการเขียน การสะกดคำ การเลือกใช้คำต่างๆ ให้เหมาะสมด้วย

แม้ว่าการต้องถูกประเมินผลการทำงานทุกสิ้นปีอาจจะดูเป็นเรื่องที่กดดันและอาจก่อความเครียดอยู่บ้าง แต่ถ้ามองในแง่ที่ดี ถ้าเราทำงานอย่างเต็มที่และมีผลงานประจักษ์ชัดนี่ก็เป็นโอกาสของเราที่จะทำให้องค์กรได้รับรู้ นอกจากนั้นการประเมินผลยังทำให้เราเห็นจุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง เพื่อจะได้นำมาเรียนรู้พัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่เก่งขึ้นรวมทั้งปรับตัวให้ทันกับโลกที่ต้องการคนที่มี Skill ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา  นอกจากทำงานประจำให้เต็มที่แล้วมนุษย์เงินเดือนควรใส่ใจกับการลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงยรวมทั้งใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้เต็มที่ SCB มีกองทุนรวมทั้ง RMF และ SSF ที่มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
 

อ้างอิง

https://www.businessnewsdaily.com/5379-writing-self-assessment.html